ไอคอนสยามเปิดจองที่พักสุดหรู
แบรนด์ “แมนดาริน โอเรียนเต็ล”
ไอคอนสยาม เปิดจอง “เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ” ที่พักอาศัยสุดหรูแบรนด์ “แมนดาริน โอเรียนเต็ล” แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และหนึ่งในที่พักอาศัยหรูหราและแพงที่สุดในโลก ตั้งอยู่บนพื้นที่โครงการ “ไอคอนสยาม” ริมฝั่งเจ้าพระยาที่จะกลายเป็นสัญลักษณ์ใหม่ของไทยในอนาคต เปิดจองพร้อมกันทั้งกรุงเทพฯ ฮ่องกงและลอนดอน คาดใน 3-4 เดือนข้างหน้ามียอดขาย 20-30% พร้อมเปิดให้เข้าพักในปี 2561
นางทิพพาภรณ์ เจียรวนนท์ อริยวรารมย์ กรรมการ บริษัท ดิ ไอคอนสยาม ซูเปอร์ลักซ์ เรสซิเดนซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า “เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพ เป็นโครงการที่พักอาศัยที่ได้รับการออกแบบและก่อสร้างด้วยมาตรฐานความหรูหราระดับสูงสุด มีทำเลที่ตั้งสวยงามมีมนต์เสน่ห์ ทำให้โครงการนี้ จัดอยู่ในกลุ่มที่พักอาศัยที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งจะช่วยยกระดับชื่อเสียงและเกียรติภูมิของกรุงเทพฯ ให้สูงขึ้นไปอีกขั้น ในฐานะเมืองสำหรับที่พักอาศัย ซึ่งนั่นคือเหตุผลที่ว่า ทำไมจึงประกาศเปิดตัวโครงการพร้อมกัน ในอีก 2 เมือง ที่ถือเป็นเมืองหลวงของแหล่งที่พักอาศัยระดับหรูหราแถวหน้าของโลก”
ทั้งนี้ “เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ” เป็นโครงการที่พักอาศัยแบรนด์ “แมนดาริน โอเรียนเต็ล” แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นอาคาร 52 ชั้นสุดหรู จำนวน 146 ยูนิต แบบฟรีโฮลด์ ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งตรงข้ามเยื้องกับโรงแรมระดับตำนานอย่าง แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ บนพื้นที่โครงการไอคอนสยาม50 ไร่ มูลค่า 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของประเทศไทย เกิดจากการร่วมทุนระหว่าง บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด และเครือเจริญโภคภัณฑ์ โดยที่พักอาศัยหรูหรานี้ได้รับการบริหารจัดการโครงการ พร้อมทั้งการบริการและอำนวยความสะดวกให้กับผู้พักอาศัยโดยแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพ ที่มีชื่อเสียงเติมเต็มไลฟ์สไตล์สุดหรูหรา มีสัญญาการบริหารนานถึง 25 ปี
นางทิพพาภรณ์ เปิดเผยว่า ได้เพิ่มเงินลงทุนรวมของโครงการที่พักอาศัยหรูนี้ เป็นมูลค่า 9,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2,000 ล้านบาท จากเดิมที่ประกาศความร่วมมือกับแมนดาริน โอเรียนเต็ล เพื่อติดแบรนด์และบริหารโครงการสุดหรูแห่งนี้เมื่อปี 2557 ที่ผ่านมา นับว่ามีเงินลงทุนต่อพื้นที่ขาย 1 ตารางเมตรเป็นมูลค่าสูงกว่าโครงการที่พักอาศัยหรูอื่น ๆ ในกรุงเทพฯ 30%
