“ธนชาตประกันภัย” เสิร์ฟครบ
‘ธนชาตSMEหายห่วง’ ดูSMEs
ธนชาตประกันภัยพาเหรดสินค้าตอบโจทย์ครบทุกเซกเมนต์ เปิดปี2559 ด้วย 3 ผลิตภัณฑ์ รวมบริการประกันภัยครบวงจร “ธนชาต SME หายห่วง” จับกลุ่มร้านค้าขนาดเล็ก รวมถึงผู้ประกอบการและธุรกิจรายย่อย(SMEs)เพิ่ม หวังดูแลทุกความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในธุรกิจรอบด้าน ,ต่อยอดผลิตภัณฑ์เดิมสู่ “ธนชาต2+จัดเต็ม” เพิ่ม3ความคุ้มครอง “ชดเชย ฉุกเฉิน เดินทาง” และผลิตภัณฑ์ “เที่ยวไหนก็สุขใจ” พร้อมมุ่งพัฒนาด้านการบริหารงาน การบริการและจัดการธุรกิจ มั่นใจปี 2559 เบี้ยประกันภัยรับรวมเข้าเป้า 7,000 ล้านบาท โตกว่า 2 เท่าของอุตสาหกรรม
นายพีระพัฒน์ เมฆสิงห์วี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลการดำเนินงานปี 2558 ว่า จากความสำเร็จของ 2 รางวัลคุณภาพที่ได้รับอย่างต่อเนื่องตลอด 3 ปีซ้อนที่ผ่านมา ทั้งด้านบริหารงานกับรางวัลบริษัทประกันวินาศภัยที่มีการบริหารงานดีเด่น และด้านบริการกับรางวัล Best Surveyor Award จึงทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นและไว้วางใจในบริการ ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถสร้างผลกำไรได้สูงสุดถึง 1,100 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 7% จากปีก่อน โดยมาจากการบริหารจัดการด้านการลงทุน การจัดการความเสี่ยง และช่องทางการ จัดจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพ บริษัทฯ จึงมีเบี้ยประกันภัยรับรวมทั้งสิ้น 6,088 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 3%
สำหรับปี 2559 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายเบี้ยประกันภัยรับรวมไว้ที่ 7,000 ล้านบาท ซึ่งเติบโตกว่า 2 เท่าของอุตสาหกรรม โดยยังคงมุ่งพัฒนางานพื้นฐานด้านการบริการและการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง พร้อมเพิ่มความเข้มข้นในการบริหารงานที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางในการบริการและจัดการธุรกิจ เพื่อเป็นหนึ่งแบรนด์ในใจลูกค้า โดยจะเน้นพัฒนาแบบเจาะลึก 3 ด้านด้วยกัน ได้แก่ 1. การสร้างประสบการณ์ที่ดีระหว่างบริษัทฯกับลูกค้า ตั้งแต่วันที่ยังไม่รู้จักกัน ตัดสินใจใช้บริการ และจบด้วยการมอบบริการหลังการขายที่ดี
2. การนำ Digital Platform มาอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การซื้อจนถึงงานบริการ จากปัจจุบัน บริษัทฯ มีศูนย์อำนวยการสินไหมรถยนต์ ที่เป็นศูนย์กลางในการให้บริการสินไหมทั่วประเทศ เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่าจะได้รับการบริการที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน, มีการนำระบบ Claim Online มาใช้ร่วมกับอู่ในเครือของบริษัทฯ เพื่อลดระยะเวลาซ่อมรถยนต์ให้เสร็จเร็วที่สุด บริษัทฯ จึงมีแผนพัฒนาระบบการแจ้งเคลมอุบัติเหตุผ่าน Mobile Application ทำให้บริษัทฯ สามารถทราบพิกัดจุดเกิดเหตุของลูกค้าได้ทันที ส่วนลูกค้าก็จะสามารถตรวจเช็คสถานะงานเคลมและงานซ่อมรถได้ด้วยตนเองด้วย ซึ่งจะเริ่มใช้ในไตรมาส 4 นี้, บริการจัด – ส่งกรมธรรม์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-policy) ลูกค้าสามารถตรวจสอบความคุ้มครองผ่านเว็บไซต์ได้ทุกที่ทุกเวลา และยังเป็นการช่วยลดปัญหาการเก็บและเอกสารสูญหายระหว่างทาง
3. การมีผลิตภัณฑ์ประกันภัยตอบโจทย์ตรงใจลูกค้า ด้วยการมองลูกค้าแยกเป็นเซกเมนต์ย่อย เพื่อพัฒนาสินค้าให้ ตรงใจลูกค้ามากขึ้น เน้นคุณภาพและเพิ่มความคุ้มครองมากกว่าการแข่งขันด้านราคา
ทั้งนี้ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สร้างสรรค์มาเพื่อลูกค้าได้แก่ ในกลุ่มลูกค้ารถยนต์ที่มีประสบการณ์ขับรถนานเกิน 3 ปี ต้องการความคุ้มครองครอบคลุม ค่าเบี้ยประกันภัยไม่แพง จึงได้อัพเกรดความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์ประเภท2บวก หรือ “ธนชาต 2+ ” เป็น “ธนชาต 2+จัดเต็ม” นอกจากให้ความคุ้มครองรถยนต์กรณี ชน หาย ไฟไหม้ แล้วยังเพิ่มอีก 3 ความคุ้มครองได้แก่ “ชดเชย ฉุกเฉิน เดินทาง” โดยมีราคาจาก “ธนชาต 2+ ” เดิมที่ 7900 บาท เพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยเป็นเริ่มต้นที่ 7999 บาทสำหรับ “ธนชาติ2+จัดเต็ม” พร้อมบริการผ่อนชำระ 0% นาน 10 เดือนผ่านบัตรเครดิตของธนาคาร 4 แห่งได้แก่ บัตรของธนชาต บัตรเครดิตกรุงศรี บัตรเครดิตกสิกรไทยและบัตรเครดิตเคทีซี
