“มาเซราติ” เผยโฉมซูเปอร์คาร์ รังสรรค์ ร่วม “เดวิด เบคแฮม”
มาเซราติเผยโฉมซูเปอร์คาร์คอลเล็กชั่นแรกในโปรแกรม “Fuoriserie Essentials” ที่รังสรรค์ขึ้นด้วยความร่วมมือกับ เดวิด เบคแฮม นักฟุตบอลระดับตำนานผู้เป็นสไตล์ไอคอนและแบรนด์แอมบาสเดอร์ของค่ายมาเซราติ ยนตรกรรมพิเศษสะท้อนตัวตนที่เป็นเอกลักษณ์
มาเซราติเผยโฉม‘ฟูโอริเซรี เอสเซนเชียล (Fuoriserie Essentials)’คอลเล็กชั่นสุดพิเศษของยนตรกรรมที่รังสรรค์ขึ้นจากมุมมองของเหล่ามิตรแท้ของค่ายตรีศูลผู้มีรสนิยมด้านการออกแบบและสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ ยนตรกรรมคอลเล็กชั่นแรกนี้ ถูกออกแบบโดยเดวิด เบคแฮม นักกีฬาระดับตำนานของโลกที่ล้ำด้วยรสนิยมเลิศหรู พร้อมทั้งเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของมาเซราติ ผู้พร้อมจะสร้างแรงบันดาลใจให้คนรักรถร่วมสะท้อนวิสัยทัศน์ ที่มีต่อสปอร์ตคาร์สุดหรูสัญชาติอิตาเลียนนี้ ในแบบของตนเอง
เดวิด เบคแฮม ออกแบบตกแต่งซูเปอร์คาร์ชุดนี้ ด้วยแรงบันดาลใจที่มาจากมาเซราติรุ่นคลาสสิก และมองว่า ‘ฟูโอริเซรี เอสเซนเชียล’ จะเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สะท้อนสไตล์และความหรูหรา เสริมจากเสื้อผ้าที่ตัดเย็บอย่างประณีตด้วยช่างฝีมือขั้นสูงแห่ง Savile Row เบคแฮมจึงได้ออกแบบให้ ฟูโอริเซรี ดีบี เอสเซนเชียล (Fuoriserie DB Essentials) คอลเล็กชั่นนี้ โดดเด่นด้วยการปรับแต่ง (car configuration) 2 แบบ เพื่อให้ยนตรกรรมสุดหรูสามารถสะท้อนกลิ่นอายการออกแบบร่วมสมัย และเป็นการตีความแก่นแท้ของยนตรกรรมอมตะจากค่ายตรีศูลในมุมมองของตนเองได้อย่างชัดเจน
ด้วยความหลงใหลในมาเซราติ กิบลี่ คูเป้ (Maserati Ghibli coupé) รุ่นปี 1967 สุดคลาสสิกเบคแฮมได้เลือกสีน้ำเงิน ไนท์ อินเตอร์แอคชั่น (Night Interaction) เป็นสีภายนอกสำหรับรถในคอลเล็กชั่น ฟูโอริเซรี ดีบี เอสเซนเชียล คันแรก ผสานกับการตกแต่งในห้องโดยสารด้วยหนังแท้โทนสีน้ำตาลแดง ส่วนการปรับแต่งในสไตล์ตนเองชุดที่ 2 คือ แรงบันดาลใจจากมาเซราติ ควอตโตรปอร์เต้ รอแยล (Maserati Quattroporte Royale)รุ่นปี 1986 ซึ่งผลิตขึ้นเพียง 51คันเท่านั้น โดยเลือกสีภายนอกเป็นสีเขียวเข้ม Verde Royale เข้ากับการตกแต่งภายในด้วยโทนสีน้ำตาลอบอุ่น นอกจากนี้ ยังมีแผ่นโลหะที่บ่งบอกการฉลองความร่วมมือระหว่างมาเซราติและเดวิด เบคแฮมติดอยู่บริเวณช่องว่างระหว่างเบาะหน้าหรือระหว่างพนักพิงศีรษะ
