แม้ว่าในปัจจุบันฤดูหนาวจะเปลี่ยนแปลงไป หลายพื้นที่ไม่หนาวเย็นเหมือนในอดีต แต่บางพื้นที่ยังมีอากาศหนาวเย็นอยู่ จึงต้องมีการดูแลสุขภาพรับมือภัยหนาว ในเด็กและคนชราเป็นกลุ่มคนที่จะต้องดูแลอย่างใกล้ชิดในฤดูกาลนี้ และหนึ่งในสมุนไพรที่จะช่วยได้คือ “ขิง” เพราะในช่วงที่มีอากาศหนาวนับเป็นช่วงเวลาที่ “วาตะธาตุ” หรือ ธาตุลม มีลักษณะเย็นและแห้ง ส่งผลกระทบต่อธาตุทั้งสี่ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ ที่ประกอบขึ้นเป็นชีวิตของคนเรา “ขิง” จะช่วยเพิ่มธาตุไฟในหน้าหนาวได้
ช่วงหน้าหนาวใครที่มีธาตุทั้งสี่สมดุล จะมีภูมิต้านทานได้มากกว่าคนอื่นๆ สำหรับคนที่มีวาตะธาตุเป็นเจ้าเรือน คือ คนที่ผอมแห้งแรงน้อย หรือคนชราก็จะยิ่งได้รับผลกระทบมากกว่าคนอื่นๆ
และรวมทั้งวัยเด็กที่มีเสมหะอันมีลักษณะเย็นชื้นเป็นเจ้าเรือน ธาตุไฟซึ่งอ่อนแรงอยู่แล้วก็จะยิ่งอ่อนแรงลงไป ธาตุน้ำและธาตุลมก็จะยิ่งกำเริบร่วมกันเสมหะก็จะเหนียวและแห้ง คนจะเจ็บป่วยด้วยอาการหวัดและอาหารไอแห้งๆ รวมทั้งมีการกำเริบของหอบหืด ซึ่งเป็นผลพวงแห่งการมาเยือนของฤดูหนาว ดังนั้น
ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรม โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า “ขิง เป็นสมุนไพรที่มีการนำมาใช้ประโยชน์อย่างแพร่หลายมานานแล้ว เห็นได้จาก ประเทศจีน ซึ่งเป็นชนชาติที่เก่าแก่ ก็ได้มีการใช้ประโยชน์จากขิงมายาวนาน แพทย์จีนโบราณจัดขิงเป็นพืชรสเผ็ดอุ่น มีฤทธิ์แก้หวัดเย็น ขับเหงื่อ บำรุงกระเพาะ แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน ลดคลอเลสเตอรอลที่สะสมในตับและเส้นเลือด ชาวจีนทั่วไปจะรู้ดีว่าถ้าต้มขิงกับน้ำตาลอ้อยจะช่วยแก้หวัด ถ้าใช้ขิงสดปิดที่ขมับทั้งสองข้างจะช่วยแก้ปวดหัว และถ้าเอาขิงสดอมไว้ใต้ลิ้นจะช่วยแก้อาการกระวนกระวาย แก้คลื่นไส้อาเจียนได้ดี
ในตำรับเภสัชของสาธารณรัฐประชาชนจีน ค.ศ.1985 จึงบรรจุขิง ทั้งขิงสด ขิงแห้ง และทิงเจอร์ขิงเป็นยาสมุนไพรแห่งชาติตัวหนึ่ง แพทย์จีนโบราณจะใช้ประโยชน์จากขิงสดและขิงแห้งในแง่มุมที่ต่างกัน โดยจะใช้ขิงแห้งในภาวะที่ขาดหยาง (ภาวะขาดหยาง คือ ภาวะที่ร่างกายมีอาการเย็น หนาวง่าย ทนต่อความเย็นได้น้อย การย่อยอาหารไม่ดี เป็นต้น)
ภาพ-www.เกร็ดความรู้.net
ขิงสดจะใช้เมื่อต้องการกำจัดพิษที่เกิดจากการติดเชื้อภายในร่างกาย โดยการขับพิษออกมาทางเหงื่อ ขิงสดช่วยทำให้ร่างกายปรับสภาพในภาวะที่ร่างกายมีอาการเย็นได้เช่นเดียวกับขิงแห้ง ช่วยลดการคลื่นไส้อาเจียน โดยใช้ขิงสด 30 กรัม สับให้ละเอียดต้มทานในขณะท้องว่าง นอกจากนี้ ขิงยังช่วยกำจัดพิษโดยการเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต ช่วยขับเสมหะ โดยการใช้ขิงสดคั้นเอาแต่น้ำประมาณครึ่งถ้วยผสมน้ำผึ้ง 30 กรัม (6 ช้อน) อุ่นให้ร้อนก่อนรับประทาน
