มารวยฯ มองEECหนุนอสังหาฯแปดริ้ว
ปลื้มยอดขาย “มารวยโสธร 4” ทะลุเป้า
“มารวย เรียลเอสเตทฯ” เปิดภาพรวมอสังหาฯ ฉะเชิงเทรา โครงการ EEC หนุนโต 5-10% เสริมอานิสงส์การเติบโตของโครงการในอดีต ทั้งอีสเทอร์นซีบอร์ด สนามบิน ขณะที่ค่ายอสังหาฯรายใหญ่สยายปีกลงทุนเพิ่ม ผุดโครงการแนวราบ โดยมีบ้านโพธิ์ ทำเลเด่น แข่งขันสูง ปลื้มยอดขาย “โครงการมารวยโสธร4” ทะลุเป้า ล่าสุดจัดงาน “Big Thanks ลดให้สุด หยุดที่ มารวย” ระหว่างวันที่ 14-15 ก.ย. หวังยอดขายในงาน 100 ล้านบาท คาดภายในสิ้นปี62 ถึงต้นปี 63 ปิดการขายได้ เล็งขยับทำบ้านราคา 5 ล้านบาทขึ้นไปปีหน้า จากเดิมราคาหลักอยู่ที่ 3-5ล้านบาท
ดร.สืบวงษ์ สุขะมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มารวย เรียลเอสเตท จำกัด ผู้นำในตลาดอสังหาริมทรัพย์ภาคตะวันออก พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยภายใต้แบรนด์ “บ้านมารวย” เปิดเผยถึงสถานการณ์ที่อยู่อาศัยในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราในปี 2562 ว่า คาดว่ายังคงมีการเติบโตต่อเนื่อง ราว 5-10% จากหลายปัจจัยเกื้อหนุน โดยเฉพาะมีโครงสร้างพื้นฐานจากโครงการเก่าอีสต์เทิร์นซีบอร์ด การมีท่าเรือน้ำลึก สนามบิน ขณะเดียวกันยังเป็นจังหวัดที่น้ำไม่ท่วม การเป็นเมืองท่องเที่ยว ขณะเดียวกันการเป็นจังหวัดในพื้นที่โครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี)ยิ่งส่งเสริมการเติบโต
ทั้งนี้ฉะเชิงเทราเป็นจังหวัดที่มีโครงการที่อยู่อาศัยติดอันดับขายที่ดีสุด โดยจำนวนโครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการขายมีจำนวน 66 โครงการ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีโครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างขาย เพียง 51 โครงการเท่านั้น ในจำนวน 66 โครงการ มีหน่วยในผังของทุกโครงการรวมกัน 14,310 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 40,784 ล้านบาทมีหน่วยเหลือขายหรือเป็นอุปทาน ในตลาด 5,107 หน่วย คิดเป็นมูลค่าหน่วยเหลือขาย 13,729 ล้านบาท แบ่งเป็น บ้านจัดสรร 63 โครงการ มูลค่า 39,476 ล้านบาท อาคารชุด 3 โครงการ มูลค่า 361 ล้านบาท
นอกจากนี้จากการสำรวจของบริษัทพบว่าในปีนี้มีบริษัทรายใหญ่ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ประมาณ 3-4 ราย ซึ่งเข้ามาพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยประเภทแนวราบ อาทิ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จํากัด (มหาชน) , บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด มหาชน และล่าสุดบริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ โกลเด้นแลนด์ และที่กำลังจะเข้ามาพัฒนาในเร็วๆ นี้ คือ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)
บ้านมารวยโสธร4
โดยโซนอำเภอบ้านโพธิ์ เป็นทำเลเด่น เนื่องจากอยู่ในใกล้นิคมอุตสาหกรรม ทั้งอมตะ เวลโกรว์ รวมถึงนิคมทีเอดี 2 ที่กำลังจะเกิด ทำให้เกิดแรงงานจำนวนมาก แต่ก็มีความกังวล เรื่องของซัพพลายที่ออกสู่ตลาดจำนวนมาก เพื่อรองรับผลอานิสงส์จากอีอีซี แต่จากประสบการณ์ที่บุกเบิกตลาดอสังหาฯในภาคตะวันออก ทำให้เข้าใจสภาพตลาดอสังหาฯในจังหวัดฉะเชิงเทราดีว่า กำลังซื้อส่วนใหญ่จะเป็นคนในพื้นที่ ทำงานอยู่ในบริเวณนี้ทำให้ตัวเลขเติบโตไม่สูง อีอีซี ยังไม่ได้ดึงดูดนักลงทุนเข้ามามากนัก แรงงานยังไม่ตามมา กำลังซื้อจึงไม่เพียงพอรองรับจำนวนโครงการที่เปิดตัว อาจส่งผลให้เกิดภาวะโอเวอร์ซัพพลายได้ ดังนั้น สิ่งสำคัญ รัฐบาลต้องจูงใจนักลงทุนเข้ามา เพื่อให้มีโอกาสมากกว่าประเทศเพื่อนบ้านอย่าง เวียดนาม และกัมพูชา”