คลอส บัส หัวหน้าฝ่ายออกแบบ มาเซราติ กล่าวว่า “ฟูโอริเซรี” ในภาษาอิตาเลียนหมายถึง “การออกแบบผลิตตามความต้องการ” โครงการปรับแต่งรถยนต์ในสไตล์ของลูกค้าที่ค่ายตรีศูลจัดขึ้นนั้นเป็นการริเริ่มเพื่อสร้างประสบการณ์พิเศษเพียงหนึ่งเดียวกับรถยนต์สะท้อนเอกลักษณ์เฉพาะตัวลูกค้า เนื่องจากมาเซราติต้องการให้ลูกค้าได้เป็นเจ้าของยนตรกรรมที่สื่อบุคลิกและแพสชันส่วนตัวได้ผ่านซูเปอร์คาร์จากรถยนต์มาเซราติ ลูกค้าสามารถเลือกการปรับแต่งรถยนต์ในสไตล์ตัวเองได้เช่นเดียวกับเดวิด เบคแฮม โดยเลือกจากฟีเจอร์ต่างๆ ที่มาเซราติจัดเตรียมไว้มากมายในคอลเล็กชั่น ฟูโอริเซรี คอร์เซ่ (Fuoriserie Corse) ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากตำนานการแข่งรถของมาเซราติ และคอลเล็กชั่นฟูโอริเซรี ฟูทูรา (Fuoriserie Futura) ที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อผู้ที่หลงใหลในเทคโนโลยีและวัสดุล้ำสมัย
รถยนต์มาเซราติในคอลเล็กชั่น ฟูโอริเซรี ดีบี เอสเซนเชียล ที่ปรับแต่งทั้ง 2 แบบ จะเปิดให้สั่งจองได้ในเร็วๆ นี้
เกี่ยวกับ มาเซราติ เอส.พี.เอ.
มาเซราติ คือ ผู้ผลิตรถยนต์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดดเด่นด้วยสไตล์, เทคโนโลยีล้ำสมัย และตัวตนที่ไม่ซ้ำใคร สะท้อนความเฉลียวฉลาด รสนิยมอันลุ่มลึก สะท้อนมาตรฐานแห่งการเป็นยนตรกรรมระดับโลก และด้วยความสำเร็จของผลิตภัณฑ์ในแต่ละเซกเมนต์ มาเซราติ ได้กำหนดนิยามใหม่ ให้กับรถสปอร์ตของอิตาลี ในแง่ของการออกแบบ, ประสิทธิภาพ, ความสะดวกสบาย, ความสง่างาม และความปลอดภัย ปัจจุบันมีจำหน่ายในกว่า 70 ประเทศทั่วโลก มาเซราติ ควอตโตรปอร์เต้ (Quattroporte) นับเป็นยนตรกรรมเรือธงของค่ายตรีศูล สมทบด้วยรุ่นกิบลี่ (Ghibli), เลอวานเต้ (Levante) เอสยูวีรุ่นแรกในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ และ เกรคาเล่ (Grecale) ซึ่งเป็นเอสยูวีที่มาพร้อมแนวคิด ‘Everyday Exceptional’ ทุกรุ่นต่างโดดเด่นด้วยการใช้วัสดุที่มีคุณภาพชั้นสูง และการออกแบบทางเทคนิคอันยอดเยี่ยม มาเซราติ กิบลี่, เลอวานเต้ และเกรคาเล่ มีหลายทางเลือกขุมพลัง อาทิ เบนซินไฮบริด 4 สูบ, เบนซิน วี 6 สูบ ไปจนถึงเบนซิน วี 8 สูบ ทั้งในแบบขับเคลื่อนล้อหลังหรือขับเคลิ่อน 4 ล้อ โดยมาพร้อมดีเอ็นเออันเป็นเอกลักษณ์ของยนตรกรรมค่ายตรีศูล ขณะที่รุ่นสูงสุด คือ ซูเปอร์สปอร์ตคาร์ เอ็มซี 20 (MC20) และ เอ็มซี20 แชร์โล (Cielo) ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ เน็ททูโน (Nettuno) ที่ได้นำเทคโนโลยีจากรถแข่งฟอร์มูลาวัน มาใช้กับยนตรกรรมในสายการผลิตเป็นครั้งแรก มาเซราติ กรันทูริสโม โฉมใหม่ มีจำหน่ายทั้งรูปแบบเครื่องยนต์เบนซินสมรรถนะสูง และแบบไฟฟ้าล้วน เพื่อพัฒนายนตรกรรมค่ายตรีศูลไปสู่อนาคต โดยมี มาเซราติ โฟลกอเร เป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกในประวัติศาสตร์ พร้อมตั้งเป้าในปี 2025 รถยนต์ มาเซราติ ทุกสายพันธุ์จะมีรุ่นที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเป็นทางเลือก และ มาเซราติ ทุกรุ่น จะกลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดภายในปี 2030