เอสซีจีผนึกกระทรวงอุตฯ-กทม.
ขยายจุดบริการสุขา สวนสันติพร
หลังจากเอสซีจี ร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรม และกรุงเทพมหานคร ติดตั้งสุขาเพื่อประชาชนจุดแรก บริเวณท้องสนามหลวง ใกล้พระบรมมหาราชวัง ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีและมีประชาชนเข้ามาใช้บริการมากกว่า 5,000 คนต่อวัน จึงขยายความร่วมมือขยายจุดให้บริการสุขาเพื่อประชาชนจุดที่ 2 ณ สวนสันติพร (หน้ากองสลากเดิม) เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนโดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้พิการได้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากใกล้กับป้ายรถประจำทางและจุดจอดรถรับ-ส่ง โดยเปิดให้ใช้งานได้แล้ววันนี้
นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี กล่าวว่า “หลังจากที่เอสซีจีได้ร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรมและกรุงเทพมหานครเพื่อติดตั้งสุขาเพื่อประชาชนแห่งแรกที่บริเวณท้องสนามหลวง เราพบว่ามีประชาชนมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก เฉลี่ยกว่า 5,000 คนต่อวัน ทางทีมงานเอสซีจีรู้สึกยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการให้บริการประชาชนที่มาเข้าเฝ้าฯ กราบถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จึงร่วมแรงร่วมใจกันผลิตและติดตั้งสุขาเพื่อประชาชนแห่งที่ 2 บริเวณสวนสันติพร เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ประชาชน เนื่องจากเป็นจุดที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับป้ายรถประจำทางและจุดจอดรถสำหรับผู้ที่เดินทางมายังท้องสนามหลวง ซึ่งน่าจะช่วยให้รองรับการใช้งานของผู้สูงอายุและผู้พิการได้เป็นอย่างดี โดยสุขาแห่งนี้จะเปิดให้บริการแก่ประชาชนทั่วไปตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายนเป็นต้นไป”
ทั้งนี้ นายรุ่งโรจน์ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าสุขาเพื่อประชาชนแห่งที่ 2 ยังคงรักษามาตรฐานความสะอาดและคุณภาพของสุขาเช่นเดียวกับสุขาเพื่อประชาชนแห่งแรกที่ท้องสนามหลวง โดยเอสซีจีได้จัดเตรียมพนักงานทำความสะอาด 3 กะ รองรับการใช้งานของผู้ใช้บริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง จึงอยากเชิญชวนให้ผู้ที่เดินทางมายังพื้นที่สนามหลวง โดยเฉพาะสตรี ผู้สูงอายุและผู้พิการ ได้แวะมาใช้บริการสุขา ณ จุดนี้ เพราะจุดที่ตั้งซึ่งอยู่นอกพื้นที่สนามหลวงทำให้สามารถเดินทางมาใช้งานได้อย่างสะดวกง่ายดาย ไม่ต้องเดินผ่านฝูงชน โดยสุขาเพื่อประชาชนจุดที่สองจะมีจำนวนห้องสุขาหญิงมากกว่าจำนวนห้องสุขาชาย และรองรับการใช้งานได้พร้อมกันครั้งละ 30 คน
“ทางเอสซีจีวางแผนจะเปิดให้บริการสุขาเพื่อประชาชนจุดที่สามบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เป็นจุดถัดไป ในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2559 ที่จะถึงนี้ รวมถึงจะก่อสร้างสำนักงานชั่วคราวซึ่งเป็นระบบเดียวกันสำหรับรองรับการใช้งานเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มาปฏิบัติหน้าที่ โดยสุขาทั้งหมดจะเป็นระบบน็อกดาวน์กึ่งถาวรที่สามารถเคลื่อนย้ายโครงสร้างไปติดตั้งในสถานที่อื่นๆ ได้ หากจะมีการปิดพื้นที่ท้องสนามหลวงเพื่อสร้างพระเมรุมาศ”