ยูนิตในอาคารมีขนาดตั้งแต่ 130 – 230 ตารางเมตร สำหรับห้องเพนท์เฮาส์และดูเพล็กซ์เพนท์เฮ้าส์มีขนาดตั้งแต่ 380 – 710 ตารางเมตร ทุกยูนิตมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาและสวนขนาด 4,600 ตารางเมตรแบบไม่มีอะไรมาบดบัง อีกทั้งยังมีความพิเศษตรงที่มีทางเข้าลิฟต์โดยสารที่เป็นส่วนตัว มีเพดานห้องสูง 3.20 เมตรและมีพื้นที่ส่วนกลางต่อยูนิตใหญ่กว่าคอนโดมิเนียมเกรดเอส่วนใหญ่ในกรุงเทพฯประมาณ 3 เท่า โดยคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2561
นอกจากนี้ผู้พักอาศัยในโครงการยังจะได้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมคือ เป็นสมาชิก Residences Elite Programme ของแมนดาริน โอเรียนเต็ล ซึ่งมอบสิทธิพิเศษครอบคลุมทั่วโลกเมื่อเข้าพักโรงแรมในเครือแมนดาริน โอเรียนเต็ลและรับสิทธิพิเศษและการยอมรับระดับวีไอพีเมื่อใช้บริการร้านค้าภายในโครงการไอคอนสยาม
ผู้อยู่อาศัยยังจะได้รับความสะดวกสบายจากสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย ครอบคลุมพื้นที่ 3,000 ตารางเมตร จำนวน 4 ชั้น ซึ่งรวมถึงสกายพาวิลเลียนสุดเอ็กซคลูซีฟบนชั้น 36 ประกอบ ด้วยเลาจน์ บิสซิเนสเซ็นเตอร์ และห้องสมุด ส่วนคลับเฮาส์สำหรับผู้พักอาศัยตั้งอยู่บนชั้น 4 และชั้น 5 สามารถมองเห็นทัศนียภาพอันสวยงามน่าประทับใจของวิวแม่น้ำเจ้าพระยา มีพื้นที่รับประทานอาหารที่เป็นส่วนตัว มีสระว่ายน้ำลอยฟ้าแบบไร้ขอบ (infinity-edge lap pool) อ่างจากุซซี่ ฟิตเนส เซ็นเตอร์สุดล้ำสมัย สนามกอล์ฟจำลอง ห้องเล่นเกม และห้องสื่อต่างๆ
นอกเหนือจากนี้ เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ ยังเป็นโครงการแรกที่ริเริ่มนำระบบจอดรถอัตโนมัติในอาคารที่พักอาศัยมาใช้เป็นโครงการแรกในกรุงเทพฯ โดยจอดรถได้ 350 ที่ ซึ่งจะช่วยให้ผู้พักอาศัยสามารถจอดรถทิ้งไว้ที่ล็อบบี้ทางเข้าได้ โดยมีลิฟต์อัจฉริยะอำนวยความสะดวกนำรถไปจอดให้
ห้องชุดพักอาศัยทุกยูนิตเป็นแบบ Fully Fitted และเพิ่มเติมกว่านั้นลูกค้าสามารถเลือกซื้อเป็นแบบ Fully Furnished หรือห้องชุดพักอาศัยที่ตกแต่งพร้อมเข้าอยู่ได้ ซึ่งออกแบบและตกแต่งโดยนักออกแบบตกแต่งภายในชื่อดังของโลก จอยซ์ แวง ซึ่งมีผลงานออกแบบตกแต่งภายในโครงการดังๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม แมนดาริน โอเรียนเต็ล แลนด์มาร์ก ในฮ่องกง แมนดาริน โอเรียนเต็ล ลอนดอน ซินเทียนตี้ เพนท์เฮาส์ และสำนักงานใหญ่เคเอชเอช
สำหรับราคาขายเริ่มต้นที่ประมาณ 350,000 บาทต่อตารางเมตร มีขนาดห้องตั้งแต่ประมาณ 130 – 230 ตารางเมตรต่อยูนิต ส่วนห้องเพนท์เฮาส์ และดูเพล็กซ์เพนท์เฮาส์ ขนาดตั้งแต่ 380 – 710 ตารางเมตร ราคาขายเริ่มต้นที่ประมาณ 550,000 บาทต่อตารางเมตร
ด้านนายธนวันต์ ชัยวัฒนะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดิ ไอคอนสยาม ซูเปอร์ลักซ์ เรสซิเดนซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพ เป็นโครงการที่พักอาศัยคุณภาพเทียบเท่าหรือเหนือกว่าที่พักอาศัยที่ดีที่สุดของโลก ทำให้มั่นใจว่า จะได้รับการตอบรับจับจองจากกลุ่มเป้าหมายอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีอยู่ทั่วโลก เป็นกลุ่มคนที่เลือกซื้อความหรูหราขั้นสูงสุด และรู้ดีว่าโครงการมีความพิเศษ ทั้งทำเลที่ตั้งและชื่อเสียงของแบรนด์ เป็นเรื่องยากมากที่จะมีโครงการแบบนี้เกิดขึ้นอีก ซึ่งคนกลุ่มนี้ตัดสินใจควักกระเป๋าซื้อเพราะเขาต้องการเป็นเจ้าของ ‘ของสะสม’ ที่หายาก ที่ทำให้พวกเขามีอะไรที่พิเศษและแตกต่าง
