พม.ร่วม MOUหนุนกระจายอำนาจด้านทรัพยากรธรรมชาติ-สิ่งแวดล้อม เพื่ออนุรักษ์ ฟื้นฟูป่า พัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชน
พม. ร่วมลงนามความร่วมมือสนับสนุนการกระจายอำนาจด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่ออนุรักษ์ ฟื้นฟูป่า และพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชนในเขตป่า
นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) พร้อมด้วย นางพัชรี อารยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือสนับสนุนการกระจายอำนาจด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง 6 หน่วยงาน ประกอบด้วย กระทรวง พม. โดยสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และกระทรวงมหาดไทย โดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ทั้งนี้ มีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี ณ ห้องประชุม 301 ชั้น 3 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล
นายจุติ กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้ เป็นการบูรณาการการดำเนินงานร่วมกันเป็นระยะเวลา 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ลงนาม โดยมีการลงนามความร่วมมือรวมทั้งหมด 3 ฉบับ ประกอบด้วย 1. ฉบับที่เกี่ยวข้องกับที่ดินในเขตอุทยาน เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า ฯลฯ ที่กรมอุทยานรับผิดชอบดูแล 2. ฉบับที่เกี่ยวข้องที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติที่กรมป่าไม้รับผิดชอบดูแล และ 3. ฉบับที่เกี่ยวกับที่ดินป่าชายเลนที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งรับผิดชอบดูแล
โดยทั้ง 6 หน่วยงาน มีความร่วมมือ ดังนี้ 1. การส่งเสริมและสนับสนุนการปฏิบัติงาน หรือการอนุรักษ์ บำรุงรักษา และฟื้นฟูอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหรือเขตห้ามล่าสัตว์ป่า เขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และเขตพื้นที่ชายฝั่งทะเล ป่าชายเลน ที่อยู่ในเขตพื้นที่ที่รับผิดชอบ และ
2. การปรับปรุง การพัฒนา การส่งเสริมอาชีพหรือพัฒนาคุณภาพชีวิตของบุคคลและชุมชนที่อยู่อาศัยและทำกินภายในเขตพื้นที่โครงการเกี่ยวกับการอนุรักษ์และดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนในอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหรือเขตห้ามล่าสัตว์ป่า เขตป่าสงวนแห่งชาติ เขตพื้นที่ชายฝั่งป่าชายเลน และ พ.ร.บ. กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 กำหนดไว้
นายจุติ กล่าวต่อไปว่า สำหรับกระทรวง พม. โดย พอช. มีความร่วมมือด้วยการส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงาน ดังนี้ 1. ร่วมสนับสนุนการจัดทำแผนและการดำเนินการเกี่ยวกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน 2. ร่วมสนับสนุนงบประมาณแก่องค์กรชุมชนในการพัฒนาที่อยู่อาศัย 3. ร่วมสนับสนุนการจัดทำแผนพัฒนาคุณภาพชีวิตและแผนพัฒนาที่อยู่อาศัย ของชุมชน
ที่อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง การจัดกลุ่มออมทรัพย์ พัฒนาความเข้มแข็งของกลุ่มองค์กรชุมชน
4. ร่วมสนับสนุนกระบวนการออกแบบวางผังการใช้ประโยชน์ที่ดินทำกินและที่อยู่ อาศัยโดยคำนึงถึงระบบนิเวศ การดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน และ 5. สนับสนุนงบประมาณแก่องค์กรชุมชนในการพัฒนาที่อยู่อาศัย ที่ดินทำกิน ระบบ สาธารณูปโภคที่จำเป็น คุณภาพชีวิต การสร้างกระบวนการเรียนรู้ ตลอดจนสินเชื่อที่อยู่อาศัยตามความจำเป็น
นายจุติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ 6 หน่วยงานที่ลงนามบันทึกความร่วมฉบับนี้ จะร่วมมือกันดำเนินกิจกรรมต่างๆ เช่น การรับฟังความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสีย ชุมชนที่เกี่ยวข้อง และประชาชน ในการกำหนด ขยาย หรือเพิกถอนเขตป่าประเภทต่างๆ แผนการบริหารจัดการพื้นที่เขตป่า และชุมชนที่อยู่อาศัยอยู่ในเขตป่าประเภทต่างๆ การกระทำการหรืองดเว้นการกระทำใดๆ ในเขตป่าประเภทต่างๆ เพื่อรักษาสภาพธรรมชาติ ระบบนิเวศ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือป้องกันภัยพิบัติอันเป็นสาธารณะ ส่งเสริมและสนับสนุนการปฏิบัติงานและงบประมาณเพื่อการอนุรักษ์ บำรุงรักษา และฟื้นฟูป่าประเภทต่างๆที่อยู่ในเขตพื้นที่ที่รับผิดชอบ
การสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดทำแผนการอนุรักษ์ บำรุงรักษา และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมและความหลากหลายทางชีวภาพ รวมทั้งแผนการป้องกันและควบคุมไฟป่าที่อยู่ในเขตพื้นที่ที่รับผิดชอบเพื่อบรรจุไว้ในแผนพัฒนาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การปรับปรุงการพัฒนา การส่งเสริมอาชีพหรือพัฒนาคุณภาพชีวิตของบุคคล และชุมชนที่อยู่อาศัยหรือทำกิน โครงการเกี่ยวกับการอนุรักษ์และดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติในเขตป่าประเภทต่างๆ ให้มีความเหมาะสมตามมาตรการอนุรักษ์ดิน และน้ำ ฯลฯ