‘Startup Thailand 16’ รวมพลัง
Startup-ทุกฝ่ายหนุนเศรษฐกิจ
มหกรรม “Startup Thailand 2016” เปิดฉากยิ่งใหญ่ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ จากความร่วมมือของ 11 หน่วยงานภาครัฐและเอกชน มีกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้รับมอบหมายเป็นตัวแทนรัฐบาลและเป็นเจ้าภาพหลักจัดงาน โดย ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธานพิธีเปิดงาน เป็นเวทีให้ Startup ที่ถือเป็นฐานเศรษฐกิจใหม่และอนาคตของไทยได้พบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ พัฒนาและเติบโตได้อย่างยั่งยืนจากองค์ความรู้ และสร้างเครือข่ายให้เข้มแข็ง ส่งผลขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย
ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกล่าวรายงานว่า การจัดงาน Startup Thailand 2016 ถือเป็นมหกรรมครั้งแรกและเป็นเวทีใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ในการเปิดตัวธุรกิจสินค้า Startup กว่า 180 ราย ซี่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญต่อการสร้างธุรกิจและผู้ประกอบการ ด้วยการขยายเครือข่าย ตลอดจนสร้างตลาดใหม่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยก้าวสู่ประเทศที่มีเศรษฐกิจฐานนวัตกรรมเป็นศูนย์กลางของอาเซียน นอกจากนี้ ภายในงานยังเปิดโอกาสให้ Startup ได้มาพบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และสร้างเครือข่ายให้เข้มแข็ง รวมทั้งยังเป็นการสร้างความตื่นตัว องค์ความรู้ แรงบันดาลใจให้กับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ และนักเรียน นักศึกษา ผู้เริ่มทำงานใหม่ เกษตรกร ไปจนถึงผู้บริหารองค์กร และ SMEs ทั้งยังเป็นโอกาสที่ Startup จะได้พบปะกับนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ และนักลงทุนที่พร้อมให้การสนับสนุน เพื่อเพิ่มศักยภาพและพัฒนาธุรกิจต่อไป
รมต.วิทย์กล่าวต่อว่า Startup เป็นฐานเศรษฐกิจใหม่แห่งอนาคตของประเทศไทย ซึ่งทุกภาคส่วนให้ความสนใจสูง เนื่องจากเริ่มต้นธุรกิจด้วยต้นทุนต่ำ มีการนำเทคโนโลยีมาใช้เป็นหลักในสร้างธุรกิจและมีการคิดค้นออกแบบที่สามารถทำซ้ำและขยายตัวได้อย่างไม่จำกัด ซึ่ง Startup ที่จะเติบโตและประสบความสำเร็จได้นั้น ผู้ประกอบการต้องมีความคิดสร้างสรรค์นวัตกรรมในด้านต่าง ๆ ตรงกับช่องว่างหรือความต้องการของตลาด ,ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีไอซีเอื้อให้เข้าถึงบริการได้ทั่วโลก ระบบทุนประเภทกิจการร่วมลงทุนหรือ Venture Capital ที่ผู้ลงทุนมาร่วมรับความเสี่ยงในการประกอบการด้วย ทั้งหมดนี้เปิดโอกาสให้คนไทยในธุรกิจใดก็ได้ในไทยหรือแม้แต่เกษตรกรสามารถทำซ้ำและขยายตลาดไปทั่วโลก สร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด
“สำหรับวัตถุประสงค์ของการครั้งนี้เพื่อให้ความรู้ในการต่อยอดธุรกิจ สร้างเครือข่าย Startup สู่การบ่มเพาะและต่อยอดธุรกิจ การเปิดโอกาสให้ Startup ได้เชื่อมโยงกับนักลงทุน การช่วยให้ Startup เข้าถึงบริการที่รัฐจัดให้ อีกทั้งยังเพื่อให้ต่างประเทศได้รับทราบถึงศักยภาพของStartup ของไทยว่า สามารถทำงานกับเพื่อน ๆ มิตรประเทศทั่วโลกได้ ”
