‘Vivo V17’ สมาร์ทโฟนสุดล้ำ ฉีกทุกข้อจำกัด ด้วยหน้าจอ Ultra O Screen กล้อง 5 ตัว กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล
“วีโว่” เปิดตัวสมาร์ทโฟนสุดล้ำ “Vivo V17” ในไทย พิเศษด้วยนวัตกรรมหน้าจอ Ultra O Screen ทำให้ผู้บริโภคได้ประสบการณ์ใหม่ที่เหนือจินตนาการ พร้อมด้วยกล้องระดับมืออาชีพทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังรวมทั้งหมด 5 ตัว ผู้บริโภคสามารถสนุกกับการถ่ายภาพแบบไร้ขีดจำกัด อีกทั้งการออกแบบที่ล้ำสมัยด้วยสีสันที่สวยงาม และพื้นผิวมันวาว วีโว่ V17 จึงเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับผู้บริโภคยุคใหม่ที่มีสไตล์
นายวีรนรินทร์ เด่นชัย ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ของวีโว่เปิดเผยว่า “ V17 ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน ซึ่งเราภูมิใจในนวัตกรรมสุดล้ำนี้เป็นอย่างมาก ทั้งการออกแบบให้มีกล้อง 5 ตัว มาพร้อมกับหน้าจอ Ultra O Screen ทำให้ผู้บริโภคได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ในการถ่ายภาพ แบบเหนือจินตการ ได้อย่างไร้ขีดจำกัด ที่สำคัญนวัตกรรมของ V17 นี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงจุดแข็งของเราในการเป็นนวัตกรรมที่เน้นให้ผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง อีกทั้งยังตอกย้ำบทบาทของเราในฐานะผู้บุกเบิกในการนำประสบการณ์ที่ดีที่สุดของสมาร์ทโฟนมาสู่ตลาดประเทศไทยอีกด้วย”
หน้าจอ Ultra O เปิดตัวในตลาดแล้ว
V17 ประกอบด้วย นวัตกรรมหน้าจอแบบ Super AMOLED Ultra O Screen เป็นการออกแบบกล้องหน้าที่บางที่สุดในตลาด จอแสดงผล FHD+ ขนาด 6.44 นิ้ว พร้อมกล้องหน้าสุดคมชัด กว้าง 2.98 มม. พร้อมรูปลักษณ์ที่ทันสมัยโดยไม่ทำให้ประสบการณ์การรับชมลดลง ซึ่งหน้าจอล้ำสมัย Super AMOLED นี้ ประกอบด้วย อัตราส่วนภาพ 20:9 ทำให้ได้สีสันคมชัด เหมือนจริง อีกทั้งมีกรองแสงห้าสี 42%
สมาร์ทโฟนยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอนวัตกรรมเอกลักษณ์ของ Vivo ด้วยความละเอียดที่สูงขึ้นของพิกเซลสแกนลายนิ้วมือ และระบบอัลกอริทึมที่มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ใช้งาน สามารถปลดล็อกโทรศัพท์สมาร์ทโฟนได้อย่างปลอดภัย และง่ายขึ้น
กล้องหลัง 48 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล ให้ผู้บริโภคได้บันทึกทุกช่วงเวลาสำคัญในชีวิต
สมาร์ทโฟน V17 ประกอบด้วย กล้อง AI Quad ที่มีประสิทธิภาพสูง ให้ผู้บริโภคเพลิดเพลินอย่างไร้ขีดจำกัด กับกล้องทั้ง 5 ตัว ได้แก่ กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล กล้อง Super Wide-Angle 8 ล้านพิกเซล กล้อง 2 ล้านพิกเซล และ กล้อง Bokeh 2 ล้านพิกเซล ด้วยอัลกอริทึม AI ที่จะนำประสบการณ์ใหม่ในการถ่ายภาพโดยจับภาพได้ดี และชัดเจนยิ่งขึ้น อีกทั้งสมาร์ทโฟนยังมีเลนส์ถ่ายภาพเซลฟี่มุมกว้างพิเศษ Super Wide-Angle ที่ขยายภาพถ่ายทิวทัศน์ให้มีมุมกว้างอย่างไร้ขีดจำกัด
กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล ทำให้มั่นใจได้ว่าทุกรายละเอียดของทุกการเซลฟี่จะถูกบันทึกไว้อย่างคมชัด และรองรับการเซลฟี่แบบกลุ่มได้เป็นอย่างดี เพื่อให้การถ่ายภาพสมบูรณ์แบบอย่างมืออาชีพ V17 ได้ออกแบบ Super Night Mode และ Super Night Selfie เพื่อทำให้เพิ่มความคมชัดในการถ่ายกลางคืน ให้ได้ภาพที่มีคุณภาพดีที่สุดในทุกที่ ทุกเวลาอีกด้วย
แบตเตอรี่มีความจุมากขึ้นและประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์ที่แข็งแกร่งเพื่อรองรับการใช้งานตลอดทั้งวัน
V17 ออกแบบมาเพื่อให้ผู้บริโภคสามารถใช้งานต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันด้วยสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน โซเชียลหรือเพื่อความบันเทิง ซึ่งมาพร้อมหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 675 AIE RAM 8GB และ ROM 256GB สามารถใช้งานหลายแอปพลิเคชั่นพร้อมกันได้อย่างไหลลื่น และรองรับประสิทธิภาพการใช้งานของระบบ และแอปพลิเคชั่นให้สามารถทำงานได้อย่างราบรื่นตลอดเวลา แบตเตอรี่ความจุ 4500mAh พร้อมเทคโนโลยีการชาร์จเร็วแบบ Dual-Engine Fast Charging ที่จะนำมาซึ่งความทนทานที่สูงขึ้น และการชาร์จที่เร็วขึ้นเพื่อให้มั่นใจว่าแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานและปลอดภัยสำหรับนักเล่นเกมที่กำลังมองหาประสบการณ์การเล่นเกมผ่านสมาร์ทโฟนได้อย่างไหลลื่นไม่มีสะดุด V17 ออกแบบมาสำหรับนักเล่นเกมเช่นกัน โดยมาพร้อมกับโหมดเกม Ultra Game Mode ที่ได้รับการออกแบบให้ดียิ่งขึ้นที่จะมอบประสบการณ์การเล่นเกมอย่างเหนือชั้นได้อย่างไหลลื่น และ Multi-Turbo เทคโนโลยีการเพิ่มความเร็วที่จะปรับแต่งระบบปฏิบัติการอย่างชาญฉลาดเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินกับเกมที่น่าตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ V17 ยังมาพร้อมกับฟังก์ชัน “Voice Changer” ฟังก์ชันเปลี่ยนเสียงในเกมที่สามารถเพิ่มสีสัน และความสนุกในช่วงเวลาของการเล่นเกมด้วยเอฟเฟกต์เสียงตัวละครในเกมที่หลากหลายอีกด้วย
สมาร์ทโฟนVivo V17 มีสองสีให้เลือก คือ Admiral Blue และ Crystal White
รายละเอียดการสั่งซื้อ
V17 Admiral Blue และสี Crystal White จะมีการวางจำหน่ายที่ประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 20 ธันวาคม 2562 นี้ ที่ Vivo Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
อนึ่ง “Vivo” เป็นแบรนด์สมาร์ตโฟนระดับโลกที่มุ่งเน้นนวัตกรรมที่ดีเยี่ยมและบริการที่เป็นเลิศและเน้นเรื่องระบบอินเตอร์เน็ตที่ใช้สำหรับโทรศัพท์โดยเฉพาะ และเป็นเจ้าของและผู้ให้บริการเครือข่ายการวิจัย โดยมีศูนย์ R&D ทั้งในซานดิเอโก้ เซินเจิ้น หนานจิง ปักกิ่ง หางโจวและไทเป โดยศูนย์เหล่านี้เน้นการวิจัย และพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ สำหรับผู้บริโภค เช่น 5G AI การถ่ายภาพด้วยโทรศัพท์ และดีไซน์สมาร์ตโฟนยุคใหม่ Vivo ยังได้จัดตั้งฐานการผลิต 5 แห่งทั่วโลก ทั้งในประเทศจีน เอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
Vivo มีผู้ใช้งานกว่า 2 ร้อยล้านคนทั่วโลก ที่เพลิดเพลินกับผลิตภัณฑ์และการบริการ โดยปัจจุบัน Vivo มีจำหน่ายใน 18 ประเทศทั่วโลก และมีร้านค้าตัวแทนจำหน่ายกว่า 1,000 เมืองทั่วโลก