ส่วนในอินเดีย อีกชาติหนึ่งที่มีการใช้สมุนไพรขิงอย่างแพร่หลาย ซึ่งการใช้ขิงแห้งและขิงสดไม่แตกต่างกัน โดยในอินเดียจะใช้ขิงในการทาถูนวดเพื่อเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต ใช้ขิงลดการอักเสบ แก้ปวด ลดอาการบวมน้ำ ใช้เป็นยากระตุ้นการอยากอาหาร เป็นยาช่วยย่อย ช่วยขับลมในลำไส้ ช่วยระงับการคลื่นไส้อาเจียน ช่วยกระตุ้นกำหนัด
ในตำรับยาทางอายุรเวทยังมีการใช้ขิงในการลดการบวมและการอักเสบของตับ คนพื้นเมืองอินเดียทั่วไปยังนิยมใช้น้ำคั้นจากขิงผสมน้ำผึ้ง และน้ำคั้นจากกระเทียมรักษาอาการหอบหืด ทั้งยังมีการใช้ขิงผงแห้งละลายน้ำอุ่นทาที่หน้าผากรักษาอาการปวดหัว
แพทย์ชาวอาหรับโบราณก็มีการใช้ประโยชน์จากขิงคล้ายๆ กัน แต่ที่แตกต่าง คือ จะเน้นการใช้ขิงในการกระตุ้นความกำหนัด ส่วนคนยุโรปโดยทั่วไปจะใช้ชาขิงในการช่วยย่อย ช่วยรักษาอาการท้องอืดจากการดื่มเหล้า ช่วยขับลม ทั้งยังใช้ในการรักษาโรคเก๊าท์ และกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต
นักสมุนไพรรุ่นใหม่ของตะวันตก มักแนะนำให้ใช้ขิงในการช่วยย่อยอาหาร ช่วยในการไหลเวียนของโลหิต และลดการคลื่นไส้อาเจียนจากการเคลื่อนไหวที่ไม่สมดุล (motion sickness) รวมทั้งให้ใช้ลดการคลื่นไส้อาเจียนหลังการผ่าตัด และจากการแพ้ท้องได้บ้าง แต่คนท้องไม่ควรรับประทานเป็นประจำ
และสิ่งที่คนทุกมุมโลกใช้แหมือนๆ กัน ก็คือ การใช้ในการแก้หวัด และแก้ไอ ซึ่งได้มีการศึกษาพบว่า “ขิง” หรือชื่อวิทยาศาสตร์ : Zingiber officinale Rosc. มีสารหลายชนิดที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ และมีการทดลองพบว่า น้ำขิงต้ม ทำให้เม็ดเลือดขาวชนิดแมคโครฟาส (Macrophage) จับกินไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงคุณค่าภูมิปัญญาอันเก่าแก่ในการใช้ประโยชน์จากขิง
“ขิง” จึงเป็นสมุนไพรแนะนำสำหรับการใช้เป็นเครื่องดื่มในช่วงอากาศหนาวเช่นนี้ เพราะขิงเป็นสมุนไพรที่หาง่าย มีความปลอดภัยสูง ใช้กันมานาน คนทั่วไปคุ้นเคย กินง่าย ทำได้เอง
ปัจจุบัน ขิง บรรจุอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ และองค์การอนามัยโลกรับรองในการรักษาหวัด แต่ก็มีข้อจำกัดในการใช้ในคนท้อง และกินยาก ยกเว้นต้องซื้อจากบริษัทผู้ผลิตที่มีการควบคุณภาพที่ดีพอ ดังนั้น ในกรณีที่เป็นหวัด น้ำขิงที่ต้มเองจะดีที่สุด และเราสามารถตั้งตำรับของเราเองได้ตามใจชอบด้วย เช่น
ตำรับน้ำขิงพิชิตหวัด แก้ไอ
ส่วนผสม
ขิงแก่สด 1 ถ้วย
น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำสะอาด 3 ลิตร
วิธีทำ ล้างขิงให้สะอาด แล้วนำมาทุบให้พอบุบๆ โดยไม่ต้องขูดเปลือกทิ้ง ต้มขิงกับน้ำให้เดือดแล้วลดไฟลง เคี่ยวด้วยไฟอ่อนไปเรื่อยๆ จนน้ำขิงกลายเป็นสีเหลือง เติมน้ำตาลตามใจชอบ
และสำหรับคนไทย แน่นอนว่ารู้จักสมุนไพร “ขิง” เป็นอย่างดี เพราะเป็นเครื่องเทศที่นำมาปรุงเป็นอาหารได้สารพัด ช่วยทำให้อาหารหอมหวนชวนทาน ช่วยดับกลิ่นคาวในอาหาร และอยู่ในตำรับยารักษาโรคภัยไข้เจ็บได้มากมายหลายโรค ทั้งช่วยขับลม ช่วยย่อยอาหาร ช่วยขับเหงื่อ ขับน้ำนม ช่วยบำรุงธาตุ บำรุงกำลัง ฯลฯ
ดังนั้น ก่อนที่จะเจ็บป่วยเป็นอะไรไปในหน้าหนาวนี้ ต้มน้ำขิงกินกันไว้เลยดีกว่า