พาณิชย์นำคณะจีนพบภาคธรุกิจ
หวังต่อส่งออกผลไม้ไทย-ลงทุน
พาณิชย์ นำคณะเทศบาลเมืองฝางเฉิงก่างพบภาคธรุกิจไทยหวังต่อยอดการส่งออกผลไม้ไปมลฑลกว่างซีและขยายการลงทุนภาคตะวันออกไทย โดยเฉพาะด้านโลจิสติกส์และอำนวยความสะดวกด้านขนส่งสินค้ากับท่าเรือแหลมฉบัง คาดช่วยลดต้นทุนขนส่ง ระบุเส้นทางเดิมกรุงเทพ – ฮ่องกง – กวางโจว ค่าใช้จ่าย 150,000 – 170,000 บาทต่อ 1 ตู้คอนเทนเนอร์เหลือราว 110,000 บาทและย่นเวลาเหลือ 3 – 4 วันจาก 5-7 วัน
นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองหนานหนิง สาธารณรัฐประชาชนจีนว่า สำนักงานฯ จะนำผู้บริหารจากเทศบาลเมืองฝางเฉิงก่างเดินทางเยือนประเทศไทยในระหว่างวันที่4 – 7 พฤศจิกายน 2558 เพื่อหาแนวทางความร่วมมือในการส่งเสริมการส่งออกผลไม้ไทยเข้าสู่มลฑลกว่างซี รวมทั้งหารือความร่วมมือด้านโลจิสติกส์และการอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้ากับท่าเรือแหลมฉบัง
คณะเทศบาลเมืองฝางเฉิงก่าง นำโดยนายหวัง เต๋อ รองนายกเทศมนตรีเมืองฝางเฉิงก่าง มีกำหนดจะเข้าหารือและแลกเปลี่ยนความเห็นกับผู้บริหารตลาดไทและเครือเจริญโภคภัณฑ์ เพื่อต่อยอดความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน “เรากำลังผลักดันการใช้ท่าเรือฝางเฉิงก่างเป็นศูนย์กระจายผลไม้ เนื่องจากมีเส้นทางคมนาคมที่สะดวกทั้งทางถนนและรถไฟ นอกจากนี้ ยังยินดีอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการไทยในด้านเอกสารและพิธีการ รวมทั้งจะสร้างห้องเย็นรองรับการเก็บผลไม้ ซึ่งปัจจุบันผลไม้ไทยได้รับความนิยมจากผู้บริโภคชาวจีนเป็นอย่างมาก” นายหวัง เต๋อ กล่าว
นอกจากการหารือเรื่องการส่งสินค้าผลไม้ของไทยแล้ว คณะเทศบาลเมืองฝางเฉิงก่างจะเข้าพบสมาคมไทย – กว่างซี เพื่อหารือด้านการลงทุนและความร่วมมือต่างๆ โดยเฉพาะการใช้ไทยเป็นศูนย์กลางด้าน Supply Chain ในอาเซียน ซึ่งประเทศไทยมีจุดเด่นด้านทำเลที่ตั้งที่สามารถเชื่อมต่อกับภูมิภาคอาเซียนได้เป็นอย่างดี และสอดคล้องกับนโยบายเส้นทางสายไหมของประธานาธิบดีสีจิ้นผิง
อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันการขนส่งสินค้าจากประเทศไทยไปยังเมืองฝางเฉิงก่างโดยตรงยังไม่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง และผู้ใช้บริการยังมีจำนวนไม่มาก จึงทำให้ต้นทุนการขนส่งสูง แต่หากมีการพัฒนาท่าเรืออย่างต่อเนื่อง คาดว่าต้นทุนการขนส่งจะถูกลงเมื่อเทียบกับเส้นทางเดิมๆ คือ กรุงเทพ – ฮ่องกง – กวางโจว ซึ่งมีค่าใช้จ่ายประมาณ 28,000 – 30,000 หยวน หรือประมาณ 150,000 – 170,000 บาทต่อ 1 ตู้คอนเทนเนอร์ ในขณะที่การขนส่งมายังท่าเรือฝางเฉิงก่างจะมีค่าใช้จ่ายเพียง 20,000 หยวน หรือประมาณ 110,000 บาทต่อ 1 ตู้คอนเทนเนอร์ อีกทั้งระยะเวลาการขนส่งมายังท่าเรือฝางเฉิงก่างจะใช้ระยะเวลาเพียง 3 – 4 วันเท่านั้น ในขณะที่ท่าเรืออื่นๆ ของจีนจะใช้ระยะเวลา 5 – 7 วัน
การเดินทางเยือนประเทศไทยครั้งนี้ คณะเทศบาลเมืองฝางเฉิงก่างยังได้แลกเปลี่ยนความเห็นกับพาณิชย์จังหวัดชลบุรี และผู้บริหารท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อขอทราบข้อมลูเกี่ยวกับปัญหาอุปสรรค รวมทั้งค่าใช้จ่ายด้านการขนส่งสินค้าไปนังท่าเรือฝางเฉิงก่างอีกด้วย
เมืองฝางเฉิงก่างตั้งอยู่ทิศตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เป็นเมืองเดียวที่มีทั้งด่านท่าเรือและด่านชายแดน อีกทั้งเป็นเมืองท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดของภาคใต้จีน ท่าเรือฝางเฉิงก่างมีจุดเด่นคือ เป็นท่าเรือน้ำลึกที่มีระยะทางขนส่งสั้นกว่าท่าเรือในมณฑลอื่นๆ ของจีน รัฐบาลจีนจึงกำหนดให้ท่าเรือฝางเฉิงก่าง เป็นท่าเรือยุทธศาสตร์ในการพัฒนาเศรฐกิจจีนสู่ภายนอก โดยได้คัดเลือกให้ท่าเรือฝางเฉิงก่างอยู่ในนโยบาย “เส้นทางสายไหมทางทะเล” ของจีน เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ท่าเรือฝางเฉิงก่างได้รับอนุมัติให้มีการนำเข้าผลไม้จากกระทรวงตรวจสอบคุณภาพและกักกันโรคจีนซึ่งเป็นท่าเรือแห่งเดียวที่สามารถนำเข้าผลไม้ของบริเวณอ่าวเป่ยปู้ ดังนั้น ท่าเรือฝางเฉิงก่าง จึงกลายเป็นช่องทางสำคัญของการส่งออกผลไม้อาเซียน โดยเฉพาะสินค้าผลไม้จากไทย
ภาพ-จากเวบไซต์ http://tamnaktai.ac.th/