บัตรเครดิตท่องเที่ยวธนาคารกรุงเทพ คืนกำไรลูกค้า พาตื่นตา..ตื่นใจ..สุดฟิน น…ไปกับทริป “Once In A Lifetime @ Khaoyai”
หลังจากว่างเว้นไปจากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) จากที่ทางธนาคารกรุงเทพ จํากัด (มหาชน) โดย บัตรเครดิตท่องเที่ยวธนาคารกรุงเทพ จะจัดทริปสุดพิเศษตอบแทนคืนกำไรแก่บรรดาลูกค้าระดับ VIP เป็นประจำทุกปี เพื่อกระชับความสัมพันธ์และสร้างประทับใจอันดีต่อกันไปอย่างยาว ๆ
สำหรับปีนี้พร้อมแล้ว บัตรเครดิตท่องเที่ยวธนาคารกรุงเทพได้ ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) จัดทริปภายใต้ชื่อ “Once in a Lifetime @ Khaoyai” พาลูกค้าไปสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวใหม่ในเส้นทางกรุงเทพ – เขาใหญ่ ที่น่าตื่นเต้น น่าสนใจไม่แพ้เส้นทางอื่นๆ
เริ่มต้นของการเดินทางวันแรก ในช่วงเช้า วันที่ 10 มิถุนายน 2556
การไปท่องเที่ยวเป็นหมู่คณะ แน่นอนว่า เป็นวันที่ทุกคนต้องตื่นเช้าเป็นพิเศษ เพื่อเดินทางมายังจุดรวมพลกัน ณ สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานใหญ่ ถ.เพชรบุรี ช่วงเวลา 07.00-08.00 น. ซึ่งมีเวลาให้มากพอสมควรสำหรับเตรียมพร้อม โดยมีผู้บริหารธนาคารกรุงเทพ คุณวรนุช ศิรธรานนท์ Vice President สายบัตรเครดิต ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และคุณฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. ให้การต้อนรับและเปิดกิจกรรมทริปท่องเที่ยวพิเศษนี้
ขณะที่บรรดานักท่องเที่ยวVIP ทยอยเข้าลงทะเบียน รับแท็คติดกระเป๋า พร้อมรับประทานอาหารว่าง (Snack Box) รองท้องก่อน และเตรียมตัวทำธุระส่วนตัวเข้าห้องน้ำกัน ก่อนล้อหมุนที่เวลา 08.00น. แต่ก็ไม่ถึงกับตรงเวลาเป๊ะ ๆ เสียทีเดียว มียืดหยุ่นกันได้บ้างตามความเหมาะสม ซึ่งเมื่อถึงเวลาคาราวานรถท่องเที่ยวรองรับลูกค้าระดับ VIP ได้เคลื่อนขบวนไปเป็นแถวสวยงาม
สถานที่แรกโรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา
สถานที่แรกที่เป็นเป้าหมายของการเดินทาง คือ โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา ภายใต้การดูแลของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ถือเป็น “โรงไฟฟ้าใต้ดินแห่งแรกและแห่งเดียวของประเทศไทย” พร้อมด้วยแหล่งเรียนรู้ด้านพลังงานที่ครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่เขื่อนลำตะคอง อ่างเก็บน้ำและกังหันลมบนเขายายเที่ยง ไปจนถึงโรงไฟฟ้าใต้ดิน