“เราเปิดรับลูกค้าทั่วไปและให้ความสำคัญทั้งกลุ่มลูกค้าคนไทยและต่างประเทศ มีสัดส่วนที่ 50:50 แต่โครงการจะเป็นตัวเลือกกลุ่มลูกค้าเอง เพราะเรามีทุกอย่างสำหรับลูกค้า ทั้งทำเลที่ตั้ง ริมน้ำสวยงาม รูปแบบ การออกแบบด้านสถาปัตยกรรม การตกแต่งภายในและบริการต่างๆ รวมถึงความเชื่อมั่นว่า การบริหารจัดการอาคารจะได้มาตรฐานระดับโลกอย่างแท้จริง และลูกค้ากลุ่มนี้จะรู้ว่า ทรัพย์สินหายากแบบนี้จะไม่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของภาวะเศรษฐกิจและมีมูลค่าสูงขึ้นตลอดเวลา ”
นายธนวันต์ คาดว่า ใน 3-4 เดือนข้างหน้าจะมียอดขายประมาณ 20-30% และขณะนี้ยังไม่มีการลงทุนใหม่ ๆ โดยขอมุ่งเน้นโครงการที่มีอยู่ก่อน ทั้งนี้ผู้บริหารของไอคอนสยามยังมองภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ว่า แม้ไม่ได้เติบโตเร็ว แต่ยังมีความต้องการในระดับดี พร้อมแนะให้ผู้พัฒนาด้านอสังหาริมทรัพย์ต้องมีการปรับตัว ค้นหาโซนที่ดี พัฒนารูปแบบใหม่ ๆ และหาขนาดที่เหมาะสม
สำหรับการพัฒนาพื้นที่ริมน้ำเจ้าพระยามีแนวโน้มว่า จะได้เห็นโครงการใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น เพราะเทรนด์มาแล้ว โดยอาจมีคอนโดมิเนียมใหม่ ๆ เพิ่ม รวมถึงโครงการระดับไฮเอนด์เกิดขึ้นตามมาอีก
อนึ่งในพื้นที่โครงการไอคอนสยาม นอกจาก “เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพ” แล้ว ยังเป็นที่ตั้งของโครงการที่พักอาศัยระดับหรูขนาดความสูง 70 ชั้นอีกหนึ่งโครงการ คือ โครงการแมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟรอนท์ เรสซิเดนซ์ และเป็นที่ตั้งของอาณาจักร 2 ศูนย์การค้าแห่งยุคที่สุดของความอลังการล้ำเลิศ ที่หรูหราที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง รวมทั้งสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวแห่งใหม่ 7 อย่าง ที่จะเป็นปรากฏการณ์ใหม่ครั้งแรกในประเทศไทย อีกทั้งทางเดินริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยงามน่าตื่นตาตื่นใจ
ส่วนแมนดาริน โอเรียนเต็ล โฮเต็ล กรุ๊ป เป็นผู้บริหารจัดการที่พักหรูมืออาชีพระดับโลก ด้วยเป็นเจ้าของและผู้บริหารโรงแรม รีสอร์ท และเรสซิเดนซ์ที่หรูหราที่สุดในโลก ซึ่งได้รับรางวัลประกันคุณภาพมากมาย ปัจจุบันมีโรงแรมที่บริหารและอยู่ในระหว่างพัฒนา 46 โรงแรม มีจำนวนห้องพักรวมกันเกือบ 11,000 ห้องใน 25 ประเทศ โดยเป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่ในเอเชีย 21 โรงแรม อยู่ในทวีปอเมริกา 9 โรงแรม และอยู่ในยุโรป ตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ 16 โรงแรม นอกจากนี้ยังมีโครงการที่พักอาศัย เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล ที่บริหารและอยู่ระหว่างการพัฒนาอีก 16 แห่ง