ด้านนางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า “โครงการนี้เกิดจากความร่วมมือของทั้ง 3 ฝ่าย ได้แก่ กระทรวงอุตสาหกรรม เอสซีจี และกรุงเทพมหานคร ซึ่งหลังจากที่การติดตั้งสุขาเพื่อประชาชนจุดแรกได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากประชาชน ทางกระทรวงอุตสาหกรรมจึงได้ขยายความร่วมมือกับเอสซีจีเพื่อติดตั้งสุขาจุดที่ 2 เพื่อตอบโจทย์การใช้งานของประชาชนที่เดินทางมา ท้องสนามหลวงที่มีจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้การที่สุขาจุดดังกล่าวตั้งอยู่นอกพื้นที่ท้องสนามหลวงและใกล้กับจุดจอดรถ จึงน่าจะช่วยกระจายจำนวนผู้ใช้บริการและทำให้ผู้สูงอายุและผู้พิการเดินทางมาใช้งานได้สะดวก”
พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า “การติดตั้งสุขาเพื่อประชาชนในจุดที่สองบริเวณสวนสันติพรแห่งนี้จะช่วยให้รองรับความต้องการใช้งานของประชาชนได้ดียิ่งขึ้น ทำให้ประชาชนทั่วไปสามารถใช้บริการสุขาได้จากทั้งด้านนอกและด้านในสนามหลวง อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความสะดวกสบายเรื่องการใช้งานสุขาให้กับผู้สูงอายุและผู้พิการ โดย กทม.จะยังคงสนับสนุนในด้านจัดเตรียมพื้นที่สำหรับการติดตั้งสุขา ดูแลรับผิดชอบการเติมน้ำ การขนถ่ายของเสียทุกวัน ทาง กทม. จึงขอเชิญชวนให้ประชาชนที่เดินทางมายังท้องสนามหลวงมาใช้บริการสุขา ณ จุดนี้ รวมทั้งขอความร่วมมือให้ผู้มาใช้บริการสุขาช่วยกันรักษาความสะอาดคนละไม้คนละมือเพื่อให้พี่น้องประชาชนทุกคนได้รับประสบการณ์ใช้งานที่ดีร่วมกัน”
นางสาวฮาฟีซา มะเย๊าะ หนึ่งในผู้พิการที่มาใช้บริการสุขาเพื่อประชาชน เปิดเผย ว่า “พวกเราอยากมาเข้าเฝ้าฯ กราบถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบริเวณท้องสนามหลวง แต่ก็พบว่าจำนวนห้องสุขาสำหรับผู้พิการในพื้นที่ท้องสนามหลวงค่อนข้างมีจำนวนจำกัดและประชาชนในพื้นที่สนามหลวงก็มีจำนวนมาก การที่มีสุขาเพื่อประชาชนจุดที่ 2 บริเวณสวนสันติพรจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายเรื่องการใช้สุขาให้กับกลุ่มคนพิการได้เป็นอย่างมาก เนื่องจากอยู่ใกล้กับจุดจอดรถ เดินทางมาใช้บริการได้ง่าย นอกจากนี้ตัวสุขาก็มีขนาดกว้างขวาง มีทางลาดสำหรับเข้าห้องสุขา และมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการอย่างเหมาะสม เหมาะผู้ใช้งานทุกกลุ่มอย่างแท้จริง จึงอยากแนะนำให้เพื่อน ๆ ที่จะเดินทางมาเข้าเฝ้าฯ ที่ท้องสนามหลวงให้มาลองใช้สุขาตรงจุดนี้”
ทั้งนี้ การผลิตสุขาเพื่อประชาชนระบบน็อกดาวน์ดังกล่าวเป็นการรวมตัวกันของสินค้านวัตกรรมของเอสซีจีและคู่ธุรกิจ 13 บริษัท โดยได้ดัดแปลงจากโครงสร้างระบบโมดูลาร์ของ SCG Heim ประกอบเข้ากับระบบหลังคา ผนัง สมาร์ทบอร์ด และวัสดุก่อสร้างต่างๆ ของเอสซีจีรวมทั้งกระเบื้องเซรามิค สุขภัณฑ์และระบบห้องน้ำของ COTTO และผนังกั้นห้องน้ำสำเร็จรูป Willy รวมทั้งใช้เหล็กของ SYS ทำบันไดสุขาและทางลาดสำหรับผู้พิการ โดยเอสซีจีพยายามให้มีการผลิตและติดตั้งงานระบบไฟฟ้าและสุขาภิบาลให้เสร็จสมบูรณ์จากภายในโรงงานให้มากที่สุด เพื่อย่นระยะเวลาการประกอบและติดตั้ง จากนั้นจึงขนส่งโดยรถบรรทุกมายังท้องสนามหลวง ตั้งแต่คืนวันที่ 10 พ.ย. 59 ก่อนทำการประกอบติดตั้งให้แล้วเสร็จ ด้วยทีมงาน 150 คน ที่ร่วมมือกันผลิต ประกอบ และติดตั้งสุขา