แต่ก่อนจะไปชมโรงไฟฟ้าใต้พื้นพิภพแห่งแรกของไทย ทางทีมงานดูแลคณะท่องเที่ยวได้พาไปรับประทานอาหารมื้อเที่ยงกันก่อน เพื่อเติมพลังก่อนไปลุยท่องเที่ยวหลายจุดในอาณาบริเวณเขื่อนลำตะคองและใกล้เคียง ณ ร้านครัวตาตีบ (KHRUA TATIP RESTAURANT) ริมเขื่อนลำตะคอง ซึ่งได้ชิมอาหารเมนูปลาเขื่อน ได้ลิ้มรสความสดใหม่ของวัตถุดิบที่เป็นปลาจากเขื่อน
และที่เรียกเสียงฮือฮาจากทุกคนได้ เห็นจะเป็นเมนู ปลานิลเผาเกลือ โอ้โฮ ปลานิลตัวตัวใหญ่มากกก….ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลยจริง ๆ อร่อยมาก ๆ เป็นเมนูขายดีของโต๊ะเลยก็ว่าได้ เมนูนี้หมดก่อนเพื่อน แต่เมนูอื่น ๆ ก็ไม่ได้ขี้เหร่ อร่อยรสเลิศ ไม่ว่าจะเป็น ต้มยำปลาคัง ทอดมันปลากรายและผัดฉ่าทะเล
หลังอิ่มหนำสำราญ ก็ได้เวลาไปชมโรงไฟฟ้าใต้พิภพกัน ซึ่งต้องนั่งรถตู้ลงไป นับว่า เป็นสถานที่ Unseen ที่น้อยคนจะมีโอกาสได้เข้าชมเลยทีเดียว เมื่อไปเจ้าหน้าที่จะบรรยายเรื่องราวที่สุดแสนน่าทึ่งของโรงไฟฟ้าพลังน้ำใต้พิภพแห่งนี้ให้ได้ฟังกัน และได้สร้างความตื่นเต้นแก่ทุกคนเป็นอย่างมากเมื่อได้รู้ว่า อุโมงค์ที่รถตู้วิ่งมามีความยาว 1,430 เมตรและพื้นที่ที่ยืนกันอยู่นั้นอยู่ลึกลงไปใต้ดินมากกว่า 350 เมตร เป็นอาคารใต้ดินที่เป็นตึก 5 ชั้น อีกทั้งยังเป็นโรงไฟฟ้าที่ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของไทย เรียกว่า โรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับ ที่มีเครื่องผลิตไฟฟ้าใต้ดินแห่งแรกและแห่งเดียวในไทย มีกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้นถึง 1,000 เมกะวัตต์
โดยโรงไฟฟ้าแห่งนี้จะนำกระแสไฟฟ้าจากระบบการผลิตของประเทศในช่วงที่มีการใช้ไฟฟ้าน้อย คือ ช่วงหลังเที่ยงคืนถึงเช้า มาใช้สูบน้ำจากอ่างเก็บน้ำเขื่อนลำตะคอง ขึ้นไปเก็บไว้ในอ่างพักน้ำตอนบน ที่สร้างขึ้นใหม่บนเขายายเที่ยง เพื่อปล่อยลงมาผ่านเครื่องกำเนิดไฟฟ้าและผลิตกระแสไฟฟ้าออกมาในช่วงที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงในแต่ละวัน นับว่า เป็นการช่วยผลิตกระแสไฟฟ้าเพิ่มเติมเสริมระบบไฟฟ้าของภาคตะวันออกเฉียงเหนือและบริเวณใกล้เคียงให้เพียงพอต่อความต้องการและยังเป็นการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้แก่ภูมิภาคนี้
มีเวลาได้สนุกสนานตื่นเต้น พร้อมถ่ายรูปสวยๆ ที่ Underground Graffiti และมุมถ่ายรูปสวยๆ หลายจุด ก่อนจะนั่งรถตู้กลับออกมาฟังการบรรยายถึงประวัติของโรงไฟฟ้าฯต่อที่ห้องประชุมด้านบนและนั่งรถไปชมทิวทัศน์รอบเขื่อนที่มีกังหันลมขนาดใหญ่ หลายต้นสวยงาม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานลมของทางกฟผ.
