เทสโก้ โลตัสสานพลังประชารัฐ
สร้างรายได้เสริมชาวสวนยาง
ชาวสวนยางไม่ต้องปาดน้ำตากับราคายางตกอีกต่อไป หลังจังหวัดสงขลา และเทสโก้ โลตัส สานพลังประชารัฐ สร้างเครือข่ายอาชีพปลูกขึ้นฉ่ายไฮโดรโพนิกส์แบบกางมุ้ง หนึ่งใน 22 โครงการ “เทสโก้ โลตัส ประชารัฐร่วมใจ” ส่งเทสโก้ โลตัส เพิ่มรายได้ต่อครัวเรือน ลดปัญหาหนี้นอกระบบ สืบสานแนวคิดการพัฒนาเพื่อพึ่งตนเองของเกษตรกร อันเนื่องมาจากพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ส่งผักขายเทสโก้ โลตัส ได้ถึง 500-1,000 กิโลกรัม ต่อสัปดาห์
นางสาวสลิลลา สีหพันธุ์ รองประธานกรรมการฝ่ายกิจการบรรษัท เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า ในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย ลูกค้ายังมีความต้องการผักสดคุณภาพสูงอีกมาก จึงได้ร่วมมือกับทางจังหวัดสงขลา โดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ในการสร้างเครือข่ายเกษตรกรปลูกผักประเภทขึ้นฉ่ายไฮโดรโพนิกส์ ซึ่งเป็นนวัตกรรมในการรับมือกับฝนที่ตกชุกในภาคใต้ ทำให้การปลูกขึ้นฉ่ายไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การปลูกผักไฮโดรโพนิกส์แบบกางมุ้งสามารถทำได้
โดยนอกจากสามารถเพิ่มผลผลิตคุณภาพให้ผู้บริโภคแล้ว ยังได้เพิ่มรายได้ในคนในชุมชนอีกด้วย จากโมเดล “ยัง สมาร์ท ฟาร์เมอร์” (Young Smart Farmer) คุณพิโชติ ผุดผ่อง เป็นต้นแบบในการเรียนรู้และขยายองค์ความรู้สู่ชาวสวนยางให้มีทางเลือกในการประกอบอาชีพนอกเหนือไปจากกรีดยาง เพิ่มรายได้ให้ครัวเรือนในยามราคายางตกต่ำ
“เทสโก้ โลตัส มีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนนโยบายประชารัฐอย่างเต็มที่ เพื่อร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ผ่านการรับซื้อผลผลิตตรงจากเกษตรกรซึ่งเราดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 ซึ่งเป็นการสนับสนุนให้เกษตรกรพี่งพาตนเองได้ ตามพระราชปณิธานในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
โดยโครงการรับซื้อขึ้นฉ่ายกางมุ้งจากกลุ่มเกษตรกรบ้านคลองหอยโข่ง เป็นหนึ่งใน 22 โครงการ “เทสโก้ โลตัส ประชารัฐร่วมใจ” ที่เกิดจากการร่วมมือกันของภาครัฐ ภาคประชาชน และภาคเอกชน จากโครงการสร้างเครือข่ายปลูกผักขึ้นฉ่าย ปัจจุบันกลุ่มเกษตรกรนำโดยคุณ พิโชติ ผุดผ่อง สามารถส่งผักขายเทสโก้ โลตัส ได้ถึง 500-1,000 กิโลกรัม ต่อสัปดาห์”
