ปิ๊งไอเดียหนุนเถ้าแก่หน้าใหม่
ตลอดตุลาฯตลาดคลองผดุงฯ
ไอเดียกับการทำธุรกิจ เป็นทั้งการสร้างความแตกต่างเหนือคู่แข่งและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า สอดคล้องกับแนวคิดของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และการได้เรียนรู้ไอเดียใหม่ๆ ยังเปรียบเสมือนกับพรวนดินรดน้ำให้สมอง วันนี้หากใครอยากมองหาพื้นที่กระตุ้นต่อมความคิด แนะนำว่า ให้มาเดินเล่นที่ตลาดคลองผดุงกรุงเกษม ซึ่งตอนนี้เขามีไอเดียดีๆที่จับต้องง่าย ใช้งานได้จริง มารวมไว้ตลอดเดือนตุลาคมนี้
แค่ก้าวแรกที่เข้ามาในงาน เราก็ได้พบกับเครื่องไม้เครื่องมือที่ไม่คุ้นหน้าคุ้นตามาก่อน ก่อนที่จะมาสะดุดตรงมุมเครื่องจักรกับผลไม้ชนิดต่างๆ ที่ดึงความสนใจของทุกคนให้เข้ามาห้อมล้อม โดยเฉพาะเจ้าเครื่องแกะทุเรียน ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างตรงใจ
ทุเรียนเป็นราชาแห่งผลไม้สำหรับใครหลายๆคน ทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีนซึ่งมีรายงานว่าเป็นประเทศที่สั่งซื้อทุเรียนจากเมืองไทยถึงมากกว่า 1.4 หมื่นล้านบาทในปี 2557 แต่ความยากลำบากในการรับประทานทุเรียนรวมทั้งน้ำหนักของเปลือก กินพื้นที่การจัดส่งอย่างมาก ทำให้ทุเรียนแกะเนื้อได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับผลไม้ชนิดอื่นๆอย่าง มะพร้าว หรือ มังคุด
การแกะทุเรียนแต่ละลูกนั้นใช้เวลานาน จึงมีผู้คิดค้น “เครื่องแกะทุเรียน” ขึ้นโดยบริษัท วิศวกรรมบริการบำรุงรักษา จำกัด ภายใต้การสนับสนุนจากกระทรวงวิทยาศาสตร์ ใช้เวลาในการวิจัยและพัฒนา 1 ปี และได้เดินสายโชว์ผลงานนี้ในงานต่างๆ ล่าสุด ได้เรียกความสนใจให้กับ “ตลาดนัดสินค้าชุมชน ตลาดคลองผดุงกรุงเกษม” ข้างคำเนียบรัฐบาล โดยตลอดเดือนตุลาคมนี้ ได้จับเอาสิ่งที่น่าสนใจสำหรับเอสเอ็มอี มาไว้ 2 งานในคราวเดียวกัน นับเป็นการผสานกำลังของเอสเอ็มอีแบงก์ และ และกระทรวงวิทยาศาสตร์ อันประกอบด้วยงาน “สุดยอด SMEs ของดีทั่วไทย” ระหว่างวันที่ 2 – 25 ตุลาคม 2558 และ “นวัตกรรมและเทคโนโลยีไทยเพื่อ SMEs” ระหว่างวันที่ 3 -25 ตุลาคม 2558 เวลา 10.00-19.00 น.
“เครื่องแกะทุเรียนภายใน 10 วินาที” นับเป็นหนึ่งไฮไลท์ของนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางด้านการเกษตรสำหรับเอสเอ็มอี ใกล้ๆกัน เรายังพบกับนวัตกรรมทางการเกษตรอื่นๆ เช่น เครื่องปอกมะพร้าว เครื่องปาดเปลือกมะพร้าว เครื่องเจาะมะพร้าว เครื่องม้วนอัดไม้อ้อย ฯลฯ ที่สามารถนำไปใช้งานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเกษตรกรหรือโรงงาน รวมทั้งผู้ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจใหม่ เช่น อาชีพขายน้ำมะพร้าว ที่สามารถลงทุนซื้อเครื่องจักรตัวนี้ ไปตั้งไว้หน้าร้าน โดยใช้เพียงพื้นที่เล็กๆ ก็สามารถจำหน่ายน้ำมะพร้าวสดๆให้กับลูกค้าได้ทันที
เป็นที่น่ายินดีว่านวัตกรรมที่นำมาแสดงภายในงานเหล่านี้ มาจากฝีมือคนไทย โดยการสนับสนุนจากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี บ้างก็เป็นนวัตกรรมต้นแบบที่รอผลิตในเชิงพาณิชย์เพื่อให้มีต้นทุนที่ถูกลง บ้างก็เป็นนวัตกรรมที่ถูกนำไปใช้ในครัวเรือน บ้างก็นำไปใช้สำหรับโรงงาน และมีเครื่องจักรหลายชิ้น ที่สามารถเอื้อต่อการต่อยอดผลิตภัณฑ์ของเอสเอ็มอี เช่น ผลิตภัณฑ์แบรนด์ “ชูกาเวีย” ที่ได้ต่อยอดหญ้าหวาน สู่สารให้ความหวานจากธรรมชาติแบบผงแห้งที่สามารถใช้แทนน้ำตาลได้
“มนัสสิทธิ์ โชคสุนทรนิธิ” ผู้จัดการการฝ่ายการตลาด บริษัท ซูกาเรีย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากหญ้าหวาน “ซูกาเวีย” กล่าวว่า ได้ทำการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์จากหญ้าหวานมาแล้ว 4-5 ปี และได้พบกับ เครื่องทำผงแห้งอเนกประสงค์ (Spray Dryer) ที่ใช้สำหรับทำนมผง กาแฟผง อาหาร ยาสมุนไพร เครื่องสำอาง ฯลฯ โดยบริษัท ยูโร เบสท์ เทคโนโลยี จำกัด ซึ่งได้รับการสนับสนุนด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีจากกระทรวงวิทยาศาสตร์ จึงได้นำเครื่องจักรนี้มาใช้เพื่อผลิตสารให้ความหวานแทนน้ำตาล เกิดเป็นการต่อยอดผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ใช้งานได้สะดวกและหลากหลายมากยิ่งขึ้น ส่งผลต่อโอกาสในการขยายตลาดไปยังกลุ่มที่คนรักสุขภาพทั้งในและต่างประเทศ
