ธุรกิจจดตั้งใหม่เฉียด6พันมิ.ย.59
“ธุรกิจก่อสร้าง-อสังหาฯ” บูมสุด
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบหมายให้ นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดสถิติการจดทะเบียนธุรกิจประจำเดือนมิถุนายน 2559 และครึ่งปีแรก 2559 (ม.ค. – มิ.ย.) ซึ่งพบว่า เดือนมิถุนายน 2559 มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ ทั่วประเทศ จำนวน 5,916 ราย เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม 2559 ซึ่งมีจำนวน 4,366 ราย โดยเพิ่มขึ้น 1,550 ราย คิดเป็น 36% ธุรกิจจัดตั้งสูงสุดได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 692 รายและอสังหาริมทรัพย์ 302 ราย
สำหรับนิติบุคคลที่จดทะเบียนเลิกในเดือนมิถุนายน 2559 มีจำนวน 1,392 ราย เพิ่มขึ้น 421 ราย คิดเป็น 43% เมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม 2559 โดยธุรกิจที่เลิกสูงสุด คือ ธุรกิจค้าสลาก จำนวน 139 ราย คิดเป็น 10% ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่เลิกเนื่องจากธุรกิจไม่ได้ประกอบกิจการ
ทั้งนี้มูลค่าทุนจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ในเดือนมิถุนายน 2559 มีจำนวนทั้งสิ้น 17,802 ล้านบาท ลดลงจำนวน 971 ล้านบาท คิดเป็น 5% เมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม 2559 ซึ่งมีจำนวน 18,773 ล้านบาท แต่มี มูลค่าเพิ่มขึ้นจำนวน 5,897 ล้านบาท คิดเป็น 50% เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2558 ซึ่งมีจำนวน 11,905 ล้านบาท
สำหรับประเภทธุรกิจที่จดทะเบียนจัดตั้งสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 692 ราย ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 302 ราย ธุรกิจขายส่งเครื่องจักร จำนวน 167 ราย ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 138 ราย และธุรกิจให้คำปรึกษาด้านการจัดการ จำนวน 137 ราย
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2559 มีห้างหุ้นส่วนบริษัทจดทะเบียนจัดตั้งทั้งสิ้น 1,327,813 รายมูลค่าทุนจดทะเบียนรวม 20.16 ล้านล้านบาท โดยมีห้างหุ้นส่วนบริษัทที่ดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ จำนวน 635,024 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียน 15.64 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น บริษัทจำกัด 455,158 ราย บริษัทมหาชนจำกัด1,140 ราย และห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล 178,726 ราย
อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาพรวมของการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลในช่วง ครึ่งปีแรก 2559 (ม.ค.-มิ.ย.) มีจำนวน 31,792 ราย เมื่อเปรียบเทียบช่วงเดียวกันของปี 2558 (ม.ค.-มิ.ย.) ซึ่งมีจำนวน 31,557 ราย เพิ่มขึ้น 235 ราย คิดเป็น 1% โดยการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทในเดือน มิ.ย.2559 มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน มีปัจจัยสนับสนุนจากการที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้เริ่มเปิดให้บริการจดทะเบียนหลักประกันทางธุรกิจตาม พ.ร.บ. หลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ.2558 เพื่อช่วยเหลือธุรกิจ SMEs ประเภทนิติบุคคลเข้าถึงแหล่งเงินทุน
โดยธุรกิจสามารถนำทรัพย์สิน อุปกรณ์ สินค้าคงคลังและทรัพย์สินทางปัญญามาเป็นหลักประกันทางธุรกิจในการขอกู้เงินจากธนาคาร ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสและเป็นการเพิ่มช่องทางการทำธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ประกอบกับกรมสรรพากรมีนโยบายส่งเสริมให้บุคคลธรรมดาที่ทำธุรกิจ สามารถเปลี่ยนมาจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล โดยให้มีสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษี ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญส่วนหนึ่งในการสร้างแรงจูงใจให้มีการจดทะเบียนเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2559 (ก.ค.-ธ.ค.)
