“ไซโก” 59มุ่งเจาะคนรุ่นใหม่
ตั้งเป้าทำกำไรเพิ่มขึ้น 10%
ไซโก (ประเทศไทย) เผยกลยุทธ์ปี 59 ตั้งเป้าทำกำไรเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 10% หวังการเข้าสู่ AEC ช่วยดึงยอดขายเพิ่ม พร้อมเน้นดึงคนดังเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ช่วยประชาสัมพันธ์นาฬิกาไซโกเหมือนเดิม และมุ่งทำตลาดนาฬิกาดำน้ำและนาฬิกาGPSพลังแสงอาทิตย์ เจาะกลุ่มนักธุรกิจคนเดินทางท่องเที่ยว อีกทั้งเล็งขยายฐานลูกค้าเพิ่มอีก สู่กลุ่มคนรุ่นใหม่ทดแทนคนรุ่นเก่า ๆ ทั้งกลุ่มผู้ชายและผู้หญิง
นายฮารุมิตซึ อากาชิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซโก (ประเทศไทย) จากัด ผู้จัดจาหน่ายนาฬิกา SEIKO (ไซโก)อัลบา (ALBA) และ ไซโก คล็อกส์ (SEIKO CLOCKS) เรือนเวลาคุณภาพจากประเทศญี่ปุ่น ได้กล่าวถึงนโยบายและทิศทางการดาเนินงานของไซโกในปี 2559 “ช่วงปีใหม่นี้ถือว่าครบรอบ 1 ปีพอดีที่ตนเดินทางมารับตาแหน่งบริหารงานบริษัท ไซโก (ประเทศไทย) โดยภาพรวมของการดาเนินงานทั้งปีถือว่าเป็นไปได้ด้วยดี แม้ภาวะเศรษฐกิจจะมีผลกระทบบ้างแต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ
ทั้งนี้จุดแข็งของนาฬิกาไซโกคือ เครื่องจักรกลและเทคโนโลยีขัน้ สูง โดยในปี 2558 ที่ผ่านมา ได้โชว์ศักยภาพของกลไกอันทรงพลังและแข็งแกร่งของนาฬิกาดำน้ำรุ่นครบรอบ 50ปี พร้อมทั้งได้นักเทนนิสระดับโลก “โนวัก ยอโควิช” (Novak Djokovic) ซึ่งได้รับชัยชนะในการแข่งขันแกรนด์สแลม มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ จึงช่วยส่งเสริมและผลักดันให้การเปิดตัวนาฬิกา GPS รุ่น ASTRON แบบ Dual Time ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในการขับเคลื่อน เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายยิ่งขึน้
ดังนั้น ในปี 2559 ไซโกจะใช้แนวทางเช่นเดียวกันเพื่อเป็นกลยุทธ์ในการโฆษณาประชาสัมพันธ์นาฬิกาไซโก พร้อมกันนี้ยังพุ่งเป้าในการทำตลาดนาฬิกาดำน้ำ รุ่น PROSPEX ที่ได้รับความนิยม และ ASTRON GPS Solar ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ก้าวลา้ เหมาะกับคนเดินทาง ทั้งนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจที่ต้องการความแม่นยาด้านเวลา เพราะเชื่อมต่อสัญญาณดาวเทียมได้ในทุกมุมโลก นับเป็นเรือนแรกของโลกที่ควบคุมด้วยระบบ GPS ไม่ว่าผู้สวมใส่จะอยู่ที่ใดในโลก ก็สามารถใช้สัญญาณ GPS ปรับเวลาได้กว่า40 ไทม์โซน และยังใช้ Clean Energy พลังงานแสงอาทิตย์ในการขับเคลื่อนนาฬิกา
นายฮารุมิตซึ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้จะขยายฐานลูกค้าเพิ่ม เนื่องจากไซโกเป็นแบรนด์ที่รู้จักกันดีในหมู่คนไทยมานาน คนส่วนใหญ่เชื่อมั่นว่า ไซโกเป็นแบรนด์คุณภาพ จึงมีลูกค้าเก่าที่เหนียวแน่น จนปัจจุบันลูกค้าของไซโก้มีการเติบโตและประสบความสาเร็จในชีวิตแล้ว จึงคิดว่าเราควรเพิ่มความน่าสนใจไปยังคนรุ่นใหม่ต่อไปเพื่อสืบต่อจากลูกค้ารุ่นแรก นอกจากนี้เราประสบความสาเร็จและสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายผู้ชายแล้ว เรายังมีประชากรอีกครึ่งของประเทศเป็นผู้หญิง จึงต้องการเพิ่มการตอบสนองและขยายไปยังกลุ่มเป้าหมายนี้ด้วย
สำหรับการลงทุนทางการตลาดหรือทำโปรโมชนั่ ของบริษัทไซโก (ประเทศไทย) ในปี 2559 คงต้องรอสรุปตัวเลข ทั้งหมดของปีนี้ก่อน แต่แน่นอนว่าจะใช้งบประมาณการลงทุนและการทาตลาดเพิ่มขึ้น รวมถึงจับการตลาดและธุรกิจออนไลน์มากขึ้น เพื่อเป็นช่องทางขยายการตลาดเพิ่มขึ้นโดย โดยใช้งบประมาณราว 10% ของรายได้ ส่วนการเติบโตของบริษัทในปี 2559 คาดว่า จะทำกำไรได้มากขึ้นและโตขึ้นอย่างน้อย 10 % แต่ทั้งนี้ยังขึ้นอยู่กับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศไทยด้วย