มูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร นำ “งาดำ” พัฒนาสูตร “ลูกประคบงาดำ” เคล็ดลับหน้าใสสำหรับสาวๆ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการดูแลผิวหน้าให้ดูสดใส เพราะ “งาดำ” ที่เราบริโภคกันบ่อยครั้งในอาหารมีคุณค่าอย่างที่เราคิดไม่ถึง ด้วยมีวิตามินและแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายและความงามของผม ผิวพรรณ โดยเฉพาะการช่วยชะลอวัย ปกป้องกระดูก หัวใจ อายุขัยยืนยาวและอื่น ๆ อีกมากมาย
ในตำราอายุรเวทระบุไว้ว่า “งาดำ” มีสรรพคุณหลากหลายทั้งช่วยบำรุงร่างกาย เพิ่มเลือด กระตุ้นกำหนัด ขับน้ำนม ขับปัสสาวะ ขับนิ่ว รักษาโรคปวดข้อ โรคตา สมานแผลในกระเพาะและลำไส้ แก้ท้องผูก ท้องเสีย รักษาแผล ริดสีดวงทวาร อีกทั้งยังมีสรรพคุณทางยาไทย คือ รสฝาดมัน บำรุงไขข้อ สมานแผล
คนอินเดียตอนใต้ นิยมใช้น้ำมันงาชโลมร่างกาย แล้วเข้าอบในกระโจมให้เกิดความร้อนเพื่อให้น้ำมันซึมสู่ผิวหนังได้ดีขึ้น เชื่อว่า ขจัดความปวดเมื่อย ทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า แข็งแรง และอายุยืน
ทั้งนี้ “งาดำ” อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ อย่างวิตามินอี บี1 บี2 บี3 บี5 บี6 บี9 แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม โซเดียม ฟอสฟอรัส สังกะสี เหล็ก เป็นต้น โดยสามารถช่วยบำรุงร่างกายเกือบทุกสัดส่วน ไม่ว่าจะเป็น ผม ผิวพรรณ กระดูก เล็บ ระบบขับถ่าย การบำรุงหัวใจ จึงเหมาะกับทุกวัย ที่สำคัญยังช่วยป้องกันโรคภาวะกระดูกพรุนอย่างได้ผลอีกด้วย
วิตามินอีในงาดำ มีคุณสมบัติในการช่วยซ่อมแซมผิว และสร้างภูมิคุ้มกันให้กับผิวพรรณ ส่วนวิตามินเอ ช่วยในการซ่อมแซมเซลล์ผิว เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหนัง ชะลอความแก่ และต้านอนุมูลอิสระ ทางมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จึงได้นำสูตรการทำ ลูกประคบหน้างาดำ เคล็ดลับหน้าใส ที่สาวๆ สามารถทำได้ด้วยตัวเองมาฝาก ซึ่งจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการดูแลผิวหน้าให้ดูสดใส นอกจากนี้ การประคบด้วยความร้อนยังช่วยคลายกล้ามเนื้อ และกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดได้อีกด้วย
ลูกประคบหน้างาดำ (แบบแห้ง)
ส่วนผสม
1. งาดำคั่ว 1 ช้อนชา มีสรรพคุณเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิว
2. ใบบัวบกแห้ง ½ ช้อนชา มีสรรพคุณแก้ฟกช้ำ ลดการอักเสบ