นี่คือตัวอย่างของการแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อ SMEs ด้านการเกษตร โดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งได้จบลงไปแล้วในสัปดาห์แรก ของการจัดงาน ส่วนสัปดาห์ที่สอง ก็จะเป็นการแสดงเทคโนโลยีด้านสิ่งทอ เฟอร์นิเจอร์ แฟชั่น เครื่องจักรสาน เครื่องปั้นเซรามิก อาหาร และสัปดาห์ที่สาม จะเป็นเทคโนโลยีเกี่ยวกับด้านการแพทย์ เวชภัณฑ์ เวชสำอาง อาหารสุขภาพ และสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้สูงอายุ โดยสิ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก คือ ไอเดียของเทคโนโลยีที่สามารถนำไปใช้ได้จริง ทั้งในชีวิตประจำวันหรือการประกอบอาชีพ
อีกด้านหนึ่งในตลาดนัดสินค้าชุมชน ตลาดคลองผดุงกรุงเกษม ธนาคารเอสเอ็มอีแบงก์ก็ได้จัดแสดง “สุดยอด SMEs ของดีทั่วไทย” ทั้งของกิน ของใช้ ของดีจากทั่วสารทิศ มารวมตัวกันที่นี่ โดยงานนี้จัดขึ้นภายใต้แนวความคิด 4 พร้อมเสิร์ฟ คือ 1.ของกินถูกปาก 2. ของฝากถูกใจ 3. เงินทุนหลากหลาย และ 4. ตั้งตัวได้ในงาน ซึ่งถือว่าเป็นงานที่ครบเครื่องสำหรับทุกคน ทั้งผู้ที่มาเที่ยวชม หรือต้องการองค์ความรู้ ต้องหารแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ ดังนั้นงานนี้จึงเป็นจุดศูนย์รวมของว่าที่เถ้าแก่หน้าใหม่ภายในงานเดียว
ทั้งนี้เอสเอ็มอีแบงก์ ได้เตรียมพร้อมสำหรับการมอบสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีวงเงิน 100,000 บาทให้ยื่นกู้ภายในงานได้อีกด้วย โดยมีกองทุนเถ้าแก่ใหม่ 4 ล้านบาทที่พร้อมสนับสนุนนักศึกษาที่มีไอเดียเด็ดในการทำธุรกิจ รายละ 200,000 บาท รวมทั้งกองทุนคืนคนดีสู่สังคม 1 ล้านบาท นอกจากนี้ผู้ที่สนใจยังเข้าร่วมตรวจเครดิตบูโรฟรีตลอดการจัดงาน
และไฮไลท์ที่สำคัญสำหรับผู้มองหาโอกาสใหม่ๆ คือ หลักสูตรฝึกอาชีพระยะสั้น ซึ่งจะเปิดอบรมให้กับผู้เข้าร่วมงาน ณ เวทีกิจกรรมของทั้ง 2 โซน สำหรับโซน “สุดยอด SMEs ของดีทั่วไทย” มีกำหนดการฝึกอาชีพหมุนเวียนกันไป ในช่วง 14.00-17.00 น. โดยวันศุกร์ที่ 16 ตุลาคมนี้ พบกับหลักสูตรการเต้าฮวยฟรุ้ดสลัด วันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม หลักสูตรการปักริบบิ้นเพิ่มมูลค่าเพิ่ม พุธที่ 21 ตุลาคม หลักสูตรเทคนิคการเพ้นท์กรอบรูป และศุกร์ที่ 23 ตุลาคม หลักสูตรการทำน้ำสลัดหลากรสเพื่อคนรักสุขภาพ ผู้ที่สนใจเข้าฝึกอบรมฟรี ด้วยการลงทะเบียน ณ บริเวณลานกิจกรรม โดยการอบรมจะมีจำนวนจำกัด 20 ท่านต่อครั้ง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลข 02 2654601 และ 089 8276383
เส้นทางอาชีพที่น่าสนใจยังรวมถึง การสาธิตการแปรรูปข้าวไรซ์เบอร์รี่เป็นไอศกรีม และการทำซูชิหลากสไตล์ มีผู้ที่สนใจเข้าอบรมเป็นจำนวนมาก โดยวันนี้เราได้พบกัลไอเดียใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจจากซูชิลวดลายต่างๆ โดยเฉพาะ “ซูชิลายไทย” ที่เก๋ไก๋ไม่เหมือนใคร เปลี่ยนข้าวปั้นสไตล์ญีปุ่นให้งามอย่างไทย นับเป็นไอเดียที่ใช้ในการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าได้เป็นอย่างดี
ได้ชม ได้ชิม แถมยังอิ่มความรู้ เปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ ปลุกพลังในสมอง กับตลาดแห่งนี้ ซึ่งแต่ละเดือนก็จะมีการจัดกิจกรรมที่แตกต่างกันออกไป ใครที่มองหาที่เดินเล่นแบบเย็นๆใจ ก็แนะนำให้เข้ามาที่ตลาดคลองผดุงกรุงเกษมได้ตั้งแต่เวลา 10.00-19.00 น. ถึงวันที่ 25 ตุลาคมนี้