กรมพัฒน์ฯบ่มเพาะธุรกิจอาหาร
‘Happy Restaurants’ แข่งได้
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับสถาบันธุรกิจแฟรนไชส์อาหาร จัดหลักสูตรอบรมเชิงลึกให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารเพื่อสร้างองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการ การตลาดสมัยใหม่ เทคโนโลยี นวัตกรรม การบริหารทรัพยากรบุคคล การบริหารด้านการเงินและบัญชี กฎระเบียบ และอื่นๆ ที่สำคัญต่อการพัฒนาศักยภาพและสร้างมาตรฐานให้กับธุรกิจร้านอาหารไทย ให้แข่งขันได้อย่างยั่งยืน ชี้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เป็นธุรกิจSMEs เงินทุนหมุนเวียนน้อย ขาดการบริหารจัดการที่เป็นระบบ เป็นจุดอ่อนสำคัญของSMEsไทย
นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ส่งผลให้เกิดการเคลื่อนย้ายการค้า การลงทุน ตลอดจนทรัพยากรระหว่างประเทศสมาชิกอย่างเสรี และจะเพิ่มระดับความเข้มข้นมากขึ้นเป็นลำดับ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กที่ไม่มีศักยภาพในการแข่งขัน เนื่องจากขาดการบริหารจัดการที่มีคุณภาพ ไม่สามารถพัฒนาจุดแข็งและลดจุดอ่อนของตนเองได้อย่างตรงประเด็น
“ธุรกิจร้านอาหารและภัตตาคาร เป็นธุรกิจบริการที่เร่งรัดเปิดเสรี ภายใต้ข้อตกลงว่าด้วยการค้าบริการของอาเซียน AFAS : Asean FrameworkAgreement on Services) ซึ่งเป็นเป้าหมายในการส่งเสริมพัฒนาของกรมพัฒนาธุรกิจ-การค้า และเป็นธุรกิจที่สามารถทำรายได้ให้แก่ประเทศอย่างมหาศาล เนื่องจากประเทศไทยตั้งอยู่ในจุดศูนย์กลางของกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ธุรกิจกลุ่มนี้เป็นที่สนใจของนักลงทุนจากต่างประเทศ สำหรับผู้ประกอบการไทยส่วนใหญ่เป็นธุรกิจSMEs มีเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานค่อนข้างน้อยและขาดการบริหารจัดการที่เป็นระบบ ทำให้ไม่สามารถส่งมอบคุณค่าของบริการที่เป็นมาตรฐานให้กับผู้ใช้บริการได้อย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งเป็นจุดอ่อนที่สำคัญของ SMEsไทย”
ด้วยเหตุนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จึงต้องเร่งให้ความช่วยเหลือและส่งเสริมพัฒนาเป็นกรณีเร่งด่วน โดยได้ร่วมกับสถาบันธุรกิจแฟรนไชส์อาหาร กำหนดหลักสูตรอบรมเชิงลึก จำนวน 36 ชั่วโมง หรือ 6 วัน ให้แก่ ผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารที่สนใจเข้ารับการอบรม ณ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สัปดาห์ละ 1 วัน จำนวน 2 รุ่น ดังนี้ รุ่นที่ 1 เปิดแล้ว ระหว่างวันที่ 14 มีนาคม – 19 เมษายน 2559 และ รุ่นที่ 2 ระหว่างวันที่ 18 พฤษภาคม – 22 มิถุนายน 2559
อธิบดีกล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้สมัครเข้ารับการฝึกอบรมจะต้องเป็นธุรกิจร้านอาหารที่ผ่านการประเมินตามเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพของกรมฯ หรือเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ ในการทำกิจการร้านอาหารมาแล้ว ไม่น้อยกว่า 1 ปี โดยในแต่ละรุ่นผู้ประกอบการจะต้องเข้ารับการฝึกอบรมให้ครบ ตลอด 6 สัปดาห์ จึงจะจบหลักสูตร และได้รับวุฒิบัตรรับรองว่าผ่านการฝึกอบรมจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า