“ธนชาต 2+จัดเต็ม” รับประกันภัยอายุรถ 1-20 ปี ทุนประกันภัยกรณีรถยนต์สูญหาย ไฟไหม้ที่ 100,000-1,000,000 บาท ผู้เอาประกันได้รับเงินชดเชยให้ขณะรถเข้าอู่ซ่อมที่ 1,000 บาทต่อครั้ง เงินชดเชยขณะรักษาตัวในโรงพยาบาลจากอุบัติเหตุรถยนต์ 1,000 บาทต่อวัน ไม่เกิน 30 วันต่อครั้งและสามารถขอความช่วยเหลือฉุกเฉินได้
นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่เข้าสู่ตลาดเพิ่มเติมต่อเนื่อง เพื่อรองรับนโยบายรัฐบาลที่สนับสนุนภาคธุรกิจ SME รวมถึงลูกค้ากลุ่ม SME ของกลุ่มธนชาต ด้วยการออกบริการประกันภัยครบวงจรสำหรับธุรกิจรายย่อย “ธนชาต SME หายห่วง” ช่วยดูแลทุกความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับธุรกิจรอบด้าน ช่วยบริหารความเสี่ยงด้านการเงินหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันในอนาคต เพื่อให้ธุรกิจยังคงสามารถเดินหน้าต่อไปได้ เหมาะสำหรับลูกค้ากลุ่มร้านค้าทั่วไป ร้านค้าขนาดเล็ก ไปจนถึงผู้ประกอบการและเจ้าของธุรกิจขนาดย่อม(SMEs) โดยจะให้ความคุ้มครองครอบคลุมทั้งตัวอาคาร สถานประกอบการ พนักงาน รถยนต์ หรือแม้แต่ที่พักอาศัยของเจ้าของ นอกจากนี้ยังมีเงินชดเชยมอบให้หากเกิดเหตุไม่คาดฝันหรือธุรกิจต้องหยุดชะงัก
ซึ่งประกอบด้วย 4 ผลิตภัณฑ์ประกันภัย ได้แก่ 1. “ธนชาต SME DD” ประกันภัยสถานประกอบการ ให้ความคุ้มครองครอบคลุมสถานประกอบการทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ทุกประเภทสิ่งปลูกสร้าง แม้อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยอย่างในห้างสรรพสินค้า ย่านธุรกิจ หรือ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งจากการโจรกรรม ไฟไหม้ น้ำท่วม พร้อมชดเชยรายได้ในกรณีเกิดความเสียหายจนไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้ 2. “ธนชาต SME Happy PA” ประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่ม เหมาะสำหรับเป็นสวัสดิการพนักงาน จะรับประกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป คุ้มครองครอบคลุมทั้งพนักงานส่งเอกสาร พนักงาน ขับรถ รปภ. หรือแม้แต่แรงงานต่างด้าวที่มีใบอนุญาต
3. “ธนชาต SME Happy Car” ประกันภัยรถยนต์แบบกลุ่มที่มาพร้อมกับอัตราส่วนลดพิเศษ คุ้มครองทั้งรถเจ้าของกิจการ พนักงาน และรถที่ใช้ในการดำเนินธุรกิจ หากทำประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 ตั้งแต่ 3 คันขึ้นไป หรือเลือกทำประกันภัยรถยนต์ประเภท 2+จัดเต็ม ทุนประกันภัย 1 แสนบาท ก็จะได้รับส่วนลดเบี้ยประกันภัยพิเศษตั้งแต่คันแรก และ 4.“ธนชาต SME Happy Home” ประกันภัยบ้านสำหรับเจ้าของกิจการ ให้ความคุ้มครองทั้งตัวอาคารและเฟอร์นิเจอร์ ในกรณีไฟไหม้ เหตุภัยธรรมชาติ และถูกโจรกรรม นับเป็นการมอบความคุ้มครอง ดูแลทุกความเสี่ยงให้กับธุรกิจได้ครบวงจร
ด้านนายคงศักดิ์ หารแสวงสิน ผู้จัดกาารฝ่ายอาวุโส ฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัย ของธนชาตประกันภัยกล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2559 นี้ยังมีผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวด้วย หลังจากเล็งเห็นโอกาสที่มีคนไทยเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศกันมากในช่วงเดือนมีนาคมและเมษายน เช่นน ไปเที่ยวญี่ปุ่น ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากหลังจากญี่ปุ่นเปิดกว้างไม่ต้องใช้วีซ่าได้ สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ได้แก่ “เที่ยวไหนก็สุขใจ” คุ้มครองการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ เป็นแพคเกจสุขทั้งครอบครัว ซื้อ 2 คุ้มครองถึง 4 โดยมีทุนประกันภัยที่ 1.5 ล้านบาท ช่วยคุ้มครองความเสี่ยงที่คนทั่วไปอาจมองข้าม เช่น กระเป๋าหาย เที่ยวบินยกเลิก อุบัติเหตุบนหิมะและเจ็บป่วย โดยมีความคุ้มครองตามทุนประกันที่เลือก สูงสุด1.5 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยเริ่มต้นคนละ 550 บาท นอกจากนี้ยังมีส่วนลด 50% สำหรับซื้อซิมการ์ด Japan Simcard Unlimited Data ใช้ที่ญี่ปุ่นด้วย