3. ตะไคร้แห้ง ½ ช้อนชา มีสรรพคุณลดการอักเสบ คลายกล้ามเนื้อ
4. ขิงแห้ง ½ ช้อนชา มีสรรพคุณในการกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต กระชับรูขุมขน (ไม่ควรใส่มากเนื่องจากในคนผิวบางแพ้ง่าย อาจทำให้รู้สึกร้อนได้)
5. เปราะหอมแห้ง ½ ช้อนชา มีสรรพคุณในการช่วยคลายกล้ามเนื้อ ป้องกันแสงแดด
6. ข้าวเหนียว 1 ช้อน มีสรรพคุณช่วยเก็บความร้อน บำรุงผิวให้ชุ่มชื้น และอุดมด้วยวิตามินเอ
7. เกลือเล็กน้อย เพื่อเพิ่มการดูดซึมยาเข้าสู่ผิวได้ดี มีสรรพคุณในการสมานแผล
สมุนไพรที่ใช้จะเป็นสดหรือแห้งก็ได้ สำหรับการเตรียมอุปรณ์สำหรับห่อลูกประคบ ประกอบด้วย
1. ผ้าฝ้ายหรือผ้าดิบ ขนาดกว้าง 30 เซนติเมตร ยาว 30 เซนติเมตร
2. เชือกสำหรับมัดผ้าห่อลูกประคบ ยาว 60 เซนติเมตร
3. จานกระดาษรองลูกประคบ
เมื่อเตรียมอุปกรณ์เรียบร้อยแล้ว ก็ลงมือทำตามขั้นตอน ดังนี้
1. นำส่วนผสมทั้งหมดคลุกเคล้าให้เข้ากัน
2. แบ่งสมุนไพรที่คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วเป็นส่วนเท่าๆ กัน ตักแบ่งประมาณ 1-2 ช้อน แล้วใส่ลงตรงกลางของผ้าฝ้ายหรือผ้าดิบที่เตรียมไว้
3. เริ่มต้นจับมุมผ้าทีละ 2 มุม ขึ้นมาทบกัน จับจนครบทั้ง 4 มุม ให้รวบมุมผ้าที่ละมุม อีกครั้งหนึ่งจนครบอีกทั้ง 4 มุม
4. แต่งชายผ้าให้เรียบร้อย ซ้อนกันเป็นชายเดียว จากนั้น ค่อยๆ จัดแต่งลูกประคบให้เป็นรูปทรงกลมที่สวยงาม มัดด้วยเชือกที่ทำเป็นห่วงคล้อง แล้วมัดปมให้แน่น
5. ทำด้ามจับ โดยการจับชายผ้าที่เหลือมาซ้อนกันให้เรียบร้อย เสร็จแล้วพับเข้าหากันเพื่อเก็บซ่อนชายผ้าทั้งสองด้าน
6. จัดแต่งและซ่อนชายผ้าเรียบร้อยแล้ว ให้พับปลายลงมาประมาณ 1 ใน 3 ของปลายผ้ากะประมาณความยาวก้านให้สวยงาม ม้วนทบด้ามให้เรียบร้อย ใช้ปลายเชือกเส้นเดิมผูกแบบเงื่อนตายให้แน่นอีกครั้งหนึ่ง
7. ซ่อนปลายเชือกไว้ในซอกผ้าตรงรอยพับที่เป็นด้ามจับ และเพื่อให้ลูกประคบมีความแข็งแรงสวยงาม คงทน ต่อการใช้งาน
8. สำหรับการนำมาใช้ ถ้าเป็นสมุนไพรแบบแห้ง ให้นำลูกประคบที่เตรียมไว้ ชุบน้ำพอหมาด แล้วนำไปนึ่ง และก่อนนำมาประคบกับใบหน้า ให้เช็คความร้อนของลูกประคบที่นึ่งแล้วกับท้องแขนก่อน เพื่อไม่ให้ร้อนจนเกินไป
การทำลูกประคบนั้น ถ้าใช้สมุนไพรสดจะมีสรรพคุณเด่นในเรื่องความหอม(อโรมา) มีน้ำมันหอมระเหยมากกว่า และซึมเข้าสู่ผิวได้เร็วกว่า แต่ถ้าใช้สมุนไพรแห้ง ก็มีข้อดีตรงที่สามารถเก็บได้นาน (ถ้ายังไม่ได้ใช้) แต่ถ้านำมาใช้แล้ว ก็สามารถเก็บไว้ในช่องแช่แข็งตู้เย็น ได้นานถึง 3 เดือน