“เฮเดล” ตั้งศูนย์วิจัยกราฟีนไทย
นำร่องดันวัสดุใหม่ใช้อุตฯปิโตรฯ
สวทช. กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ โดยจอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ร่วมกับบริษัท Haydale Graphene Industries จากอังกฤษ ลงนามความร่วมมือจัดตั้ง Haydale Technologies (Thailand) : HTT ศูนย์วิจัยกราฟีนแห่งแรกในภูมิภาคเอเชีย ณ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ภายในอาคารกลุ่มนวัตกรรม 2 (INC2) เชื่อมั่นในความพร้อมของบุคลากรวิจัย เครื่องมือต่างๆ รวมถึงสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการวิจัยและพัฒนา เบื้องต้นทำวิจัยนำวัสดุใหม่ ๆ จากกราฟีนไปใช้ประโยชน์ เช่น ซิลิกอนคาร์ไบด์ ที่ทนร้อนสูงเพื่อทำตลาดในอุตปิโตรเคมี น้ำมันและก๊าซ
ดร.เจนกฤษณ์ คณาธารณา ผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย กล่าวว่า การที่ Haydale Graphene Industries Public Limited Company บริษัทจดทะเบียนจากตลาดหลักทรัพย์ของ London Stock Exchange เลือกตั้งศูนย์วิจัยในอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย และจะทำงานร่วมกับศูนย์ TOPIC และ สวทช. ซึ่งมีความพร้อมในด้านทีมวิจัยรวมไปถึงเครื่องมือวิจัยขั้นสูง การมีศูนย์ HTT ในประเทศไทยนับเป็นเรื่องน่ายินดี เพราะนักวิจัยไทยจะได้ทำงานร่วมกับนักวิจัยชั้นนำจากต่างประเทศ เกิดการแลกเปลี่ยน เรียนรู้และการถ่ายทอดเทคโนโลยีระหว่างกันได้อย่างเป็นรูปธรรมขึ้นในประเทศไทย เป็นการส่งเสริมและผลักดันให้เกิดเทคโนโลยีขั้นสูงมากขึ้นในอนาคต และแน่นอนว่าจะเป็นกลไกที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยไปสู่ Thailand 4.0 ตามแผนยุทธศาสตร์ของรัฐบาลต่อไป
ดร.ทวีศักดิ์ กออนันตกูล ที่ปรึกษาอาวุโสผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า กราฟีนเป็น “วัสดุมหัศจรรย์” สวทช. มองเห็นโอกาส และความสำคัญของกราฟีนมาตั้งแต่ตอนที่มีการค้นพบ จึงได้เริ่มทำวิจัยและพัฒนาเพื่อนำกราฟีนไปใช้งานในเชิงอุตสาหกรรมในรูปแบบต่างๆ มากว่า 5 ปีแล้ว และบางส่วนได้เริ่มมีการส่งต่อเทคโนโลยีให้แก่ภาคอุตสาหกรรม เช่น การสังเคราะห์กราฟีนด้วยเทคนิคเคมีไฟฟ้าเพื่อผลิตหมึกพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถพิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์แบบอิงค์เจ็ตได้สำเร็จเป็นรายแรกของโลก โดย ดร.อดิสร เตือนตรานนท์ ผู้อำนวยการหน่วยปฏิบัติการวิจัยนาโนอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องกลจุลภาค ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ หรือเนคเทค
นอกจากการนำไฟฟ้าที่ดีแล้ว กราฟีนยังสามารถนำไปผสมเป็นวัสดุคอมโพสิตที่มีน้ำหนักเบาและมีความแข็งแรงสูง หรือคุณสมบัติการนำความร้อนที่ดีของกราฟีนสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานของของหลอดไฟส่องสว่างแบบ LED ได้อย่างมาก ความบางและการโค้งงอได้ของกราฟีนก็มีการนำไปผลิตเป็นจอภาพโค้งแบบ OLED ในเชิงพาณิชย์แล้ว และยังมีงานวิจัยอื่นๆ อีกมากที่เป็นที่สนใจของแวดวงการวิจัยและพัฒนาทั่วโลก เช่น งานวิจัยทางด้าน Supercapacitor ที่หากสำเร็จจะช่วยแก้ปัญหาการประจุไฟฟ้าของรถยนต์ไฟฟ้าจากที่ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงเป็นภายในเวลาไม่กี่วินาที หรือเสื้อผ้าอัจฉริยะ “Smart Textiles” ที่ประกอบไปด้วยเซ็นเซอร์ตรวจวัดสุขภาพของผู้สวมใส่ สามารถส่งข้อมูลให้แพทย์ เพื่อวินิจฉัยโรคแบบอัตโนมัติและสามารถปรับอุณหภูมิ เพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกาย
ปัจจุบัน สวทช. ได้มีการจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมการพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์และอิเล็กทรอนิกส์อินทรีย์ หรือ TOPIC ที่ชั้น 5 อาคารกลุ่มนวัตกรรม 2 ภายในอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย เพื่อสร้างเครือข่ายการทำงานร่วมกันระหว่างทีมงานวิจัยภาครัฐและภาคอุตสาหกรรมที่มีความสนใจในการพัฒนาและประยุกต์ใช้งานกราฟีนสำหรับอุตสาหกรรมทุกประเภท โดยทางศูนย์ฯ มีห้องปฏิบัติการและเครื่องมือที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงรวมถึงทีมงานวิจัยที่พร้อมสำหรับการวิจัยประยุกต์ทั้งทางเคมี ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ และทางชีวภาพ
ด้าน นายเรย์ กิบบ์ส (Mr. Ray Gibbs), CEO of Haydale Graphene Industries Public Limited Companyกล่าวว่า “Haydale เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของอังกฤษที่มีมูลค่าตลาด 30 ล้านยูโร (ณ วันที่ 3 ตุลาคม 2559) โดยบริษัทมีความเชี่ยวชาญด้านกราฟีนมาแต่เริ่มแรกและต่อยอดไปยังวัสดุนาโนอื่นๆ ด้วยความมุ่งมั่นในการขยายตลาดสู่ภูมิภาคเอเชีย เพื่อรองรับอุตลาหกรรมที่เกิดจากเทคโนโลยีวัสดุกราฟีน ทำให้เป็นที่มาของความร่วมมือระหว่าง Haydale และอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ในการจัดตั้งศูนย์วิจัยกราฟีน Haydale Technologies (Thailand) หรือ HTT ขึ้น
“Haydale เชื่อมั่นในความพร้อมของอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย โดยเฉพาะทีมวิจัยเนคเทค สวทช. ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในเรื่องกราฟีนเป็นอย่างดี รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวก อุปกรณ์ทดสอบ และเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ที่ครบครัน ปัจจัยเหล่านี้ถือเป็นจุดแรกที่ทำให้บริษัทตัดสินใจเลือกตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาที่นี่ นอกจากนี้ ยังเห็นว่าประเทศไทยและเอเชียมีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและมีปริมาณของอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับตลาดเป้าหมายของบริษัทจำนวนมาก เช่น สิ่งพิมพ์ รถยนต์ และคอมโพสิต”
สำหรับแผนการทำงานในระยะแรก ทีมนักวิจัยจาก HTT มีการทำงานร่วมกันกับทีมวิจัยของ ดร.อดิสร เพื่อพัฒนาและสร้างโอกาสทางธุรกิจในกลุ่มวัสดุใหม่ๆ ที่เกิดจากการนำกราฟีนไปประยุกต์ใช้ อาทิ ซิลิกอนคาร์ไบด์ ที่จะมีคุณสมบัติที่ทนต่อการสึกหรอและอุณหภูมิที่สูง เหมาะสำหรับการทำตลาดในกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี และอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติต่อไป