ส.ธุรกิจสร้างบ้านมอง60โต10%
ชูสมาชิกสู่สมาร์ทเอนเทอร์ไพรซ์
สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน คาดการณ์ปี 2560 ธุรกิจรับสร้างบ้านยังเติบโตได้ราว 10% มูลค่ารวม 11,000 ล้านบาท ผลจากปัจจัยบวกที่เป็นปัจจัยภายในและภายนอก ระบุ ภาครัฐคาดการณ์เศรษฐกิจประเทศยังมีการเติบโตระดับ 3.2-3.4% โครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่มีความชัดเจนขึ้น การกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐลงถึงระดับครัวเรือน รวมถึงด้านท่องเที่ยว ด้านธุรกิจรับสร้างบ้านปรับตัวตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่สื่อสารผ่านออนไลน์เพิ่มขึ้น มุ่งดันสมาชิกสู่ “สมาร์ทเอนเทอร์ไพรซ์” ปรับปรุงช่องทางสื่อสาร ข้อมูล อำนวยความสะดวกแก่ผู้บริโภคเพิ่ม
นายพิชิต อรุณพัลลภ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน (HBA :Home Builder Association) เปิดเผยภาพรวมในปี2560 ตลาดธุรกิจรับสร้างบ้านยังมีเติบโต โดยกล่าวว่า จากการที่ภาครัฐคาดการณ์เศรษฐกิจประเทศยังมีการเติบโตระดับ 3.2-3.4% ความคืบหน้าของโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่มีความชัดเจนขึ้นภายหลังการประมูลเสร็จ ส่งผลให้มีเม็ดเงินในโครงการต่าง ๆ เพิ่มเป็นเท่าตัว การผ่อนคลายของกำลังซื้อหลังจากหมดมาตรการรถคันแรก การสนับสนุนกำลังซื้อภาคครัวเรือนของรัฐบาล การกระตุ้นท่องเที่ยวและเพิ่มลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปี 2560 และอัตราดอกเบี้ยที่เป็นต้นทุนการเงินยังอยู่ในระดับต่ำ จากการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% ทำให้ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์เป็นบวก เช่นเดียวกับตลาดธุรกิจรับสร้างบ้าน
ทั้งนี้ตลาดปลูกสร้างบ้านเองในกรุงเทพฯและปริมณฑล (ไม่ผ่านโครงการจัดสรร)มีมูลค่าราว 45,000-50,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นของธุรกิจปลูกสร้างบ้านราว 10,000-11,000 ล้านบาท หรือมีสัดส่วนประมาณ20% ของมูลค่ารวม ส่วนที่เหลือ 80% เป็นการว่าจ้างผู้รับเหมาทั่วไป
ในปี 2558 ตลาดธุรกิจรับสร้างบ้านอยู่ที่ 10,080 ล้านบาท ปี2559 ตั้งเป้าไว้ที่ 12,000 ล้านบาทแต่ไปไม่ถึงเป้าอยู่ที่ 10,200 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 23%
สำหรับในปี 2560 คาดว่าธุรกิจรับสร้างบ้านจะเติบโต 10% มูลค่ารวม 11,000 ล้านบาท โดยนอกจากปัจจัยบวกที่เป็นปัจจัยภายนอกดังข้างต้นแล้ว ยังมีแรงหนุนจากปัจจัยภายใน โดยหลังจากพบว่า ผู้บริโภคมีการเข้าถึงข้อมูลผ่านช่องทางสื่อออนไลน์มากขึ้นทุกปี ทางสมาคมฯจึงได้ปรับปรุงพัฒนาเวบไซต์เพิ่ม www.hba-th.org เพื่อเพิ่มโอกาสผู้บริโภคเข้าถึงข้อมูลของสมาคมในรูปแบบของ One-Stop-Service
ขณะเดียวกันได้ข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้จากสมาคมฯ บรรดาผู้ประกอบการบริษัทรับสร้างบ้านที่เป็นสมาชิกฯได้นำข้อมูลต่าง ๆ ไปปรับใช้เพื่อกำหนดกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ โดยแต่ละรายมีการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง ปรับปรุงให้เป็นสมาร์ทเอนเทอร์ไพรซ์เพิ่มขึ้น ยกระดับการบริการ อำนวยความสะดวกแก่ผู้บริโภค โดยเน้นช่องทางการสื่อสารผ่านออนไลน์ เฟซบุ๊กหรือผ่านโซเชียลมีเดีย ทำให้การสื่อสารกับลูกค้าเก่าและใหม่ทำได้ง่ายขึ้น
รวมถึงการให้ความสำคัญด้านการสื่อสารหรือให้ข้อมูลและสร้างการรับรู้แบรนด์กับลูกค้าผ่านอินเตอร์เน็ตหรือโซเชียลมีเดีย สร้างความแตกต่างของธุรกิจรับสร้างบ้านให้ผู้บริโภครับรู้ว่า ไม่ใช่เพียงแค่สร้างบ้านเท่านั้น แต่เป็นการสร้างคุณภาพชีวิต เป็นการให้บริการอย่างครบวงจร แก้ไขปัญหาในอดีตให้ดีขึ้น ซึ่งถือว่าได้ผลค่อนข้างดี
นอกเหนือจากนั้นทางสมาคมฯยังเพิ่มพูนความรู้ ยกระดับการดำเนินธุรกิจให้กับสมาชิกของสมาคมฯ อาทิ จัดอบรมสัมมนา “ISO 9001 : 2015 Quality Management Systems” ให้กับสมาชิกของสมาคม เพื่อส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบคุณภาพ มาตรฐาน ISO 9001 ซึ่งเป็นการแก้ไขปรับปรุงมาตรฐาน ISO 9001 : 2008 Quality Management Systems ซึ่งเป็นมาตรฐานที่มีความสำคัญยิ่งสำหรับผู้ประกอบการและองค์กรต่าง ๆ ทั้งภาคการผลิตและการบริกาารในระดับสากล รวมทั้งนำสมาชิกไปเยือนพันธมิตร บริษัท ต่างประเทศ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลในด้านต่าง ๆ