เสร็จจากเรื่องโรงไฟฟ้า เรายังไม่กลับนะคะ เราจะขึ้นนั่งรถสองแถวกันต่อไป ณ ผายายเที่ยงเพื่อไปจุดชมวิวผายายเที่ยง ไปปลูกป่าลอยฟ้าด้วยการยิงเมล็ดพันธุ์ออกไปด้วยหนังสติ๊ก และลิ้มรสกาแฟ Dip กาแฟริมผา ที่แสนโรแมนติก ดื่มด่ำกับบรรยากาศบนหน้าผาพร้อมทิวทัศน์สวยงามด้านหน้า
เราสามารถมาเที่ยวชมเขื่อนลำตะคอง โรงไฟฟ้าและจุดท่องเที่ยวใกล้เคียงอื่น ๆ ได้ทุกวัน ซึ่งเขื่อนตั้งอยู่ตำบลลาดบัวขาว อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ห่างจากตัวเมืองประมาณ 62 กิโลเมตร มีทางแยกจากทางหลวงหมายเลข 2 (นครราชสีมา-สระบุรี) บริเวณกิโลเมตรที่ 196-197 เป็นเขื่อนดินสูง 40.30 เมตร สันเขื่อนยาว 521 เมตร เก็บน้ำได้ 310 ล้านลูกบาศก์เมตร บริเวณรอบขอบเขื่อน มีทิวทัศน์สวยงาม ด้วยมีภูเขาล้อมรอบ เหมาะสำหรับมาพักผ่อน ชมพระอาทิตย์ตก หิวก็มีร้านอาหารหลายร้านให้เลือกรับประทาน นับเป็นจุดท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์และเอกลักษณ์อีกแห่งหนึ่งของเมืองโคราช
เสร็จจากการท่องเที่ยวจุดนี้แล้ว ก็ได้เวลาเข้าที่พักกัน Hotel La Casetta @ Toscana Valley Country Club ที่มีบรรยากาศสดชื่น สวยงามเหมือนไปท่องเที่ยวดินแดนยุโรป อินไทยแลนด์ก็ว่าได้ แม้จะนั่งรถเข้าไปลึกอยู่สักหน่อย แต่เมื่อเห็นที่พักแล้วก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง
รีบอาบน้ำแต่งตัว ไปถ่ายภาพรอบ ๆ ก่อนเตรียมตัวไปงานปาร์ตี้ยามค่ำคืนต่อ ที่มีธีม Gatsby Theme ได้เห็นเหล่าลูกค้า VIP แต่งชุดสวย ๆ ธีมสีขาว สีทอง และสีดำ เพื่อสื่อถึงความหรูหรา ฟูฟ่า และมั่งคั่ง ประชันกัน สร้างสีสันให้บรรยากาศมื้อค่ำคืน ให้เต็มไปด้วยความสนุกสนาน เคล้าเสียงเพลงจากมินิคอนเสิร์ตศิลปินชื่อดัง ก่อนเข้าที่พัก เป็นการเปลี่ยนบรรยากาศสถานที่นอนหลับพักผ่อนแห่งใหม่
วันที่2 เยี่ยมฟาร์มออร์แกนิกกันที่ GREEN ME ORGANIC FARM
วันที่ 2 หลาย ๆ คนยังตื่นแต่เช้าตรู่กันอีกเช่นเคย เพื่อออกมาดื่มด่ำกับธรรมชาติรายรอบที่พัก ก่อนเข้ารับประทานอาหารเช้าและออกเดินทางไปเยือนสถานที่แห่งใหม่ ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวเชิงเกษตร ณ GREEN ME ORGANIC FARM
โดย GREEN ME ORGANIC FARM เป็นฟาร์มสเตย์แบบครบวงจร บนเนื้อที่ 28 ไร่ มีการจัดแบ่งเป็นโซนต่าง ๆ เพื่อการเรียนรู้ในสวนเกษตรได้อย่างลงตัวไม่ว่าจะเป็นส่วนของห้องพัก ซึ่งทางฟาร์มมีบ้านพักแบบส่วนตัว 5 ห้องสวยสะอาดตา โซนแปลงเกษตร โรงเรือนผักออร์แกนิค โซนเลี้ยงวัว โซนร้านอาหาร ร้านกาแฟ พร้อมจัดเป็นสถานที่พักผ่อนเพื่อการเรียนรู้ให้กับผู้มาเยือนทุกคน
