คอมมาร์ตวัดตลาดไอซีทียังรุ่ง
ยอดเงินสะพัดทะลุ 2,900 ล้าน
ปิดฉากแล้วสำหรับคอมมาร์ต คอมเทค 2015 เออาร์ไอพี ผู้จัดงานคอมมาร์ต คอมเทค เผยเป็นดัชนีชี้วัดตลาดไอซีที ว่ายังมีความเชื่อมั่น มีกำลังซื้อครั้งนี้สำเร็จตามเป้าหมาย สร้างเม็ดเงินสะพัดและสร้างโอกาสทางการตลาด เป็นพลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไอซีทีไทยในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2558 ได้อย่างงดงาม ด้วยยอดขายตลอด 4 วันของการจัดงานทะลุ 2,900 ล้านบาท
นางเอื้อมพร ปัญญาใส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ผู้จัดงานคอมมาร์ตฯ กล่าวว่า “มีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่งานคอมมาร์ต คอมเทค 2015 ครั้งนี้ ได้มีส่วนผลักดันให้ตลาดไอซีทีไทย คึกคักส่งท้ายปีได้สำเร็จ ซึ่งต้องขอขอบคุณพลังอันสำคัญคือพันธมิตรธุรกิจทุกท่าน ที่ได้ร่วมแรงร่วมใจไปกับเรา นำเสนอสิ่งดีๆ คุ้มค่า มามอบให้กับผู้เข้าชมงาน ไม่ว่าจะเป็นสินค้าหรือบริการที่ถูกใจ และนวัตกรรมล้ำสมัยมาจัดแสดงให้คนไทยได้สัมผัสจริง
และแน่นอนว่า งานคอมมาร์ตเป็นดัชนีชี้วัดตลาดไอซีทีว่าผู้บริโภคมีความเชื่อมั่น มีกำลังซื้อ โดยจะเห็นได้จากยอดขายของแต่ละแบรนด์สินค้าในงานซึ่งเพิ่มขึ้นจากครั้งที่แล้ว และจะส่งผลดีต่อไปยังปีหน้าตามที่เราคาดการณ์ไว้” นางเอื้อมพร กล่าว
ด้านนายพรชัย จันทรศุภแสง ผู้อำนวยการธุรกิจสื่อและดิจิทัล บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า “เห็นรอยยิ้มของผู้ร่วมแสดงงานและผู้เข้าชมงานแล้วปลื้มใจ เพราะเราทำหน้าที่ของผู้จัดงานอย่างเต็มที่ แบรนด์ต่างๆ ในงานก็ตั้งใจกันมาก รวมถึงสื่อมวลชนต่างก็เป็นอีกแรงซึ่งมีส่วนช่วยกันผลักดันความสำเร็จในครั้งนี้ ต้องขอขอบคุณจากใจจริง”
“ทั้ง 4 วันของการจัดงาน “คอมมาร์ต คอมเทค 2015” ภายใต้แนวคิด“ Smart Entertainment & Smart Solution” ระหว่างวันที่ 5 – 8 พฤศจิกายน 2558 ที่ผ่านมา ทีมงานได้มีการวิเคราะห์และปรับปรุงตลอดเวลา ทั้งด้านการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย การประชาสัมพันธ์งาน ทำให้มีคนเข้างานต่อเนื่องทุกวัน โดยเฉพาะวันเสาร์และอาทิตย์ ซึ่งมีคนมาเดินและจับจ่ายซื้อสินค้ามากเป็นพิเศษ จึงมียอดขายตลอด 4 วันของการจัดงานทะลุ 2,900 ล้านบาท
สำหรับสินค้าไอซีทีที่ขายดีในงาน ได้แก่ อันดับ 1 โน้ตบุ๊ก คอมพิวเตอร์ มียอดขายกว่า 50% แท็บเล็ตและสมาร์ทโฟน ตามมาเป็นอันดับ 2 อยู่ที่ 25% อันดับ 3 ทีวี แก็ดเจ็ตและสินค้าอื่นๆ คิดเป็น20% ของยอดขายรวมในงานกว่า 2,900 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าที่คาดไว้เล็กน้อย จากสถิติยอดขายและความสนใจของผู้เข้า
ชมงานครั้งนี้ มีข้อสังเกตอันสะท้อนให้เห็นว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ เช่น มีกลุ่มผู้ซื้อโน้ตบุ๊กราคาสูงระดับพรีเมี่ยมมากขึ้น ซึ่งจับจ่ายเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ด้านความบันเทิง การเล่นเกม รวมถึงซื้ออุปกรณ์เสริมเพิ่มเติมด้วย จากอดีตที่มักจะมองหารุ่นที่ราคาไม่สูงแต่สเปคดี เพื่อใช้ในการทำงานเป็นหลัก และอีกกลุ่มคือผู้ซื้อสมาร์ทโฟน ส่วนใหญ่ต้องการขนาดจอใหญ่ขึ้น มีความจุสูงสุด สีพิเศษ แม้จะมีราคาสูงก็ยินดีจ่าย จนบางรุ่นของไม่พอขายในงาน รวมถึงมีกลุ่มผู้ซื้อสมาร์ททีวี และอุปกรณ์เสริมเพื่อความบันเทิงก็ขายดีติดอันอับ 3 เนื่องจากเราโฟกัสเซ็กเมนท์นี้ในงาน
ส่วนทิศทางการจัดงาน “คอมมาร์ต” ในปีหน้า เออาร์ไอพี กำลังซุ่มเตรียมพัฒนางานครั้งใหญ่ และจะแถลงข่าวให้ทราบเร็วๆ นี้” นายพรชัย กล่าว