สสส.-เครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง พบคนไทยเล่นพนันเกือบ 60% เฉลี่ย 32 ล้านคนช่วง “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ”
สสส.-เครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง เปิดผลเฝ้าระวังพนันออนไลน์ช่วง “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ปี 64 พบคนไทยเล่นพนันเกือบ 60% เฉลี่ย 32 ล้านคน พร้อมเปิดตัวแอปฯ “Just Stop Gambling” แจ้งร้องเรียน-เบาะแสพนันออนไลน์ ป้องกันเด็กและเยาวชน-นักพนันหน้าใหม่ หลงผิดเข้าสู่วงจรพนัน
เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 2565 ที่โรงแรม เดอะ สุโกศล กรุงเทพ โครงการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน และสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย จัดแถลงข่าว ผลการเฝ้าระวังธุรกิจพนันออนไลน์ในช่วง “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ปี 2564 ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ในหัวข้อ “1 ปีที่พ่ายแพ้ กับการแก้ปัญหาพนันออนไลน์” พร้อมแนะนำระบบฐานข้อมูล “Just Stop Gambling” ในรูปแบบเว็บไซต์แอปพลิเคชัน แจ้งร้องเรียนและเบาะแสเกี่ยวกับการให้บริการ และการโฆษณาธุรกิจพนันออนไลน์ เพื่อส่งต่อข้อมูลให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการดำเนินการบังคับใช้กฎหมายต่อไป
นางสาวรุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสังคม สสส. กล่าวว่า ช่วงโควิด-19 ระบาดส่งผลให้วงการพนันโลก คาสิโนทั้งในเอเชีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา ต้องปิดทำการชั่วคราวเพื่อยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อ การพนันจึงเปลี่ยนทิศเข้าสู่การพนันออนไลน์ที่เข้าถึงง่าย สะดวก รวดเร็ว เล่นได้ทุกที่ทุกเวลา จากการศึกษาสถานการณ์ พฤติกรรม และผลกระทบการพนันของไทย โดยศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปี 2564 พบว่ามีคนไทยเล่นการพนันถึง 59.6% หรือประมาณ 32 ล้านคน เพิ่มขึ้นประมาณ 1.9 ล้านคนเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2562 เป็นนักพนันหน้าใหม่ เกือบ 8 แสนคน และเป็นเด็กและเยาวชนอายุ 15-25 ปี 4.3 ล้านคน เพิ่มจากปี 62 มากกว่า 5 แสนคน
“สสส.เริ่มทำงานประเด็นพนันมาตั้งช่วงปี 2553 เพราะตระหนักดีว่าการพนันมีผลกระทบในวงกว้าง ทั้งต่อตัวเอง ครอบครัว ชุมชน ไปจนถึงสังคม เมื่อคนเล่นพนันจนถึงขั้นเสพติดการพนันแล้ว ก็ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตทั้งสุขภาพกาย สุขภาพจิต ความสัมพันธ์กับคนในครอบครัว การใช้ความรุนแรง การเป็นหนี้ การทุจริต อาชญากรรม เกิดปัญหากระทบกับคนในครอบครัวและคนใกล้ชิดระหว่าง 10-17 คน สสส. จึงได้ริเริ่มเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยงผ่านโครงการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง เพื่อให้เกิดความรอบรู้ ควบคู่ไปกับการพัฒนาศักยภาพด้านการสื่อสาร และร่วมให้เห็นความสำคัญของการผลักดันนโยบาย โดยทำงานไปพร้อมกับภาคีเครือข่ายหลัก ผลักดันให้เกิดกระบวนการที่จะทำให้เด็กและเยาวชนมีภูมิคุ้มกัน หรือกลไกการควบคุม ป้องกันและลดปัญหาที่เกิดจากการพนัน รวมถึงนโยบายสาธารณะต้องมีทิศทางไม่เพิ่มพื้นที่การพนันเพื่อปกป้องเด็กและเยาวชน ไม่ให้หลงผิดเข้าสู่วงจรพนัน” นางสาวรุ่งอรุณ กล่าว
นายสุรเชษฐ์ โพธิ์แสง รองเลขาธิการสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย และหัวหน้าคณะทำงานด้านการเฝ้าระวังการพนันออนไลน์จากข่าวในสื่อต่างๆ กล่าวว่า ข้อมูลในช่วงปี 2564 ที่ผ่านมา ได้เห็นปัญหาและผลกระทบจากการพนันออนไลน์ รวมถึงการพนันออฟไลน์มากขึ้น โดยเว็บพนันได้พัฒนากลยุทธ์การโฆษณาในรูปแบบใหม่ๆ และมีเว็บพนันใหม่เกิดขึ้นตลอดเวลา มีการจับกุมหรือปิดเว็บไปกว่า 2,300 เว็บไซต์ เงินหมุนเวียนกว่า 1.36 แสนล้านบาท และยังคงมีอยู่อีกกว่า 350 เว็บพนันที่ยังเปิดให้บริการอยู่ แต่ในมิติของการป้องกันยังไม่มีความชัดเจน ที่สำคัญคือการพนันก่อให้เกิดปัญหาสังคมมากมายหลายรูปแบบ โดยมีถึง 158 คดีทั่วประเทศที่เป็นข่าว มีผู้ต้องหาหรือผู้กระทำความผิดกว่า 1,500 คน ในทุกช่วงวัย หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องจึงควรร่วมมือกัน ควบคุมการพนันอย่างจริงจัง เพื่อป้องกันไม่ให้มีเหยื่อพนันรายใหม่เพิ่มขึ้นอีก
นายนพดล อินทร์ต๊ะ ผู้ร่วมพัฒนาแอปพลิเคชัน “Just Stop Gambling” กล่าวว่า แอปพลิเคชัน “Just Stop Gambling” พัฒนาขึ้นโดยนักศึกษาและอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ จากคณะเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรมดิจิทัล มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ เป็นช่องทางให้เครือข่ายเยาวชนและประชาชน ในการช่วยกันดูแลสังคม แจ้งเรื่องร้องเรียน และเบาะแสพนันออนไลน์จากเยาวชน โดยมุ่งหวังว่าปัญหาการพนันออนไลน์จะได้รับการจัดการอย่างถูกต้องเหมาะสม จากการทำงานที่ผ่านมา พบว่าเด็กและเยาวชนต้องการเครื่องมือหรือช่องทางที่จะดูแลเพื่อนกันเอง และสะดวกใจที่จะให้ความร่วมมือกับเครือข่าย มากกว่าการแจ้งหรือติดต่อกับหน่วยงานภาครัฐ และมีความเชื่อมั่นในคณะทำงานเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาการพนันออนไลน์ในเด็กและเยาวชน จึงคาดหวังว่าข้อมูลที่ได้รับแจ้งผ่านแอปพลิเคชัน จะสามารถส่งต่อและช่วยให้ผู้บังคับใช้กฎหมายสามารถดำเนินคดีกับเว็บพนันที่ทำให้เกิดปัญหาสังคมได้มากยิ่งขึ้น