ทูตอุสเบกิสถาน อึ้ง ผ้าไหมไทยสวยเกินต้าน ชวนแบรนด์ “Chayanna” ออกงาน ระดับโลก ณ เส้นทางสายไหม Silk City
ทูตอุสเบกิสถาน อึ้ง ผ้าไหมไทยสวยเกินต้าน ชวนแบรนด์ “Chayanna” ออกงาน ระดับโลก ณ เส้นทางสายไหม Silk City พร้อมต่อยอดภูมิปัญญา เกิดเป็นผ้าไหมสองแผ่นดิน รวมเอกลักษณ์ท้องถิ่น ยืนหนึ่งในเวทีโลก
ในระหว่างวันที่ 14-18 ตุลาคม ที่ผ่านมา ดร. ชญณา ศิริภิรมย์ หรือ ดร. จ๊ะ เจ้าของและผู้ก่อตั้ง แบรนด์ Chayanna Silk ผ้าไหมไทย craftsmanship พรีเมี่ยม ร่วมกับ ดร. ฉันฑิต สว่างเนตร นักวิจัยผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน ได้นำชุดผ้าไหมมัดหมี่พรีเมี่ยม ไปจัดแสดงในงาน “Tashkent International Biennale of Contemporary Art 2024 ครั้งที่ 10” ณ กรุงทัชเคนท์ ประเทศอุสเบกิสถาน ซึ่งเป็นเมืองที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นถิ่น Silk City ตามคำเชิญของสถานฑูตอุสเบกิสถานประจำประเทศไทย งานดังกล่าว จัดโดย Academic of Arts ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล Uzbekistan ภายใต้ Theme “Arts & World โดยมีศิลปินนานาชาติเข้าร่วมงาน ถึง 40 ประเทศ
ดร.ชญณา กล่าวว่า หลังจากที่ได้มีโอกาสได้พบกับ มร.ฟาคริดดิน สุลต่านอฟ กงสุลใหญ่สาธารณรัฐอุซเบกิสถานประจำประเทศไทย ในการประชุมงานหนังสือเมนูอาหารนานาชาติของทูตประเทศต่าง ๆ ซึ่งในวันดังกล่าว ดร.ชญณา ได้สวมชุดผ้าไหมธรรมชาติ ที่ออกแบบตัดเย็บเป็นเอกลักษณ์ไปร่วมงาน ท่านกงสุลใหญ่ฯ ได้เห็นแล้วเข้ามาทักทายและชื่นชมว่าเป็นผ้าไหมที่งดงาม ยิ่งเมื่อท่านรู้ว่าเป็นผ้าไหมมัดหมี่ ท่านยิ่งชอบเนื่องจากอุสเบกิสถานเป็นประเทศที่ทำผ้าไหมมากว่า 2,000 ปี เส้นทางสายไหมอันยาวนาน ทำให้ผ้าไหมของอุซเบกิสถานได้รับการยอมรับในระดับโลก ท่านกงสุลใหญ่ฯ จึงชักชวนให้มาร่วมออกงานในครั้งนี้ นอกจากนี้ยังได้หารือกันถึงการออกแบบลวดลาย รวมถึงการตัดเย็บ ที่จะผสมผสานผ้ามัดหมี่ของไทยกับของอุสเบกิสถาน โดยเชื่อมความสัมพันธ์สองแผ่นดินในรูปแบบของผ้าไหมต่อยอด ซอฟท์พาวเวอร์ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของทั้งสองประเทศ
ดร. ชญณา กล่าวว่า ผลงานชุดผ้าไหมที่นำไปแสดงในครั้งนี้ ออกแบบตัดเย็บเป็นชุดมวยไทย โดยได้แรงบันดาลใจจากพิธีไหว้ครูมวยไทยโลกที่จัดขึ้นในเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา ณ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อเป็นการรำลึกถึงนายขนมต้ม ครูมวยแห่งกรุงศรีอยุธยา โดยมีนักเรียนมวยไทยทั่วโลกกว่า 70 ประเทศกว่า 1,800 คน เข้าร่วมพิธี ที่เต็มไปด้วยความศรัทธาและความเข้มขลัง ของประเพณีที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ถือเป็นซอฟท์พาวเวอร์ที่สำคัญของคนไทย เมื่อนำมาผนวกรวม กับ concept ความยั่งยืน sustainability โดยใช้ผ้าไหมเก่าสะสมของคุณแม่และใช้ผ้าไหมสีธรรมชาติของแบรนด์ “Chayanna” มาสร้างสรรค์เป็นผลงานร่วมสมัย จึงทำให้ชุดผ้าไหมมวยไทย เต็มไปด้วยเรื่องราว และความงดงาม ที่ทั่วโลกไม่มี
ด้าน ดร.ฉันฑิต กล่าวว่า นิทรรศการครั้งนี้ เป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และการเผยแพร่ผ้าไหมไทย ในอารยธรรมเส้นทางสายไหมที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าศตวรรษ ศรัทธาดั้งเดิมและการเติบโตของศิลปะและวัฒนธรรม เป็นเหมือนภาษาสากล ระหว่างศิลปิน สืบสานและส่งเสริมให้ผ้าไหมมีคุณค่า มูลค่า และยั่งยืน นับเป็นซอฟท์พาวเวอร์ของทั้งสองประเทศ ที่ได้สื่อสารผ่านผ้าไหมได้อย่างชัดเจน
นอกจากนี้ ดร.ชญณา และ ดร.ฉันฑิต ยังได้มีโอกาสได้พบกับดีไซน์เนอร์ชั้นนำ และพาไปชมแหล่งผลิตผ้าไหมดั้งเดิมที่ Fergana Velley รวมทั้งได้หารือกันว่า จะประสานความร่วมมือเพื่อนำผ้าไหมของทั้งสองประเทศ มาออกแบบตัดเย็บให้เป็นสไตล์ผสมผสาน เพราะอุซเบกิสถานอยู่ใกล้ทวีปยุโรป มีวัตถุดิบมาก เชื่อว่าจะเป็นการขยายผลที่จะสามารถสร้างชื่อเสียงและรายได้อีกทั้งยังเป็นการต่อยอดภูมิปัญญาไทยในระดับโลกได้อีกด้วย
สำหรับแบรนด์ “Chayanna” เป็นผ้าไหมสัญชาติไทย ที่ ดร. ชญณา อดีต CEO บริษัท ประกันภัยยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น ได้ก่อตั้งขึ้นมาก จากความหลงใหลในผ้าไหมสะสมของคุณแม่จนเป็นแรงบันดาลใจในการผลิตและทำแบรนด์ผ้าไหมรวมทั้งงานศิลปะที่เกี่ยวกับผ้าไหม มีผลงานไปโชว์ในต่างประเทศมากมาย เน้นสร้างสรรค์งานสีธรรมชาติงานฝีมือที่หายาก