สสส. สนับสนุนเครือข่าย ณ ช้างกลาง จัดกิจกรรมลานดนตรีกลิ่นสีกลางแปลง 2023 ชูสภาพแวดล้อมดี พื้นที่ปลอดภัยสำหรับคนทุกช่วงวัย
สสส. สนับสนุนเครือข่าย ณ ช้างกลาง จัดกิจกรรมลานดนตรีกลิ่นสีกลางแปลง 2023 ชูสภาพแวดล้อมดี พื้นที่ปลอดภัยสำหรับคนทุกช่วงวัย ทดแทนพื้นที่เสี่ยง ปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า กัญชา อาวุธ สารเสพติดทุกชนิด ส่งเสริมการท่องเที่ยวทางธรรมะ และธรรมชาติ ด้าน สสอ.ช้างกลางห่วงอุบัติเหตุและโรค NCDs คร่าชีวิตคนพื้นที่ แนะยึดหลัก 3 อ. 2 ส. อาหารดี อารมณ์ดี ออกกำลังกาย งดสุรา สารเสพติด
เมื่อเร็วๆนี้ ที่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีนครศรีธรรมราช อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช กลุ่ม ณ ช้างกลาง ร่วมกับกลุ่มฤาษีแปลงสาร วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีนครศรีธรรมราช กลุ่มลานละมุน เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพเยาวชน (ขสย.) เครือข่ายองค์กรงดเหล้า และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมจัดกิจกรรมลานดนตรีกลิ่นสีกลางแปลง 2023 ชูสภาพแวดล้อมดี พื้นที่ปลอดภัยสำหรับทุกวัย ทดแทนพื้นที่เสี่ยง ปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า กัญชา น้ำกระท่อม อาวุธ และสารเสพติดทุกชนิด โดยภายในงานมีการออกร้านจำหน่ายสินค้าชุมชน การแสดงดนตรีจากเยาวชนในพื้นที่และศิลปินสายอินดี้ที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มวัยรุ่น การแสดงงานศิลปะ ภาพถ่าย กลองยาวประกอบกราฟฟิตี้ งานศิลปะทำมือ และการฉายหนังกลางแปลง โดยได้รับความสนใจจากเด็ก เยาวชน ครอบครัว และประชาชนในพื้นที่อำเภอช้างกลางและพื้นที่ใกล้เคียงเป็นอย่างมาก
นายวรวิทย์ จงจิตต์ กลุ่มฤาษีแปลงสาร ในฐานะตัวแทนผู้จัดงาน กล่าวถึงการจัดงานในครั้งนี้ว่าเกิดขึ้นภายใต้ความร่วมมือของกลุ่มคนรุ่นใหม่ คนทำงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดงานที่เป็นพื้นที่สร้างสรรค์ให้เด็ก เยาวชน ได้แสดงความสามารถ เป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับคนทุกวัย และส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่อำเภอช้างกลาง
“พวกเราอยากเห็นงานที่ทุกคนสามารถมาร่วมงานได้อย่างปลอดภัย ไม่มีควันบุหรี่ หรือกัญชา ไม่มีคนเมาเหล้า เมายาในงาน ทุกคนที่มาร่วมงานได้เสพงานศิลปะ ชมภาพถ่ายวิถีชีวิตของคนชางกลางที่รวบรวมจากช่างภาพในพื้นที่ ฟังดนตรี ดูหนังกลางแปลง เลือกซื้อหาของกินพื้นบ้านขนมจาก ข้าวหลาม ครอบครัวได้มาทำกิจกรรมร่วมกัน อาจจะเป็นความแปลกใหม่ในพื้นที่แต่ต้องขอบคุณชาวช้างกลางและพื้นที่ใกล้เคียงที่สนใจเข้าร่วมงานนี้จำนวนมาก และงานสองวันนี้ช่วยตอกย้ำว่างานดนตรี กวี ศิลปะ ที่มีสติ เคารพสิทธิกันและกันมีนเกิดขึ้นได้จริงและไม่ต้องพึ่งพาสปอนเซอร์จากธุรกิจน้ำเมาหรืออยายมุขทั้งหลายก็สามารถสร้างสรรค์งานดี ๆ ที่ปลอดภัยกับคนทุกวัยได้” นายวรวิทย์กล่าว
