สทบ.ผนึกพลังธ.ออมสิน-ธกส.
เปิด“ตลาดประชารัฐเพื่อชุมชน”
สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.)ร่วมกับ ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) เปิดตัว “โครงการตลาดประชารัฐเพื่อชุมชน” ครั้งแรก ขานรับนโยบายรัฐ ร่วมสร้างความแข็งแกร่งและการพึ่งพาตนเองของชุมชน สร้างโอกาสการแข่งขันทางการค้า กระตุ้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยเข้มแข็ง นำร่องเปิดตลาดประชารัฐฯแห่งแรก จ.อุบลฯวันที่ 12 – 13 พ.ย.นี้
นายนที ขลิบทอง ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากนโยบายของรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มีวิสัยทัศน์มุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาระบบเศรษฐกิจจากฐานราก โดยอาศัยความเข้มแข็งของชุมชนเป็นพลังสำคัญในการเร่งรัดการกระตุ้นระบบเศรษฐกิจให้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจนนำไปสู่ความยั่งยืน ภายใต้ยุทธศาสตร์ “ประชารัฐ” ที่มุ่งหวังให้ทุกภาคส่วนผสานความร่วมมือกันเพื่อยกระดับเศรษฐกิจไทยตั้งแต่ฐานรากให้มีความมั่นคง ผนวกกับความเห็นชอบของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2558 ในเรื่องแนวทางการเร่งรัดการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยการใช้มาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยและเกษตรกร ผ่านการกู้เงินจากกองทุนหมู่บ้านในวงเงิน 60,000 ล้านบาท เพื่อให้เกิดการนำเงินทุนไปพัฒนาสินค้าชุมชนหรือพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในท้องถิ่น ซึ่งเงินทุนดังกล่าวจะมาจากธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) วงเงินแห่งละ 30,000 ล้านบาท
สทบ. จึงได้ขานรับนโยบายดังกล่าว โดยร่วมกับ ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส. ) ดำเนินการต่อเนื่องตามแนวทางข้างต้น ในการสนับสนุนการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยการดำเนินการจัดทำ “โครงการตลาดประชารัฐเพื่อชุมชน” เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยภายในท้องถิ่น ตลอดจนการเสริมความรู้เพื่อให้เกิดพัฒนาการด้านการลงทุน การบริหารธุรกิจในชุมชน และการสร้างงาน สร้างอาชีพ อันนำไปสู่ยั่งยืนในอนาคต
“โครงการตลาดประชารัฐเพื่อชุมชน” เป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งทางการค้าของชุมชน สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในชุมชนให้สามารถพึ่งพาตนเองได้และให้โอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน อีกทั้งส่งเสริมความรู้ในการนำไปใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวในท้องถิ่นให้เกิดความยั่งยืน เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์คุณภาพที่พร้อมแข่งขันในตลาดการค้าต่อไป โดยโครงการตลาดประชารัฐฯได้เปิดกว้างให้ประชาชนทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมทั้งเป็นบุคคล ร้านค้า วิสาหกิจชุมชมและผู้ประกอบการเอสเอ็มอี(SMEs)
“โครงการตลาดประชารัฐเพื่อชุมชน” จะประกอบด้วยกิจกรรมต่างๆ อันได้แก่ 1. กิจกรรมออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ จากชุมชน/หมู่บ้านในเครือข่ายชุมชนของสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ซึ่งอยู่ในแต่ละท้องถิ่น โดยผลิตภัณฑ์ที่นำมาจำหน่ายจะผ่านการคัดเลือกมาอย่างดี ภายใต้ราคาที่ย่อมเยา เพื่อเป็นกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย อันจะนำไปสู่การเติบโตและหมุนเวียนทางเศรษฐกิจในระยะสั้น
2. กิจกรรมเสริมความรู้เพื่อให้เกิดพัฒนาการด้านการลงทุนและบริหารธุรกิจในชุมชน รวมถึงส่งเสริมให้เกิดการสร้างอาชีพใหม่หรืออาชีพเสริม อันนำไปสู่ความเป็นชุมชนยั่งยืน 3. การบริการสินเชื่อในโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ จากสถาบันการเงินต่างๆ อาทิ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ที่พร้อมให้คำปรึกษาสำหรับชุมชน/หมู่บ้าน หรือผู้ประกอบการทางธุรกิจ ที่ต้องการสร้างธุรกิจ ขยายกิจการ หรือปรับปรุง พัฒนากิจการให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดได้
