กรมโรงงานฯเตือน 8กลุ่ม
เสี่ยงไฟไหม้ช่วงหน้าร้อน
กรมโรงงานอุตสาหกรรม เตือนผู้ประกอบการกลุ่มเสี่ยงไฟไหม้ช่วงหน้าแล้ง ซึ่งมีอยู่ 8 กลุ่ม รวม อุตสาหกรรมโกดังและคลังสินค้าท่เสร่ยงสูงสุดถึง 28 % นอกจากนี้ยังมีอุตสาหกรรมสิ่งทอและเส้นใย อุตสาหกรรมแปรรูปไม้ อุตสาหกรรมพลาสติก โฟม กระดาษ ยางและอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ ปิโตรเคมี สารเคมี ชี้สาเหตุทำไฟไหม้บ่อยที่สุดคือ ไฟฟ้าลัดวงจร คิดเป็น 29% ของทั้งหมด เตรียมออกมาตรการเชิงรุกเพื่อลดจำนวนการเกิดอัคคีภัยในโรงงานอุตสาหกรรม
ดร.พสุ โลหารชุน อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม และรองโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ประเทศไทยเข้าสู่ช่วงหน้าร้อนที่สุดในรอบปี โดยอุณหภูมิเฉลี่ยสูงถึง 35-44 C ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดอัคคีภัยได้ง่าย ซึ่งจากสถิติการเกิดไฟไหม้ของโรงงานทั่วประเทศเมื่อปี 2558 พบว่าอุบัติเหตุในโรงงานทั้งหมด กว่า 73% เป็นการเกิดไฟไหม้ ในอุตสาหกรรม 8 ประเภท คือ 1.อุตสาหกรรมสิ่งทอและเส้นใย 5% 2.อุตสาหกรรมแปรรูปไม้ 8% 3.อุตสาหกรรมพลาสติก โฟม กระดาษ ยาง 13% 4.อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ ปิโตรเคมี สารเคมี 6% 5.อุตสาหกรรมสี ไวไฟ 2% 6.อุตสาหกรรมกากหรือขยะ 5% 7.อุตสาหกรรมอาหาร 6% และ 8.อุตสาหกรรมโกดังและคลังสินค้า 28%
ขณะเดียวกันยังพบว่า สาเหตุของการเกิดไฟไหม้บ่อยที่สุดคือ ไฟฟ้าลัดวงจร คิดเป็น29% ของสาเหตุการเกิดไฟไหม้ทั้งหมด และนอกจากนี้ยังมีสาเหตุอื่น ๆ อีก เช่น การเชื่อม การซ่อมบำรุงที่ผิดวิธี การเสียดสีหรือสะสมความร้อนในกองวัสดุที่สามารถติดไฟได้ ความร้อนหรือประกายไฟจากเครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า เป็นต้น
ดร.พสุ กล่าวต่อว่า ทาง กรมโรงงานฯ จึงได้เตรียมออกมาตรการเชิงรุก เพื่อลดจำนวนการเกิดอัคคีภัยและลดความเสี่ยงเกิดไฟไหม้ ในโรงงานอุตสาหกรรม ดังนี้คือ 1. ฝึกอบรมเกี่ยวกับการป้องกันและระงับอัคคีภัย ในเรื่องเกี่ยวกับการเลือกใช้อุปกรณ์ดับเพลิงอย่างถูกต้อง 2. เพิ่มความระมัดระวังงานที่ก่อให้เกิดประกายไฟ และความร้อนสูงเป็นพิเศษ เช่น อุปกรณ์ไฟฟ้า การเชื่อม การตัด เจียร การเผา เป็นต้น
3. ให้ความสำคัญในการเก็บรักษา การจัดวางวัสดุ สิ่งของ วัตถุดิบ ผลิตภัณฑ์ที่สามารถติดไฟได้ง่าย โดยจะต้องอยู่ในพื้นที่ระบายอากาศและถ่ายเท ไม่ให้เกิดการสะสมของไอระเหยของสารไวไฟ และ4. เผยแพร่องค์ความรู้เกี่ยวกับการเกิดเพลิงไหม้ ทั้งในรูปแบบเอกสารและทางเว็บไซต์ของกรมโรงงานฯ และแบบประเมินตนเอง (Self-Checklist) เกี่ยวกับอัคคีภัย เพื่อเป็นการประเมินสภาพความเสี่ยงของแต่ละโรงงานด้วยตนเองให้สามารถปรับปรุงแก้ไขความเสี่ยงให้อยู่ในระดับปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม กรมโรงงานฯ ยังแนะนำให้ทุกโรงงานจัดเตรียมความพร้อมของอุปกรณ์ดับเพลิงและเส้นทางหนีไฟต่างๆ ควรตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอ ไม่ใช้ไฟฟ้ามากเกินพิกัด ควรมีอุปกรณ์แจ้งเตือนอัคคีภัยอัตโนมัติ และต้องระมัดระวังสาเหตุอื่นๆ เช่น การสูบบุหรี่ การเผาหญ้าหรือขยะมูลฝอย ฯลฯ
นอกจากนี้ กรมโรงงานฯ ยังเล็งเห็นความเสี่ยงที่อาจเกิดกับโรงงานที่ใช้ระบบทำความเย็นที่ใช้แอมโมเนียเป็นสารทำความเย็น ซึ่งจะทำงานหนักในช่วงฤดูร้อน โดยได้มีการจัดทำเอกสารเผยแพร่และแจ้งเตือนอุบัติเหตุทั้งในรูปแบบเอกสารและทางเว็บไซต์ของกรมโรงงานฯ ดร.พสุ กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับผู้ประกอบการสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับได้ที่ สำนักเทคโนโลยีความปลอดภัย กรมโรงงานอุตสาหกรรม โทร. 02 202 4217 02 202 4222 หรือสอบถามข้อมูลโครงการส่งเสริมอื่นๆ โทร.0 2202 4014 หรือเข้าไปที่www.diw.go.th หรืออีเมล์ pr@diw.mail.go.th