ปลื้ม2ปีผู้ใช้ศูนย์ฯAECพุ่ง2หมื่น
พณเร่งเสริมแกร่งSMEบุกAEC

กระทรวงพาณิชย์ปลื้ม ศูนย์พัฒนาการค้าและธุรกิจไทยในอาเซียน 9 แห่งผลตอบรับดี 2 ปีผู้ประกอบการเข้ารับบริการข้อมูล 18,958 ราย เปิดกิจการในอาเซียนเห็นผลสำเร็จจริงกว่า 50 ราย หนุนธุรกิจร่วมชิงเค้กตลาดAEC ชี้เป็น 25% ของตลาดส่งออกไทย ปี 2559 มีกลยุทธ์มุ่งเจาะลึกรายประเทศ ลงสู่เมืองรองเช่น เสียมราฐ พระสีหนุ เกาะกง หลวงพระบาง จำปาสัก สะหวันนะเขต มัณฑะเลย์ เมียวดี มะริด ไฮฟอง ดาเวา เซบู

นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการส่งเสริมและเตรียมความพร้อมรองรับการขยายตัวด้านการค้าของประเทศไทย เพื่อก้าวให้ทันกระแสการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจโลกและพร้อมรับกับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ได้จัดตั้งศูนย์พัฒนาการค้าและธุรกิจไทยในอาเซียน หรือ AEC Business Support Center ในไทยและในอาเซียนอีก 9 แห่งขึ้น ตั้งแต่ปี 2556 เพื่อรองรับการขยายตัวด้านการค้าของประเทศไทยและเตรียมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

“การจัดตั้งศูนย์ฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการให้ผู้ประกอบการไทยเกิดการรวมตัวกันในการทำตลาด AEC รวมถึงช่วยให้ภาครัฐสามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการได้ตรงจุด และผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงบริการของภาครัฐได้มากยิ่งขึ้น ศูนย์ฯ จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการให้บริการข้อมูลและคำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการไทย ที่ต้องการทำธุรกิจการค้า การลงทุน การจัดหาแหล่งวัตถุดิบในอาเซียน และสนับสนุนผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยเข้าสู่ภาคการค้าระหว่างประเทศในตลาดอาเซียนในเชิงรุกอย่างมีประสิทธิภาพ  โดยตั้งแต่เปิดศูนย์ฯ มาเป็นเวลา 2 ปีกว่า (27 พ.ค. 2556) ได้รับเสียงตอบรับที่ดีมากจากผู้ประกอบการ มีผู้ประกอบการเข้ารับบริการข้อมูลแล้วทั้งสิ้น จำนวน 18,958 ราย และสามารถเปิดกิจการในตลาดอาเซียนจนเห็นผลสำเร็จจริงอย่างเป็นรูปธรรมแล้วกว่า 50 ราย”

อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า“ปัจจุบันสัดส่วนการส่งออกสินค้าไทยไปตลาดอาเซียน มีประมาณร้อยละ 25 หรือคิดเป็น 1 ใน 4 ของตลาดส่งออกของไทย ดังนั้นการเข้าร่วมประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนถือเป็นโอกาสสำคัญสำหรับภาคธุรกิจไทยทั้งในด้านการค้าและการลงทุน  อาเซียนจะกลายเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียวกันที่มีประชากรรวมกันกว่า 600 ล้านคน  การเคลื่อนย้ายสินค้า บริการ การลงทุน เงินทุน และแรงงานฝีมือจะเปิดกว้างมากขึ้น 

ซึ่งกรมฯ ได้มีการปรับแผนจัดทัพบุกเจาะตลาดอาเซียน ภายใต้กลยุทธ์ Deepening ASEAN หรือการเจาะลึกรายประเทศ ลงสู่เมืองรองของแต่ละประเทศในปี 2559 อาทิ เสียมราฐ พระสีหนุ เกาะกง หลวงพระบาง จำปาสัก สะหวันนะเขต มัณฑะเลย์ เมียวดี มะริด ไฮฟอง ดาเวา เซบู เป็นต้น รวมถึงเน้นสร้างความเชื่อมโยงให้ผู้ประกอบการไทยและผู้ประกอบการในอาเซียน ตลอดจนมุ่งให้การส่งเสริมนักธุรกิจเดิมที่ลงทุนทำการค้าในอาเซียนอยู่แล้ว และนักธุรกิจใหม่กลุ่มที่เป็น SME ที่เป็นอนาคตของประเทศ”

ศูนย์พัฒนาการค้าและธุรกิจไทยในอาเซียนที่จัดตั้งขึ้นในส่วนกลางอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักพัฒนาตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนและเอเชีย กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ สำหรับศูนย์ฯ ในอาเซียน 9 แห่งอยู่ในสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ ภูมิภาคอาเซียน ได้แก่ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย /กรุงย่างกุ้ง ประเทศพม่า /กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย /กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ /กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม /นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม /กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา /นครเวียงจันทน์ ประเทศลาว และประเทศสิงคโปร์

สำหรับบริการของศูนย์ฯ ประกอบด้วย (1) บริการข้อมูลการค้า การลงทุน กฎระเบียบการค้า การจัดตั้งธุรกิจ รายงานตลาดและสินค้าเชิงลึกในตลาดอาเซียน รวมทั้งจัดทำและเผยแพร่คู่มือ โอกาสและทิศทางการค้า การลงทุนในตลาดอาเซียน ผ่านทางhttp://aec.ditp.go.th (2) อำนวยความสะดวกและประสานงานในการทำธุรกิจแก่นักธุรกิจไทยที่เดินทางไปติดต่อธุรกิจ ณ สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ในภูมิภาคอาเซียน (3) จัดกิจกรรมภายใต้ชมรมนักธุรกิจไทยในอาเซียน (DITP AEC Club) เพื่อสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจที่เข้มแข็ง

(4) ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารกิจกรรมต่างๆ ที่กรมฯ และหน่วยงานพันธมิตรจัดขึ้น ผ่านทางwww.facebook.com/ditpaecclub และ (5) สร้างเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรในการเชื่อมโยงข้อมูลการค้า การลงทุนในตลาดอาเซียน ตลอดจนสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรไทยให้พร้อมรับกับการแข่งขันในตลาดอาเซียน

ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถติดต่อขอรับบริการ หรือขอรับข้อมูลการค้า การลงทุนในอาเซียน ได้ที่ศูนย์พัฒนาการค้าและธุรกิจไทยในอาเซียน โทร. 0-2507-8218 ถึง 20  E – Mail:aecplus.tdc@gmail.com  ในวันและเวลาราชการ และสามารถเข้าไปดูข้อมูลข่าวสารกิจกรรมต่างๆ ที่ศูนย์ฯ และหน่วยงานพันธมิตรจัดขึ้น ผ่านทาง www.facebook.com/ditpaecclub