ด้านพลเอก ประยุทธ จันทร์โอชา ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “วิสัยทัศน์และพลังสร้างชาติด้วย Startup Thailand” ว่า การจัดงานครั้งนี้ถือเป็นกิจกรรมที่ดี รัฐบาลพร้อมให้การส่งเสริมการจัดงานดังกล่าวอย่างเต็มรูปแบบ รวมทั้งจะสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพของประเทศให้เติบโตขึ้น และก้าวสู่ตลาดสากลได้ ซึ่งการพัฒนาจะต้องเป็นไปตามวิสัยทัศน์ของประเทศคือ “มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน” ตามแนวทางหลักเศรษฐกิจพอเพียงของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างไรก็ตาม ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ซึ่งจะต้องร่วมกันขับเคลื่อนเป็นพลังประชารัฐ ควบคู่กับการพัฒนาปรับโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจให้ก้าวหน้า และเกิดผลสัมฤทธิ์ ซึ่งรัฐบาลต้องแก้ไขเพิ่มเติมข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับธุรกิจสตาร์ทอัพเพื่อส่งเสริมนักธุรกิจสตาร์ทอัพรายใหม่ โดยเน้นกลุ่มผู้เริ่มต้นประกอบธุรกิจให้เป็น “นักรบเศรษฐกิจรายใหม่” เพราะกลุ่มธุรกิจเหล่านี้ จะเป็นกำลังสำคัญอย่างมากในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้ก้าวไกลในอนาคต
นายกรัฐมนตรียังกล่าวอีกว่า รัฐบาลพร้อมส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจสตาร์ทอัพระดับภูมิภาคในรูปแบบภายใต้ความร่วมมือกับต่างประเทศ และประเทศไทยพร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางของประชาคมอาเซี่ยนในการพัฒนาเศรษฐกิจดังกล่าว เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจภูมิภาคอาเซียนให้เติบโตขึ้นไปสู่เศรษฐกิจโลกตามรูปแบบ “Stronger Together ร่วมกันสร้าง ร่วมกันพัฒนา เติบโตไปพร้อมกัน” อีกทั้ง สร้างเครือข่ายเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน สร้างสรรค์ และพัฒนาเศรษฐกิจ แผนการพัฒนาดังกล่าวนี้จะต้องดำเนินการอย่างมีคุณธรรม และอยู่ในกรอบของความเป็นประเทศไทย และจะต้องมีการขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรมตาม โรดแมป ภายใน 2 ปี สอดคล้องตามแผนพัฒนาโครงสร้างเศรษฐกิจในระยะ 20 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ยังได้ขอให้ทุกภาคส่วนช่วยกันดำเนินการดังกล่าวให้เกิดผลสัมฤทธิ์ โดยร่วมมือกันเป็นประชารัฐ และร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์การพัฒนาประเทศให้ก้าวไปอย่างมั่นคง พร้อมกล่าวขอบคุณหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมกันจัดงานนี้ว่า นับเป็นการทำงานแบบบูรณาการในทุกมิติ และสานพลังที่เข้มแข็งอย่างแท้จริง การจัดงานในครั้งนี้จะช่วยให้เกิดแรงบันดาลใจในการสร้างธุรกิจให้ก้าวหน้าและสร้างรายได้ ด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งจะช่วยผลักดันให้เกิดสังคมแห่งผู้ประกอบการขึ้นในประเทศไทยและส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
บรรยากาศในงานเป็นไปอย่างคึกคัก
ทั้งนี้ภายในงานประกอบด้วยรองนายกรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่ระดับสูงภาครัฐและเอกชน รมต.กระทรวงวิทยาศาสตร์และการวางแผนอนาคตประเทศเกาหลีใต้, คณะทูตานุทูต, ผู้ประกอบการวิสาหกิจ และผู้ที่เกี่ยวข้องอีกมากกว่า800 คน
โดยมีผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ หน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ร่วมจัดบูธมากกว่า 180 บูธ และพร้อมหน่วยงานสนับสนุนสตาร์ทอัพจากต่างประเทศจำนวนกว่า 10 บูธ
