พาณิชย์เซ็นMOU 4 องค์กร
“SMEs Pro-active เฟส2”
กระทรวงพาณิชย์สานต่อนโยบายประชารัฐของรัฐ เดินหน้าโครงการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SMEs Pro- active ระยะที่2 โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ(DITP) ลงนามกับ 4 องค์กรได้แก่ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคารไทย โดยมีนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมต.พาณิชย์เป็นประธานและสักขีพยาน จัดงบ 400 ล้านบาท คาดหนุน SMEs 2,600 ราย ร่วมแสดงสินค้า-เจรจาธุรกิจต่างแดน กระตุ้นส่งออก 9,000 ล้านบาท
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือของนางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และผู้บริหารของ 4 องค์กรพันธมิตร ได้แก่ นายสนั่น อังอุบลกุล รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายไพบูลย์ พลสุวรรณา ที่ปรึกษาคณะกรรมการและกรรมการสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทยและนนายกอบศักดิ์ ดวงดี เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย เพื่อประสานความร่วมมือโครงการ SMEs Pro-active ระยะที่ 2
นางอภิรดีกล่าวว่า โครงการ SMEs Pro-active เป็นโครงการที่ภาครัฐและภาคเอกชนร่วมมือกันในการผลักดัน SMEs สู่ตลาดโลก ซึ่งเป็นวาระสำคัญหนึ่งของประเทศตามแนวคิด “ประชารัฐ” และสอดคล้องตามนโยบายรัฐบาลที่มุ่งสนับสนุนและส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย ให้มีศักยภาพในการแข่งขันและเตรียมพร้อมสำหรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) โดยการลงนามฯรอบใหม่เป็นการขยายการดำเนินโครงการต่อเนื่องในระยะที่ 2 (2559-2561)ภายใต้วงเงินสนับสนุน 400 ล้านบาท ซึ่งเน้นการสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs รายใหม่ได้มีโอกาสเข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้น พร้อมกำหนดกรอบการสนับสนุนที่มุ่งผลักดันให้ผู้ประกอบการไปขยายโอกาสทางการค้าในตลาดใหม่ที่มีศักยภาพมากขึ้น รวมถึงเน้นเป้าหมายสำคัญตามนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ ได้แก่ กลุ่มสินค้าสปาและสุขภาพ กลุ่มธุรกิจบริการและสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูง มีนวัตกรรม มีการออกแบบและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
คาดว่าจะสามารถสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ไปแสดงสินค้าและจับคู่เจรจาธุรกิจในต่างประเทศได้จำนวน 2,600 ราย และจะช่วยกระตุ้นการส่งออกเป็นมูลค่าได้ราว 9,000 ล้านบาท ซึ่งการประสานช่วยให้SMEs ขยายการค้าไปสู่ตลาดโลก ถือเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจไทยให้เติบโต
ทั้งนี้โครงการ SMEs Pro-active ระยะที่ 1 ซึ่งดำเนินการในปี 2556 ประสบความสำเร็จด้วยดี โดยสามารถสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ได้จำนวนมากกว่า 2,600 ราย เข้าร่วมกิจกรรมงานแสดงสินค้าและเดินทางไปเจรจาธุรกิจในต่างประเทศมากกว่า 427 กิจกรรม มีกลุ่มผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการฯหลากหลายและได้รับการผลักดันให้ขยายโอกาสทางการค้าไปยังตลาดที่มีศักยภาพในแถบอาเซียน ตะวันออกกลางและจีน ซึ่งเกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจจากการส่งออกมากกว่า 269 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 8,600 ล้านบาท
นางอภิรดีกล่าวต่อว่า ในปัจจุบัน SMEs มีจำนวนมากกว่า 2.7 ล้านราย หรือคิดเป็น 97% ของวิสาหกิจทั้งประเทศ มีการจ้างงานมากกว่า 80% ของการจ้างงานรวมและมีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(GDP) คิดเป็นเกือบ 40% ของ GDP รวมทั้งประเทศ อย่างไรก็ตามประเทศไทยยังมีโอกาสและศักยภาพที่จะพัฒนาด้านการส่งออกของผู้ประกอบการ SMEs ได้อีกมาก เนื่องจากปัจจุบัน SMEs มีสัดส่วนการส่งออกเพียง 25% ของมูลค่าการส่งออกรวมของประเทศดังนั้น โครงการSMEs Pro-active จึงมีส่วนพัฒนาศักยภาพ SMEs สร้างเสริมโอกาสและผลักดันให้ผู้ประกอบการ SMEs โดยเฉพาะรายเล็กให้สามารถหาตลาดต่างประเทศได้
อนึ่งภายในงานมีผลิตภัณฑ์ผู้ประกอบการ SMEs มาโชว์หลายราย อาทิ ผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพและผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กแพ้อาหารจากบริษัทอาหารสุขภาพดี จำกัด
บริษัทอาหารสุขภาพดี จำกัด
บริษัทเอเชี่ยน ดีไซน์ เฮ้า จำกัด
บริษัทเอ็กซ์ลอนไมก้า จำกัด
บริษัทเอิร์ธ แฟคเทอรี่ จำกัด