พาณิชย์ผนึกหลายภาคส่วนสัมมนา “เศรษฐกิจทันสมัยการค้าก้าวไกลไปกับดิจิทัล” พัทลุง
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อม ปลัดกระทรวงพาณิชย์ อธิบดีกรมการค้าภายใน อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม คุณหญิงกัลยาโสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายนริศ ขำนุรักษ์ สส.จังหวัดพัทลุง และคณะส.ส.และอดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมกิจกรรมงานสัมมนา “เศรษฐกิจทันสมัยการค้าก้าวไกลไปกับดิจิทัล” ที่โรงแรมชัยคณาธานี จังหวัดพัทลุง บรรยากาศเต็มไปด้วยความครึกครื้นและมีสีสันเนื่องจากกลุ่มแม่บ้านผู้ประกอบการท้องถิ่นประเทศโอทอปหรือผลิตภัณฑ์พื้นบ้านแห่เซลฟี่กับประธานเปิดงาน และตื่นเต้นที่จะได้อบรมสัมมนาความรู้ด้าน การค้าออนไลน์
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ประธานเปิดการสัมมนา “เศรษฐกิจทันสมัยการค้าก้าวไกลไปกับดิจิทัล” กล่าวว่า ปัจจุบันคนใช้เทคโนโลยีมากขึ้น แม้แต่การผลิตสินค้าสมัยก่อนใช้แรงงานคนเป็นหลักวันนี้ก็เปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยี เข้ามาทดแทนแรงงานคน คนต้องเปลี่ยนบทบาทของตัวเอง ถ้าคิดว่าจะต้องทำงานอยู่ในระบบเศรษฐกิจต่อไป ต้องปรับตัวเอง ต้องเรียนรู้รีสกิล ปรับทักษะตัวเองจากเดิมต้องเปลี่ยนมาทำกับเครื่องจักรแทนไม่เช่นนั้นก็ไม่ทันโลก โรงงานอุตสาหกรรมไม่ต้องการใช้บริการ และบางส่วนต้องเพิ่มทักษะจากทักษะระดับ 7 เป็น 10 ถึง 15 เพื่อให้ทันกับการผลิตยุคใหม่
การค้าวันนี้โลกเปลี่ยนจากการค้าดั้งเดิม แบบดั้งเดิม เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมากขึ้นต้องปรับบทบาทรูปแบบทางการค้าจะค้าดั้งเดิมคือ การค้า ออฟไลน์ ไม่ได้ ต้องใช้ระบบเทคโนโลยีดิจิตอลเข้ามาช่วย จากเดิมเอาของมาตั้งบนชั้นแล้วคนก็เดินมาที่ร้านซื้อและลองสินค้า แต่โลกยุคใหม่เปลี่ยนแล้ว จากหน้าร้านก็มีความสำคัญแต่มีการปรับรูปแบบให้ดึงดูดใจมากขึ้นเป็นรูปแบบพิเศษให้ถูกใจคนมาซื้อของ เพราะโลกยุคใหม่ไปไกลถึงเทคโนโลยี โชวห่วยร้านค้าของชำที่ขายแบบเดิมการหาของลำบาก ถึงเป็นที่มาของนโยบายกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเป็นสมาร์ทโชวห่วยคือต้องใช้ระบบดิจิตอลเข้ามาช่วยมีระบบคอมพิวเตอร์รู้สต๊อกของทราบว่าเหลือเท่าไหร่ นี่คือการปรับมาเป็นสมาร์ทโชวห่วย ทุกอย่างเป็นระบบเป็นระเบียบสามารถเดินหาเองได้หยิบส่งได้รวดเร็ว บริการดีขึ้น
หากใครอยากอัพรูปแบบจากร้านโชวห่วยแบบเดิมเป็นสมาร์ทโชวห่วยก็สามารถติดต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ หรือแจ้งท่านพาณิชย์จังหวัดได้ มีงบประมาณเข้ามาช่วยและมีอาจารย์มาช่วยอบรม