นายวรรณดี สรรพจิต (ครูโท) อายุ 82 ปี ปราชญ์ชาวบ้าน กล่าวถึงความเป็นมาของอำเภอช้างกลางว่าช้างกลางเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดนครศรีธรรมราชที่แยกมาจากอำเภอฉวาง ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มีตำนานการคล้องช้าง คำว่า “ช้างกลาง” ตามประวัติเมืองก็กล่าวว่าสมัยก่อนมีกรมช้างกลาง เป็นหน่วยงานระดับกรมหนึ่งในจำนวน 28 กรมใหญ่ของเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นระบอบการปกครองแบบจตุสดมภ์ก่อน พ.ศ. 2437 หน้าที่ของกรมช้างกลาง คือ การคล้องช้าง ป่าที่มีมากมายในป่าเขาหลวง เพื่อนำช้างป่ามาฝึกหัดเพื่อใช้ในงานราชการ เป็นที่มาของคำขวัญประจำอำเภอช้างกลางในปัจจุบันคือ “ตำนานเมืองคล้องช้าง น้ำยางพันธุ์ดี มากมีผลไม้ พ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์”
นายสุรชัย ชัยสิทธิ์ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ สาธารณสุขอำเภอช้างกลาง กล่าวในประเด็นสาธารณสุขเพื่อสุขภาพที่ดีของคนช้างกลางว่า ชาวช้างช้างมีปัญหาทางสุขภาพสำคัญจากโรค NCDs เบาหวาน ความดัน โดยเฉพาะในกลุ่มวัยทำงานที่มีพฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ ในปี พ.ศ.2565 อ.ช้างกลางมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนจำนวน 12 คน เทียบเป็น 42 คนต่อแสนประชากรถือว่าเป็นค่าเฉลี่ยที่สูงมาก สาเหตุของการตายจากอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการไม่สวมหมวกนิรภัย สภาพแวดล้อม การดื่มแล้วขับ และเสพแล้วขับ
“ช้างกลางมีปัจจัยเอื้อ ที่เหมาะสำหรับการสร้างให้เป็นเมืองสุขภาพ มีอาหารเมนูสุขภาพ มีธรรมชาติ เหมาะสำหรับการออกกำลัง มีอากาศที่ดี แต่สิ่งสำคัญคือทุกฝ่ายต้องร่วมกันสร้างความเข้าใจให้ประชาชนได้เห็นความสำคัญของการสร้างเสริมสุขภาพ ในมุมมองของตนเห็นว่า มี 3 อ.ที่ควรต้องทำคือ อาหารที่มีประโยชน์ อารมณ์ที่ดี ออกกำลังกายอย่างถูกต้องสม่ำเสมอ และมี 2 ส.ที่ต้องหลีกเลี่ยง คือ สุรา และสารเสพติด หากประชาชนปฏิบัติตามหลัก 3 อ. 2 ส.นี้ได้ เชื่อว่าจะทำให้ประชาชนชาวช้างกลางมีสุขภาพที่ดีได้” ผู้แทนสาธารณสุขอำเภอช้างกลางกล่าว
ด้าน นางสาวสุบุตรา อำลอย เจ้าของสวนบุตรา กลุ่ม ณ ช้างกลาง คนรุ่นใหม่ในพื้นที่ กล่าวว่า ตนเป็นหนึ่งในบัณฑิตจบใหม่ที่ตัดสินใจกลับบ้าน หลังจบวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตนกลับมาเริ่มทำสวนปลูกผักสลัด ทำสบู่สมุนไพร และทำสวนทุเรียนที่บ้าน ต่อมาได้ร่วมกิจกรรมกับชมรมท่องเที่ยว ได้เห็นว่าช้างกลางมีธรรมชาติที่สวยงาม มีสิ่งแวดล้อม อากาศที่ดี มีอาหารพื้นถิ่น มีร้านอาหาร มีจุดเช็คอินจำนวนมาก มีพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวนครศรีธรรมราชและจังหวัดใกล้เคียง จึงมีได้รวมตัวกันเป็นกลุ่ม ณ ช้างกลาง ที่มีเป้าหมายเพื่อสื่อสารความเป็นอำเภอช้างกลางให้เป็นที่รู้จักของคนโดยทั่วไป และดีใจมากที่มีงานดี ๆ แบบนี้ในบ้านของเรา ขอบคุณทางผุ้สนับสนุน โดยเฉพาะ สสส. ที่เข้าใจและให้โอกาสคนรุ่นใหม่ได้ทำสิ่งดี ๆ ”