กรมพัฒน์ฯดันSMEs เข้าmai
แหล่งเงินทุนระยะยาวไร้ดอกเบี้ย
กระทรวงพาณิชย์ โดย กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ผลักดันSMEs ไทยเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ mai รองรับการขยายตัวเศรษฐกิจอาเซียน มั่นใจ!! ตลาดทุนสร้างธุรกิจให้แข็งแกร่งได้ นำSMEs จำนวน 65 รายเข้าเยี่ยมชมและรับฟังแนวทางการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ พร้อมโชว์บริษัทที่เข้าตลาดได้สำเร็จเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ก่อนแต่งตัวเปลี่ยนนามสุกลเป็น “มหาชนจำกัด”
นางสาวรัตนา เธียรวิศิษฎ์สกุล รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้นำผู้บริหารธุรกิจค้าส่งค้าปลีก ธุรกิจแฟรนไชส์ ธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ และธุรกิจบริการ ที่ผ่านการส่งเสริมพัฒนาตามมาตรฐานคุณภาพธุรกิจของกรมฯ และมีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ โดยมีทุนจดทะเบียนไม่น้อยกว่า 20 ล้านบาท หรือ มีรายได้ปีละไม่น้อยกว่า 200 ล้านบาท จำนวน 65 ราย เข้าเยี่ยมชมตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และรับฟังแนวทางการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อปรับเปลี่ยนเป็นบริษัทมหาชนจำกัด”
“กรมฯ ได้ดำเนินการส่งเสริมพัฒนาธุรกิจเอสเอ็มอีของไทยให้มีมาตรฐานสากลตามที่กำหนดมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนอกจากจะทำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมีศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันแล้ว ยังเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับธุรกิจที่มีความเข้มแข็งขยายธุรกิจเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งไม่เพียงแต่จะเป็นประโยชน์ต่อกิจการเท่านั้น แต่ยังเกิดประโยชน์ต่อระบบการลงทุน และเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศอีกด้วย ทั้งนี้ การนำธุรกิจเอสเอ็มอีเข้ารับฟังแนวทางการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จากคุณประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ
รวมทั้งนำธุรกิจที่ประสบความสำเร็จสามารถเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้แล้วมาเป็นซัคเซสเคส คือ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) และ บริษัทคอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) ถ่ายทอดประสบการณ์ พร้อมแนะนำเทคนิคต่างๆ ทั้งก่อนและหลังเข้าระดมทุนฯ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดขึ้นแก่ผู้ประกอบการ ก่อนนำธุรกิจเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในอนาคต จะทำให้ผู้ประกอบการทราบถึงสิ่งที่ต้องรู้และสิ่งที่ต้องทำก่อนขยายกิจการในตลาดทุน”
“ประโยชน์ในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ คือ จะทำให้บริษัทมีแหล่งเงินทุนระยะยาว เพราะสามารถระดมทุนจากประชาชนทั่วไปได้โดยตรง เพื่อนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนหรือขยายธุรกิจโดยไม่ต้องกู้ยืมหรือเสียดอกเบี้ย สามารถระดมทุนได้หลากหลายช่องทาง เช่น หุ้นสามัญเพิ่มทุน หุ้นกู้แปลงสภาพ ใบสำคัญแสดงสิทธิในการซื้อหลักทรัพย์ นอกจากนี้ ยังช่วยให้บริษัทมีภาพลักษณ์ที่ดี มีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ มีการบริหารงานอย่างมืออาชีพ และสร้างความภักดี/ผลตอบแทนที่ดีให้แก่พนักงาน โดยพนักงานสามารถมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของกิจการได้”
รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากล่าวเพิ่มเติมว่า “การผลักดันให้เอสเอ็มอีเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นการสร้างความเข้มแข็งให้แก่ธุรกิจในระยะยาว พร้อมรองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจอาเซียนที่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อปลายปี 2558 ที่ผ่านมา ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการมีโอกาสในการขยายตลาดและขยายธุรกิจเพิ่มมากขึ้น ผ่านการระดมทุนในตลาดทุนของไทย”