ด้านผลการดำเนินงานของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เดือนมิถุนายน 2559 นั้น การบริการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดข้ามเขตจังหวัดได้เปิดให้บริการตั้งแต่ วันที่ 2 มิถุนายน 2557 โดยในเดือนมิถุนายน 2559 มีการยื่นขอจดทะเบียนข้ามเขต จำนวน 1,033 ราย จากการจดทะเบียน ทั่วประเทศ จำนวน 5,916 ราย คิดเป็น 17% ในเดือนมิถุนายน 2559 มีการยื่นขอจดทะเบียนข้ามเขต แบ่งออกเป็น
ส่วนกลาง 746 ราย คิดเป็น 12% โดยสำนักงานในส่วนกลางที่มีการจดทะเบียนข้ามเขตมากที่สุด คือ ส่วนจดทะเบียนธุรกิจกลาง (กรมพัฒนาธุรกิจการค้าสนามบินน้ำ) จำนวน 180 ราย รองลงมาสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าเขต 2 (พหลโยธิน) จำนวน 122 ราย และสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าเขต 6 (ศูนย์ราชการ) จำนวน 115 ราย
ส่วนภูมิภาค 287 ราย คิดเป็น 5% โดยสำนักงานในส่วนภูมิภาคที่มีการจดทะเบียนข้ามเขต มากที่สุด คือ จังหวัดสมุทรปราการ จำนวน 37 ราย รองลงมาจังหวัดชลบุรี จำนวน 24 ราย และจังหวัดนนทบุรีจำนวน 18 ราย
ด้านการให้บริการ DBD e-Service หรือโปรแกรมตรวจสอบข้อมูลทั่วไปของนิติบุคคลโดยค้นหาข้อมูลนิติบุคคลจากรายชื่อหรือเลขทะเบียน งบการเงิน และรายชื่อร้านค้าออนไลน์ที่จดทะเบียนพาณิชย์ รวมทั้งมีบริการข่าวสาร กิจกรรม โครงการต่างๆ และสถานที่ให้บริการของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าผ่านมือถือ (Application : DBD e-Service) ซึ่งสามารถใช้งานได้ทั้งระบบปฏิบัติการ IOS และ Android โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2557 เป็นต้นมา เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถตรวจสอบข้อมูลนิติบุคคลได้ด้วยตนเอง มีสถิติผู้เข้าใช้บริการระบบจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2559 รวมทั้งสิ้น 1,444,063 ครั้ง โดยในเดือนมิถุนายน 2559 มีผู้ใช้บริการระบบนี้ จำนวน 250,119 ครั้ง เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน (พ.ค.59 = 1,193,944 ครั้ง) คิดเป็น 21%
ส่วนด้าน e-Commerce การจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์และได้รับเครื่องหมาย DBD Registered เพื่อยืนยันการมีตัวตนของผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ปัจจุบันมีผู้ได้รับเครื่องหมาย DBD Registered จำนวน 16,455 ราย เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน (พ.ค.59) 410 ราย คิดเป็น 2.6% ประกอบด้วยนิติบุคคล 4,132 ราย คิดเป็น 25% บุคคลธรรมดา 12,323 ราย คิดเป็น 75% และมีร้านค้าออนไลน์ที่ได้รับเครื่องหมาย DBD Registered จำนวน 18,391 ร้านค้าเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน (พ.ค. 59) 428ร้านค้า คิดเป็น 2.4%
1) ธุรกิจแฟชั่น/เครื่องแต่งกาย/เครื่องประดับ จำนวน 3,037 ร้านค้า คิดเป็น 17% 2) ธุรกิจคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ ไอที และซอฟแวร์ จำนวน 2,647 ร้านค้า คิดเป็น 14% 3) ธุรกิจการแพทย์ สุขภาพ ยา สมุนไพร สปา จำนวน 2,632 ร้านค้า คิดเป็น 14%
ทั้งนี้ การได้รับเครื่องหมาย DBD Registered จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและความเชื่อมั่น ในการเลือกซื้อสินค้าและบริการให้กับผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้นทั้งนี้ กรมได้ประสานขอความร่วมมือกับตลาดกลางออนไลน์ให้กำกับดูแลสมาชิกให้มีการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ตามกฎหมาย เพราะหากปฏิบัติไม่ถูกต้องจะมีโทษปรับ และอาจถูกพิจารณางดให้บริการเข้าขายสินค้าในตลาดกลางด้วย
