ไทยประกันชีวิต พัฒนารูปแบบขายประกันชีวิต Digital Face to Face รับนโยบาย Social Distancing ภาครัฐ ลดเสี่ยงโควิด-19
ไทยประกันชีวิตตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบ New Normal พัฒนารูปแบบการเสนอขายประกันชีวิต Digital Face to Face อำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าและฝ่ายขาย ขานรับนโยบาย Social Distancing ของภาครัฐ ลดเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19
นายอังกูร ศรีกัลยาณบุตร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ และ Chief Marketing Officer บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ไทยประกันชีวิตมุ่งเป็นทุกคำตอบของชีวิต หรือ Life Solutions พร้อมเคียงข้างลูกค้าและคนไทยในทุกสถานการณ์ ดังนั้น เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่สนใจทำประกันชีวิตกับบริษัทฯ และสนับสนุนการทำงานของบุคลากรฝ่ายขาย ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงเพื่อให้สอดคล้องกับประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการออก การเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยของบริษัทประกันชีวิต และการปฏิบัติหน้าที่ของตัวแทนประกันชีวิต นายหน้าประกันชีวิต และธนาคาร ในระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) พ.ศ.2563
บริษัทฯ จึงพัฒนาระบบการขายประกันชีวิตในรูปแบบ Digital Face-to-Face ซึ่งเป็นรูปแบบการเสนอขายผ่านระบบออนไลน์ สำหรับประกันชีวิตประเภทรายงวด สัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพ สัญญาเพิ่มเติมประกันอุบัติเหตุ แต่ไม่ครอบคลุมถึงสัญญาเพิ่มเติมโรคร้ายแรง หรือประกันชีวิตควบการลงทุน (Unit-Linked / Universal Life) ซึ่งเป็นกรมธรรม์ที่มีความซับซ้อนและมีข้อกำหนดที่ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของสำนักงานคณะกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
รูปแบบการขาย Digital Face-to-Face ตัวแทนไทยประกันชีวิตสามารถนำเสนอแบบประกันแก่ลูกค้าผ่านช่องทางต่างๆ อาทิ เฟซบุ๊ก, ไลน์ หรืออีเมล โดยตัวแทนจะกรอกข้อมูลของลูกค้าในใบคำขอเอาประกันภัย และเอกสารประกอบการเสนอขายผ่าน Application TL Pro Plus หลังจากนั้นจึงส่งให้ลูกค้าตรวจสอบความถูกต้องผ่านช่องทางที่ได้นำเสนอขาย ซึ่งลูกค้าจะต้องส่งเอกสารประกอบการทำประกันชีวิต ได้แก่ ภาพบัตรประชาชนพร้อมลงนามรับรอง และภาพถ่ายหน้าตรงของลูกค้าคู่กับบัตรประชาชนให้ตัวแทน โดยตัวแทนจะจัดส่งเอกสารดังกล่าวประกอบกับภาพที่ระบุข้อความตกลงทำประกันชีวิตของลูกค้า เพื่อให้บริษัทฯ พิจารณาผ่าน Application TL Pro Plus
สำหรับการชำระเบี้ยประกันภัย ลูกค้าเพียงสแกน QR Code ที่ได้รับจากตัวแทน ก็สามารถชำระเบี้ยฯ ผ่าน Mobile Banking ได้ทันที โดยระบบจะส่งใบเสร็จรับเงินชั่วคราวให้ลูกค้าสำหรับเป็นหลักฐานต่อไป ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ลูกค้า ภายหลังจากกรมธรรม์ได้รับการอนุมัติ หรือส่งมอบกรมธรรม์แล้ว บริษัทฯ จะติดต่อลูกค้าทางโทรศัพท์ เพื่อยืนยันการสมัครทำประกันชีวิต รวมถึงแจ้งรายละเอียดแบบประกันอีกครั้ง
“ในสถานการณ์ที่ต้องเว้นระยะห่างทางสังคม หรือ Social Distancing เพื่อลดความเสี่ยงจากโรคโควิด-19 ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการทำงานของตัวแทนในการเข้าพบลูกค้า ขณะเดียวกันเพื่อลดความเสี่ยงในการเดินทางและพบปะทั้งของตัวแทนและลูกค้า บริษัทฯ จึงพัฒนาระบบการขายให้สอดรับกับสถานการณ์ เพื่อให้การทำประกันชีวิตเป็นเรื่องง่าย สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น โดยไทยประกันชีวิตมีตัวแทน Life Partner ให้บริการ ผู้สนใจสามารถติดต่อตัวแทนไทยประกันชีวิตทั่วประเทศ” นายอังกูรกล่าว
นอกจากนั้น ลูกค้าไทยประกันชีวิตยังได้รับบริการที่มากกว่าการประกันชีวิตซึ่งเป็น Signature Service อาทิ ไทยประกันชีวิตฮอตไลน์ บริการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉินทางการแพทย์ ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง ไทยประกันชีวิต iService บริการตรวจสอบข้อมูลและสถานะกรมธรรม์ หรือการเรียกร้องสินไหมด้วยตนเอง ผ่านเว็บไซต์ www.thailife.com ไทยประกันชีวิตเมดิแคร์ บริการสำรองค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉินเบื้องต้นสำหรับผู้ป่วยในผ่าน Fax Claim รวมถึงบริการไทยประกันชีวิต Telemedicine บริการพบแพทย์ผ่านทางโทรศัพท์ หรือ VDO Call สำหรับลูกค้าที่ไม่สะดวกเดินทางมายังโรงพยาบาล