สำหรับทริปล่าสุด นักท่องเที่ยวVIP นั่งรถแทร็กเตอร์พ่วงไปให้อาหารสัตว์ ที่มีทั้งแพะ หมู วัว ได้เก็บไข่ไก่ และชมโรงแรมแมลง ที่เลี้ยงแมลงสำหรับต่อต้านศัตรูพืชเพื่อหลีกเลี่ยงการใช้ยาเคมีฆ่าแมลง ได้สนุกสนานกับการเก็บผักออร์แกนิค ซึ่งทางฟาร์มจะแพ็คห่อให้เป็นอย่างดีเพื่อนำกลับไปรับประทานที่บ้าน โดยการทำกิจกรรมต่าง ๆ เหล่านี้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับวิวทิวทัศน์ของบรรยากาศเขาใหญ่ไปด้วยพร้อมกัน ฟาร์มสเตย์แห่งนี้จึงเหมาะมากสำหรับผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ที่สามารถมาแบบครอบครัว กลุ่มย่อย หรือกลุ่มสัมมนาเล็ก ๆ เพื่อศึกษาเรียนรู้พร้อมกับท่องเที่ยวไปด้วย
เสร็จจากกิจกรรมด้านการเกษตรแล้ว ก็ออกเดินทางต่อไปรับประทานอาหารมื้อกลางวันสไตล์อิตาลีกันที่ ร้านอาหาร Midwinter Khaoyai ซึ่งมีเมนูเด็ด ๆ ที่ต้องบอกต่อกัน โดยเฉพาะขาหมูสไตล์เยอรมันและพิซซ่าที่เป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน แต่โดยรวม ๆ แล้วอร่อยทุกเมนู
อิ่มอร่อยกันแล้ว บางคนอาจจะเริ่มหนังตาหย่อนหลังหนังท้องตึง แต่ก็หลับกันไม่ลง
เพราะสิ่งที่รออยู่พิเศษไปอีก นั่นคือ ได้ไปทำความรู้จักและทดสอบไวน์ที่เป็นผลผลิตของคนไทย ที่ไม่แพ้ของต่างประเทศ ณ Gran Monte Vineyard & Winery คอไวน์น่าจะชิลล์มากๆกว่าใคร ๆ แต่สำหรับคนที่เพิ่งหัดชิมก็น่าจะชอบใจไม่น้อย ซึ่งมีไวน์มาให้ชิมหลากหลายรสชาติ เช่น 2020 Midnight Harvest Chenin Blanc ไวน์ขาว มีไวน์แดง 2019 GranMonte Durif และไวน์ขาวหวานกลิ่นหอมละมุนเหมือนเสาวรส 2020 Bussaba Natural Sweet Wine ชิมกันเพลิน..
หลังจากนั้นทางไร่พาไปทัวร์ชมโรงบ่มไวน์และชมไร่องุ่นบนพื้นที่กว่า 100ไร่ ภายใต้การบริหารของคุณนิกกี้ผู้บริหารไร่องุ่นและไวน์เมกเกอร์หญิงคนแรกของเมืองไทย ท่ามกลางบรรยากาศอ้อมกอดขุนเขา แห่งหุบเขาอโศกและตบท้ายด้วยการช้อปปิ้งไวน์และของที่ระลึกสินค้าผลิตภัณฑ์แปรรูปจากองุ่นหลากหลายเพื่อเป็นของฝากคนทางบ้านและผองเพื่อน ก่อนเดินทางกลับสู่กรุงเทพมหานครโดยสวัสดิภาพ ณ จุดเริ่มต้นที่ทำการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานใหญ่ ถ.เพชรบุรี
แม้จะเหนื่อยล้า แต่ทุกคนก็เต็มไปด้วยความสุข สนุกสนาน ร่ำลากัน พร้อมขอบคุณบัตรเครดิต ธนาคารกรุงเทพ และททท.กับทริปดี ๆอย่าง “Once in a Lifetime @ Khaoyai” และรอวันพบกันใหม่โอกาสหน้า เชื่อว่า ทางบัตรเครดิต ธนาคารกรุงเทพและททท. คงจะไม่ทำให้ลูกค้าต้องผิดหวังอย่างแน่นอน …
ชอบออกทริปท่องเที่ยว ชอบเดินทาง ต้องพกบัตรเครดิตท่องเที่ยวธนาคารกรุงเทพ ติดกระเป๋าไว้นะคะ…