นายพิโชติ ผุดผ่อง เกษตรกรผู้นำเครือข่ายปลูกผักไฮโดรโพนิกส์ คลองหอยโข่ง กล่าวว่า ปัญหาของชาวสวนยางคือเมื่อราคายางตกต่ำ ก็จะมีรายได้น้อยลง ผมเองจบด้านเกษตรมา เคยทำงานในบริษัทเกี่ยวกับการเกษตรในอำเภอหาดใหญ่ 4-5 ปี แล้วก็หันมาสนใจทำผักไฮโดรโพนิกส์ เริ่มแรกมีเพียงไม่กี่โต๊ะ เงินทุนประมาณหลักแสน เดิมผักไฮโดรที่ปลูกจะเป็นพวกผักสลัด แต่พอได้พูดคุยกับเทสโก้ โลตัส ได้ทราบว่ามีความต้องการผักประเภทขึ้นฉ่าย เนื่องจากสภาพฝนในภาคใต้ทำให้ปริมาณขึ้นฉ่ายที่ปลูกไม่สม่ำเสมอ ผมจึงริเริ่มทดลองปลูกในแบบไฮโดรโพนิกส์กางมุ้งดู ปรากฎว่าได้ผลผลิตเป็นที่น่าพอใจมาก จึงขยายกำลังการผลิตมาเรื่อยๆ ปัจจุบันมี 70 โต๊ะ
นอกจากนี้ผมยังเป็นศูนย์ถ่ายทอดความรู้การปลูกผักไฮโดรโพนิกส์ให้ชาวบ้านกับทางจังหวัด โดยจังหวัดจะส่งเกษตรกรชาวสวนยางที่ผ่านการคัดเลือกแล้วว่ามีรายได้น้อย คือมีพื้นที่สวนไม่เกิน 5 ไร่ เป็นลูกจ้างกรีดยาง และต้องขยัน รับผิดชอบ สามารถทำงานกลุ่มได้ มาเรียนรู้กับผม ทุกวันนี้ทุกคนสามารถปลูกผักเพื่อส่งให้กับเทสโก้ โลตัส ทำให้มีรายได้เสริมจากการทำสวนยางสภาพคล่องในครอบครัวก็ดีขึ้น ไม่เป็นหนี้นอกระบบ
“ผมเดินตามรอยในหลวงรัชกาลที่ 9 ไม่หยุดที่จะพัฒนาตัวเองในด้านเกษตร เพราะโตมาก็เห็นพระองค์ท่านอยู่กับการเกษตรมาตลอด พระองค์ท่านเห็นความสำคัญว่าสังคมเกษตรต้องการมาก่อนต้องทำให้เกษตรกรเข้มแข็ง เวลาผมเป็นพี่เลี้ยงให้เกษตรกรที่มาเรียนรู้ ผมมักจะบอกเสมอว่า อย่าท้อ ถ้าท้อแล้วถอยก็ทำอะไรไม่ได้ ก็เหมือนในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่พระองค์ท่านทรงทดลอง เก็บข้อมูล พิสูจน์แล้วทุกอย่าง เกษตรกรของพระราชาจะต้องพึ่งพาตัวเองได้”
นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า จังหวัดสงขลามีเกษตรกรชาวสวนยางอยู่เป็นจำนวนมาก พอยางราคาตก หลายครัวเรือนจึงประสบปัญหารายได้น้อย ทางจังหวัดจึงส่งเสริมให้เกษตรกรมีอาชีพหลากหลาย เช่นการปลูกผักไฮโดรโพนิกส์ ที่มีคุณโชติเป็นต้นแบบนี้ ก็เป็นทางหนึ่งที่ช่วยเสริมรายได้ให้พวกเขา โดย ทางจังหวัดได้เขามาสนับสนุนให้เกิดการอบรม ขยายองค์ความรู้ไปสู่ชาวสวนยางที่มีรายได้น้อย เริ่มจาก 10 ราย ก่อนจะขยายไปเรื่อยๆ
“นอกจากการสนับสนุนด้านการขยายองค์ความรู้แล้ว ทางจังหวัดยังได้ให้การสนับสนุนงบประมาณในการจัดหาอุปกรณ์ให้กับชาวบ้านที่ผ่านการคัดเลือก 10 โต๊ะ ทำให้พวกเขาได้เห็นว่า ยังมีอาชีพเสริมอื่นๆ ที่สร้างรายได้ให้เขาได้ ซึ่งเทสโก้ โลตัส ได้เข้ามารับซื้อทำให้เกิดตลาดแบบครบวงจร”
ด้านนางสาวสลิลลา กล่าวอีกว่า เทสโก้ โลตัส มีเป้าหมายที่จะเพิ่มปริมาณการรับซื้อผักปลอดภัยในภาคใต้เพิ่มขึ้น ไม่เพียงแค่ขึ้นฉ่าย แต่ผักประเภทอื่นๆ ก็ยังเป็นที่ต้องการในแถบนี้ ซึ่งจะใช้แนวทางประชารัฐซึ่งเป็นการร่วมมือกับทั้งรัฐและชุมชนต่อไป และจะใช้การตลาดเป็นตัวนำ เพราะพิสูจน์แล้วว่าเป็นรูปแบบที่สร้างความสำเร็จ โดยการที่มีเทสโก้ โลตัส เข้ามาช่วยวางแผนประเภทและปริมาณผักที่ต้องการปลูก รวมทั้งวางแผนการจัดส่ง ทำให้เกษตรกรสามารถบริหารต้นทุนได้ดี มีกำไร และวางแนวทางการเติบโตอย่างต่อเนื่อง พึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืนตามพระราชปณิธานของพ่อหลวงที่รักของเรา”