เหล่าสถาบันการเงินร่วมสนับสนุนผู้ประกอบการStartup และ SMEs
และเพื่อให้สอดคล้องกับผู้ประกอบการในแต่ละด้านโซนการแสดงนิทรรศการสตาร์ทอัพจะแบ่งออกเป็น 8 ประเภท ประกอบด้วย
1.ธุรกิจสตาร์ทอัพด้านการเกษตรและอาหาร (AgriTech & FoodTech)
2.ธุรกิจสตาร์ทอัพด้านการส่งเสริมอุตสาหกรรม 4.0 และอุตสาหกรรมสะอาด (Industry 4.0 & CleanTech)
3.ธุรกิจสตาร์ทอัพด้านการศึกษาและการสนับสนุนการทำงานของภาครัฐ (EdTech & GovTech)
4.ธุรกิจสตาร์ทอัพด้านอสังหาริมทรัพย์ (PropertyTech)
5.ธุรกิจสตาร์ทอัพที่เกี่ยวกับการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งด้านบริการส่วนบุคคล การท่องเที่ยว และความบันเทิง
(Lifestyle : Personal service, TravelTech & Entertainment)
6.ธุรกิจสตาร์ทอัพด้านการเข้าถึงสินค้า (E-Commerce & Logistics)
7.ธุรกิจสตาร์ทอัพด้านการเงิน (FinTech) และด้านการให้บริการสำหรับธุรกิจ (Service Enhancement)
8.ธุรกิจสตาร์ทอัพด้านสุขภาพ (HealthTech)
นอกจากนี้ยังมีการเสวนาในหลากหลายหัวข้อทั้งจากสตาร์ทอัพไทยและจากต่างประเทศที่จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังเริ่มต้นธุรกิจสตาร์ทอัพ หรือแม้กระทั่งผู้ที่กำลังดำเนินธุรกิจสตาร์ทอัพ โดยไฮไลท์และธีมงานเสวนาในแต่ละวันของงาน “Startup Thailand 2016” ระหว่างวันที่ 28 เมษายน – 1 พฤษภาคม 2559 มีดังนี้
วันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน 2559: “Government Vision and Ecosystems” เสวนาพิเศษ อาทิ :
ปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “วิสัยทัศน์และพลังสร้างชาติด้วย Startup Thailand”
โดย ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “Creative economy: A Platform for Korean Startup Development”
โดย ฯพณฯ ชเวยางฮี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและการวางแผนอนาคต ประเทศเกาหลีใต้
วันศุกร์ที่ 29 เมษายน 2559 : “Investor Day” เสวนาพิเศษ อาทิ:-
ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “การขับเคลื่อน Startup Thailand: ฐานเศรษฐกิจใหม่ของไทย”
โดย ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี
ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “Startup & New Investment Opportunities in Asia”
โดย นายเดฟ แมคเคลอร์ ผู้ร่วมก่อตั้ง “500 Startups”
วันเสาร์ที่ 30 เมษายน2559 : “Startup Day” เสวนาพิเศษ อาทิ :-
ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “Startup and Innovation : The Way of LINE”
โดย คุณอริยะ พนมยงค์, กรรมการผู้จัดการ LINE (Thailand)
การเสวนา หัวข้อ “Thai Startups Lightning Talks: How do you change the world?”
ผู้ร่วมเสวนาคือ :-
คุณณัฐวุฒิ พึ่งเจริญพงศ์ ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “Ookbee”
คุณธีระชาติ ก่อตระกูล ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “StockRadars”
คุณภาวุธพงษ์ วิทยภานุ กรรมการผู้จัดการ และผู้ก่อตั้ง “Rakuten” “TARAD.com” และ “Efra structure Inc”
คุณณัฐวุฒิ อมรวิวัฒน์ ผู้ก่อตั้ง Deep Pocket (T2P Co., Ltd.)
วันอาทิตย์ที่ 1 พฤษภาคม2559: “Community Day” เสวนาพิเศษ อาทิ :-
ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “Startup Metric”
โดย คุณณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “Ookbee”