ด้าน DBD e-Filing ซึ่งเป็นบริการที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเปิดให้นำส่งงบการเงินผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์แก่ประชาชนและนิติบุคคลทั่วไป ซึ่งได้เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2558 ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2559 มีสถิติผู้ใช้บริการโดยมีผู้สมัครลงทะเบียนจำนวน 501,236 ราย แสดงตัวตนต่อเจ้าหน้าที่และได้รับอนุมัติไปแล้ว จำนวน 465,304 ราย
มีรายละเอียดการนำส่งงบการเงิน ดังนี้ – นิติบุคคลต้องนำส่งงบการเงิน จำนวน 568,278 ราย – นำส่งงบการเงินแล้ว ภายใน 31 พ.ค.59 จำนวน 465,476 ราย (คิดเป็น 82%) ส่งทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing) จำนวน 127,425 ราย ส่งงบกระดาษจำนวน 338,051 ราย ณ 30 มิ.ย.59 มีนิติบุคคลส่งทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing) จำนวน 345,588 ราย (คิดเป็น 74% ของนิติบุคคลที่นำส่งงบการเงินแล้ว)
สำหรับในปี 2559 กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะดำเนินการเชิงรุกเพื่อเพิ่มการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการ โดยจะดำเนินการปรับปรุงห้องปฏิบัติการอบรม (Workshop) ที่ชั้น 11 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยการเพิ่มเครื่องคอมพิวเตอร์เป็น 30 เครื่อง เพื่อรองรับการเรียนรู้ระบบการนำส่งงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing) และการสอนติดตั้งโปรแกรม XBRL in Excel รวมถึงเพิ่มการจัดอบรมในปี 2559-2560 ให้ครอบคลุมนิติบุคคลที่ต้องนำส่งงบการเงินทั้ง 100%
โดยมีเป้าหมาย ดังนี้ คือ
ผู้ประกอบการทุกรายที่ต้องนำส่งงบการเงินสามารถติดตั้งโปรแกรม XBRL in Excel สำหรับใช้นำส่งงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing) ได้ด้วยตนเอง โดยนำเครื่องคอมพิวเตอร์หรือ Notebook มาติดตั้งโปรแกรมได้ที่ห้องปฏิบัติการอบรม (Works)
ผู้ประกอบการมีความรู้ในการนำส่งงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing) โดยเข้ารับ การอบรมที่ห้องปฏิบัติการอบรม (Workshop) มากยิ่งขึ้น
มีเจ้าหน้าที่ด้าน IT ประจำห้องปฏิบัติการอบรม (Workshop) ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการติดตั้งโปรแกรม XBRL in Excel และให้คำแนะนำและแก้ไขปัญหาการติดตั้งโปรแกรมกับเครื่องคอมพิวเตอร์และ Notebook ที่มีความหลากหลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะเปิดให้บริการห้องปฏิบัติการอบรม (Workshop) ใหม่ ต้นปีงบประมาณ 2560 เป็นต้นไป ซึ่งขณะนี้ยังคงเปิดให้บริการนำส่งงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing) ณ ห้องปฏิบัติการอบรม (Workshop) ชั้น 10 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในทุกวันทำการ หรือสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองข้อมูลธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า โทร.02-547-4376, 02-547-4377, 02-547-4390, 02-547-4391 หรือสายด่วน 1570 โทรสาร. 02-547-4372 และ e-Mail: efiling.training@gmail.com
สำหรับบริการออกหนังสือรับรองนิติบุคคลในรูปแบบภาษาอังกฤษ เป็นการเพิ่มการให้บริการหนังสือรับรองนิติบุคคลในรูปแบบภาษาอังกฤษเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC อย่างเต็มรูปแบบ โดยมีสถิติการใช้บริการตั้งแต่ 16 มกราคม 2558 จนถึงวันที่30 มิถุนายน 2559 มีผู้ยื่นขอรับบริการทั้งสิ้น 5,389 คำขอ จำนวน 5,549 ฉบับ เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน (พ.ค.59)จำนวน 425 ราย คิดเป็น 8% ณ เดือนมิถุนายน 2559 มีการให้บริการหนังสือรับรองภาษาอังกฤษ แบ่งเป็นส่วนกลาง 3,350 คำขอ 3,450 ฉบับ และส่วนภูมิภาค 2,039 คำขอ 2,099 ฉบับ