โครงการตลาดประชารัฐเพื่อชุมชนเปิดกว้างสำหรับทุกคน
โดย “โครงการตลาดประชารัฐเพื่อชุมชน” จะจัดทำเป็นโครงการนำร่องแห่งแรกที่จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งมีกำหนดจัดกิจกรรมขึ้นในวันที่ 12 – 13 พฤศจิกายน 2558 และจะมีการประเมินผลการจัดงานในครั้งนี้เพื่อไปพัฒนา ปรับปรุงและเป็นต้นแบบของการจัดงานในจังหวัดต่างๆ ในแต่ละภูมิภาคทั่วประเทศต่อไป
ด้านนายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า “ ธนาคารออมสินได้ดำเนินกิจกรรมเพื่อตอบรับนโยบายของรัฐบาล ในการกระตุ้นเศรษฐกิจรากฐานของชุมชนมาอย่างต่อเนื่องและจริงจังภายใต้ยุทธศาสตร์ “ประชารัฐ” เพื่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ เพื่อต่อยอดธุรกิจสร้างรายได้ชุมชน และร่วมสนับสนุนการพัฒนาระบบเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงตามที่รัฐบาลได้กำหนดให้มีมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ของประชาชนผู้มีรายได้น้อย และมาตรการกระตุ้นการลงทุนขนาดเล็กของรัฐบาลทั่วประเทศ
“ที่ผ่านมาธนาคารออมสินได้อนุมัติเงินไปแล้ว 22,000 กองทุน เบิกจ่ายไป 16,000-17,000 ล้านบาท มีประชาชนได้รับไปแล้ว 1.1 ล้านคน ซึ่งการปล่อยกู้อยู่ที่รายละ 20,000 บาท โดยทางสทบ.จะพิจารณาผู้มีวินัยทางการเงิน ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เล่นการพนัน ให้ผ่อนเป็นเวลา 7 ปี 2 ปีแรกอัตราดอกเบี้ย 0% ปีที่ 3-7 อัตราดอกเบี้ยถูกที่ 3% ไม่เกิน 4%
ส่วนการเข้ามาร่วมโครงการตลาดประชารัฐเพื่อประชาชนในครั้งนี้ ธนาคารออมสิน จะมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นให้เกิดการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจฐานราก ผ่านการให้บริการด้านวงเงินสินเชื่อ ดอกเบี้ยต่ำ ให้บริการปรึกษาทางการเงิน การให้คำปรึกษาในการประกอบธุรกิจ ให้คำปรึกษาธุรกิจที่ต้องการขยายกิจการ ให้คำแนะนำในเรื่องพัฒนาเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์สินค้า เพื่อสร้างโอกาสการแข่งขันในตลาด โดยธนาคารออมสินจะลงพื้นที่เพื่อให้บริการด้านสินเชื่อแบบ One Stop Service ในทุกพื้นที่ที่จัดกิจกรรม “โครงการตลาดประชารัฐเพื่อประชาชน” โดยในส่วนสินเชื่อที่ให้เป็นสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยถูกเพียง 0.75% ต่อเดือน นอกจากนี้ยังมีสินเชื่อเคหะ GSB Plus สินเชื่อSMEs เป็นต้น”
นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) กล่าวว่า ธกส. ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมโครงการต่างๆมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อการสนับสนุนการขับเคลื่อนการค้าของชุมชนให้ก้าวหน้า เข้มแข็ง สำหรับการมีส่วนร่วม ในการดำเนินโครงการตลาดประชารัฐเพื่อชุมชน ในครั้งนี้ นับเป็นอีกก้าวของธกส. ที่จะได้เป็นกำลังอันสำคัญในการผลักดัน สนับสนุน การขับเคลื่อนการค้าของชุมชนให้ก้าวหน้า เข้มแข็ง ขยายโอกาสทางการค้า ของธุรกิจชุมชนอย่างจริงจัง เพื่อสร้างประโยชน์ สร้างรายได้ สร้างความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน ชุมชน ส่งเสริมโอกาสทางการค้าของชุมชนให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
ธนาคารของเรามีความพร้อม ที่จะให้คำปรึกษา ให้บริการด้านสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ให้ข้อมูลความรู้ การจัดกิจกรรมเสริมสร้างความรู้สำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริหารธุรกิจ ตลอดจนให้คำแนะนำในทุกด้านที่เกี่ยวข้องกับการ สร้างเสริมให้ชุมชนมีความเข้มแข็งทางการค้า”
ในส่วนยอดปล่อยกู้กองทุนหมู่บ้านผ่านธกส.นั้น ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2558 ได้อนุมัติไปแล้วกว่า 19,000 กองทุน วงเงินกว่า 18,300 ล้านบาท ประชาชนได้รับไปราว 1.14 ล้านราย ทั้งนี้การปล่อยกู้ของธนาคารทั้ง 2 แห่งวงเงิน 60,000 ล้านบาท คาดว่า จะมีประชาชนได้ประโยชน์ราว 4-5 ล้านคน