จึงอยากจะบอกว่าการค้าอ๊อฟไลน์ยังคงอยู่ไม่ล้มหายตายจาก แต่การค้าดังเดิมอย่างเดียวจะยกระดับมาเป็นสมาร์ทโชวห่วยหรือเป็นร้านค้าแบบสมาร์ทที่เราเคยเห็นยังมีจุดอ่อน คือ คนต้องเดินมาที่ร้านถ้าคนไม่มาที่ร้านเราเราก็ขายของไม่ได้ แต่โลกยุคใหม่มีระบบอีกระบบหนึ่งที่เรียกว่า อีคอมเมิร์ซคือ การค้าออนไลน์ ต่อไปนี้คนที่ซื้อของไม่ต้องเดินมาที่ร้านเราส่งของไปที่บ้านด้วยระบบขนส่งสั่งผ่านระบบออนไลน์บริการได้รวดเร็วทันใจมีแพลตฟอร์มนี่คือสิ่งที่เราจะได้ความรู้ความเข้าใจจากการสัมมนาวันนี้ นี่คือ นโยบายของรัฐบาลและนโยบายของกระทรวงพาณิชย์และนโยบายของผมก่อนที่จะมาเป็นรัฐบาลด้วย คิดอยู่แล้วว่าเศรษฐกิจทันสมัยเป็นนโยบายสำคัญของเราจำเป็นและมีความสำคัญ
“หากเด็กยุคใหม่ต้องการพัฒนาร้านค้าดั้งเดิมนี่คือ การต่อยอดด้วยระบบอีคอมเมิร์ซถือว่า วันนี้เป็นสัญญาณที่ดีที่พวกเราชาวพัทลุงให้ความสนใจกับเรื่องนี้และวิทยากรก็เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงมีประสบการณ์เชื่อว่าไม่เกินศักยภาพความสามารถของพวกเรา ดีใจที่ทุกท่านมาร่วมงานในวันนี้ขอให้เก็บเกี่ยวความรู้ช่วยกันทำการค้าออนไลน์ของประเทศไทยให้เจริญรุ่งเรืองและเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของประเทศได้ต่อไป ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาร่วมงานในวันนี้” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าว
รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ยังกล่าวต่อว่า ในปี 2563 นี้ตั้งเป้าจะทำให้เกิดสมาร์ทโชวห่วยให้ได้ 20,000 ราย พื้นที่ไหนที่เป็นโชวห่วยดั้งเดิมจะยกระดับ โดยมีค่าใช้จ่ายต่ำมากเกือบจะเรียกได้ว่าไม่มีค่าใช้จ่ายยกเว้นการที่จะต้องกู้เงินไปบริหารจัดการมีแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้และองค์ความรู้การเข้าไปช่วยจัดการไม่มีค่าใช้จ่าย โดยกระทรวงและร้านค้าส่งขนาดใหญ่ของประเทศจะเข้าไปช่วย
“ที่ผ่านมาเราได้ลงนามกับ BigBasKetซึ่งเป็นเว็บไซต์ขายของออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดของอินเดีย เปิดห้องให้เราสามารถขายสินค้าออนไลน์ในอินเดียได้ซึ่งประชากรอินเดียมีถึง 1,300,000,000 คน สำหรับจีนมีเว็บไซต์ Tmall ไปลงนามและทำพิธีเปิดแล้ว เป็นส่วนหนึ่งของอาลีบาบาเปิดห้องไทยให้พัฒนาสินค้าไทยไปจีนสะดวกขึ้นด้วยระบบสินค้าออนไลน์ ต่อไปขึ้น T mall BigBasket ขายจีน ขายอินเดียและอีกหลายประเทศของโลก ของไทยเองเราก็มีเว็บไซต์ที่เป็นระดับประเทศคือ ThaiTrade.com ถ้าสินค้าไหนมีศักยภาพสามารถลงได้ผู้ซื้อเป็นผู้ซื้อระดับที่จะไปส่งออกเป็นผู้ค้าระดับใหญ่ในห้องออนไลน์ ช่วยให้เราสามารถทำการค้าได้”