ดร.สืบวงษ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการพัฒนาโครงการของบริษัทมารวยฯ ปัจจุบันมีโครงการกระจายอยู่ในภาคตะวันออกประมาณ 12-13 โครงการ โดยอยู่ระหว่างการขายเพียง 5 โครงการ อาทิเช่น บ้านมารวย สระแก้ว,บ้านมารวย อรัญประเทศ,บ้านมารวย แหลมฉบัง,โครงการวิคทอเรีย และบ้านมารวยโสธร 4 ซึ่ง บ้านมารวยโสธร 4 นั้น มีการปรับรูปแบบโครงการให้เหมาะสมกับกำลังซื้อและราคาที่ดิน โดยมีการเพิ่มบ้านแฝดอารมณ์บ้านเดี่ยวเข้ามาเสริมสินค้าบ้านเดี่ยว แบ่งเป็น บ้านเดี่ยว 50 หลัง และบ้านแฝด 100 หลัง
ทั้งนี้ไม่ได้กังวลในเรื่องของคู่แข่งที่เข้ามา เพราะมีจุดได้เปรียบหลายประการ อาทิ มารวยฯมีที่ดินสะสม(แลนด์แบงก์)รอการพัฒนาอีกเป็นจำนวนมาก ทำให้มีต้นทุนถูกกว่าคู่แข่งที่จะต้องหาซื้อที่ดินในราคาที่สูงกว่า หากจะขยับราคาพัฒนาโครงการ มารวยฯสามารถปรับราคาขึ้นได้เช่นกัน โดยปัจจุบัน ราคาที่ดินติดถนนขยับขึ้นมาอยู่ที่ 8-10 ล้านบาทต่อไร่ ในซอยเมื่อ 3-5 ปีที่ผ่านมาราคา 2-3 ล้านบาท เพิ่มเป็น 4-5 ล้านบาทต่อไร่ หรือแม้แต่ที่ดินตาบอดเสนอขาย 1-2 ล้านบาทต่อไร่
มารวยทำบ้านราคาระหว่าง 3-5 ล้านบาทเป็นหลัก แต่อนาคตจะเริ่มขยับขึ้นไปทำบ้านราคามากกว่า 5 ล้านบาทด้วย ซึ่งคาดว่าจะได้เห็นในปีหน้า เพื่อให้สอดรับกับราคาที่ดิน ส่วนการทำโครงการระดับ 10 ล้านบาทนั้นต้องอยู่ตามแนวถนนมอเตอร์เวย์-วัดหลวงพ่อโสธร แต่คงทำระดับราคา 5 ล้านบาทก่อน
ส่วนบ้านมารวยโสธร 4 ปัจจุบันมียอดขายไปกว่า 80% คาดว่าภายในสิ้นปี62 ถึงต้นปี 63 จะสามารถปิดการขายได้ทั้งโครงการ ซึ่งล่าสุดบริษัทจัดงาน “BIG THANKS ลดให้สุดหยุดที่ มารวย” อัดโปรโมชั่นพิเศษช่วงปลายปี ด้วยราคาพิเศษเริ่มต้นเพียง 2.92 ล้านบาท ภายในงานวันที่ 14-15 กันยายน โดยตั้งเป้ายอดขายงานนี้ไว้ที่ 100 ล้านบาท แต่ยอดขาย8 เดือนที่ผ่านมา ถือว่า เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ โดยตั้งเป้ายอดขายเติบโตไว้ที่ 10-15%
ดร.สืบวงษ์ ยังเปิดเผยด้วยว่า บ้านมารวยโสธร 4 เป็นโครงการที่คว้ารางวัล Highly commended : Best Housing Interior Design รางวัลยกย่องพิเศษด้านการออกแบบตกแต่งภายในที่อยู่อาศัยที่ดีที่สุดจาก Thailand Property Awards 2018 ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของบริษัทที่ได้รับรางวัลนี้ เพราะตรงกับแนวคิดของบริษัทที่ต้องการสร้างพื้นที่ภายในให้มีความสมดุลในการใช้ชีวิตและตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐานของผู้อยู่อาศัยได้ในทุกๆ ช่วงวัย โดยเน้นการออกแบบตกแต่งภายใต้คอนเซปต์ Modern-Classic-Loft Style เน้นใช้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว ที่แสดงให้เห็นถึงผิวสัมผัส ไม้ หนัง ผ้า อย่างชัดเจน และงานผนัง Built-in ใน Style Classic ที่ลดทอนรายละเอียดลง ให้ความรู้สึกสมัยใหม่รวมถึงการเลือกใช้ของประดับตกแต่งที่มีรายละเอียดตามสไตล์ที่เลือกไว้ผสมผสานและสร้างบรรยากาศภายในบ้านได้อย่างลงตัว
“การออกแบบตกแต่งภายในเน้นคอนเซ้ปต์ สไตล์นอร์ดิก เน้นโทนสีที่มีความสว่างอบอุ่น รวมไปถึงการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ที่ไม่เน้นความสมดุลของเฟอร์นิเจอร์มากนัก เพื่อให้เกิดความหลากหลาย เน้นใช้โทนสีอ่อนไปจนถึงสีขาว ให้ความรู้สึกโปร่ง รู้สึกไม่อึดอัด นอกจากนี้บริษัทยังเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่ได้มาตรฐานของ SCG และ บุญถาวร และวัสดุอื่นๆ ที่ได้มาตรฐาน มอก. และกระจกรอบบ้านจะเป็นกระจกเขียวตัดแสงซึ่งสามารถกรองความร้อนได้มากกว่ากระจกทั่วไปถึง 20 % และมีผิวเรียบทำให้บ้านดูสว่างขึ้น”