ทั้งนี้ เทสโก้ โลตัส ยังมีโครงการประชารัฐเพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้เติบโตอีกหลายโครงการ ซึ่งได้ช่วยสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านที่อาศัยในภูมิภาคต่างๆทั่วประเทศ อาทิ โครงการ ‘ปลูกผักกลางนาทุ่งกุลายิ้มได้’ ซึ่งสนับสนุนให้ชาวนาจังหวัดร้อยเอ็ด ปลูกผักเสริมในหน้าแล้ง สร้างรายได้เพิ่มให้ครัวเรือนละ 5,000 บาทต่อรอบการเก็บเกี่ยว รวมทั้งการมอบพื้นที่ให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) นำสินค้าโอทอปจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาจำหน่ายที่เทสโก้ โลตัส สร้างรายได้ให้ชาวบ้านรวมกว่า 27 ล้านบาทในปีนี้
อนึ่งเทสโก้ โลตัส ผู้นำวงการค้าปลีกในประเทศไทย ปัจจุบันมีสาขากว่า 1,800 แห่งทั่วประเทศ โดยมีร้านค้า 5 ฟอร์แมตเพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างของลูกค้า ได้แก่ เอ็กซ์ตร้า, ดีพาร์ทเมนสโตร์, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, ตลาด และ เอ็กซ์เพรส โดยให้บริการลูกค้ามากกว่า 15 ล้านคนในแต่ละสัปดาห์ นอกจากนั้น เทสโก้ โลตัส ยังมีช่องทางจำหน่ายสินค้าบนแพลตฟอร์มดิจิทัล ถึง 3 ช่องทาง คือ เทสโก้ โลตัส ช้อป ออนไลน์ ซึ่งมีสินค้ามากกว่า 20,000 รายการ รวมถึงอาหารสด สินค้าอุปโภคบริโภค ร้านค้าของเทสโก้ โลตัส บนเว็บไซต์ลาซาด้า ซึ่งมีสินค้ามากกว่า 12,000 รายการ อาทิ ผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก เครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม และร้านค้าของเทสโก้ โลตัส บนเว็บไซต์ weloveshopping.com ซึ่งมีสินค้ามากกว่า 4,000 รายการ
เทสโก้ โลตัส คลับการ์ด เปิดตัวในประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 โดยเป็นโปรแกรมบัตรสมาชิกสะสมแต้มโปรแกรมแรกและมีขนาดใหญ่ที่สุดในวงการค้าปลีก ปัจจุบัน เทสโก้ โลตัส คลับการ์ดมีสมาชิกมากกว่า 15 ล้านคนทั่วประเทศ ที่ได้รับสิทธิพิเศษต่างๆ เช่น คูปองเงินสด คูปองส่วนลด ไมล์สะสม และอื่นๆ ผ่านการสะสมแต้มจากการจับจ่ายใช้สอยในเทสโก้ โลตัส
นอกจากนั้น เทสโก้ โลตัส สนับสนุนเกษตรกรไทยผ่านการซื้อผักและผลไม้โดยตรงจากเกษตรกรปีละกว่า 150,000 ตัน นอกจากนั้นยังให้การสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและสินค้าโอท็อปอย่างต่อเนื่อง