นักวิชาการชู “โคเอ็นไซม์คิว-10”
ความหวังลดเสี่ยงรักษาโรคหัวใจ
“โคเอ็นไซม์คิว-10 ” ชื่อนี้อาจเคยได้ยินกันมาบ้าง จากผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพและความงาม ซึ่งมีการนำคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระมาใช้ประโยชน์ช่วยชะลอวัย ลดเลือดริ้วรอย ขณะนี้นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญมีความหวังที่จะนำสารตัวนี้มาใช้ลดความเสี่ยงและรักษาโรคหัวใจด้วยในอนาคต ซึ่งโรคนี้ถือเป็นมัจจุราชร้าย 1 ใน 5 โดยเมื่อเร็ว ๆนี้ สมาคมโคเอ็นไซม์คิว-10 นานาชาติ ร่วมกับบริษัทฟาร์มา นอร์ด เอส.อี.เอ. จำกัดได้จัดประชุมหัวข้อ “กระบวนทัศน์ใหม่..สู่ความก้าวหน้าในการรักษาโรคหัวใจ?” มีบุคลากรวงการแพทย์เข้าร่วมหารือราว200 คน
ทั้งนี้ นพ.ถาวร สุทธิไชยากุล นายกสมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานพิธีเปิดงานประชุมวิชาการนานาชาติ “กระบวนทัศน์ใหม่ .. สู่ความก้าวหน้าในการรักษาโรคหัวใจ?” (New Cardiology treatment-a shift of Paradigm? A Breakthrough in Cardiology?) ซึ่งมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านโคเอ็นไซม์คิว-10 หลายท่านร่วมให้ความรู้
ประกอบด้วย ศ.พลาซิโด นาวาส (Placido Navas) จากสเปน, นพ.ปีเตอร์ แลงส์เจน (Peter Langsjoen) จากสหรัฐฯ,ศ.แฟรงเคลิน โรเซนเฟลท์ จากออสเตรเลียและ ศ.เออร์บาน อเลฮาเกน จากสวีเดน โดยมี พญ.คุณหญิง มัลลิกา วรรณไกรโรจน์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหัวใจและหลอดเลือดเป็นผู้ดำเนินการบรรยาย
พญ.คุณหญิง มัลลิกา เปิดเผยว่า โคเอ็นไซม์คิว-10 ได้ถูกนำมาใช้ทางการแพทย์และการดูแลรักษาสุขภาพมายาวนานในนานาประเทศทั่วโลก ในรูปของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดยโคเอ็นไซม์คิว-10 เป็นสารคล้ายวิตามินที่ละลายในไขมันได้ดี จัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่พบในทุกเซลล์ของสิ่งมีชีวิต การนำมาใช้ประโยชน์ในปัจจุบันจึงมุ่งใช้ช่วยชะลอวัยและใช้ลดเลือนริ้วรอย
ขณะเดียวกันการที่สารโคเอ็นไซม์คิว-10 ทำหน้าที่สำคัญคือ สร้างพลังงานให้แก่ร่างกาย จึงกลายเป็นสารจำเป็น เพราะหากร่างกายขาดสารชนิดนี้ ไปจะส่งผลทำให้ร่างกายขาดพลังงาน จำเป็นต่ออวัยวะที่ต้องทำงานอย่างหนักตลอดเวลา หรืออวัยวะที่ต้องใช้พลังงานสูงอย่างมาก เช่น หัวใจ ตับ หรือไต เป็นต้น
ด้านศ.พลาซิโด นาวาส จากประเทศสเปน เปิดเผยว่า นักวิจัยทำการศึกษาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า โคเอ็นไซม์คิว-10 ซึ่งเป็นสารคล้ายวิตามิน สามารถการเสียชีวิตจากโรคหัวใจได้ถึง 43% โดยใช้เพิ่มเติมร่วมกับการรักษาโรคหัวใจล้มเหลว
นอกจากนี้ยังมีการศึกษาอื่น ๆ ที่ให้ผลคล้ายกัน ทำให้เห็นได้ว่า สารอาหารที่มีความจำเป็นชนิดนี้มีศักยภาพที่จะเป็นกลยุทธ์ทางการรักษาใหม่เพื่อที่จะลดการเสียชีวิต เพิ่มคุณภาพชีวิตและลดการพักรักษาตัวในโรงพยาบาลเนื่องจากโรคหัวใจได้
ทั้งนี้แพทย์โรคหัวใจ นอกจากรักษาผู้ป่วยแล้ว ภารกิจสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ การติดตามพัฒนาการ ความรู้ ความก้าวหน้าทางการรักษาโรคหัวใจให้ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา ซึ่งยาที่ใช้รักษาโรคหัวใจแบบเดิม ๆ ที่มีมานานหลายทศวรรษ ออกฤทธิ์โดยการยับยั้งกระบวนการทำงานในระดับเซลล์และเป็นที่ทราบกันว่า ยังมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นจากการใช้ยา
“แต่สารอย่างโคเอ็นไซม์คิว-10 มีความปลอดภัยและปราศจากผลข้างเคียงใด ๆ สามารถที่จะเติมเต็มภาวะขาดแคลนโคเอ็นไซม์คิว-10 ในร่างกายและปรับปรุงกระบวนการสร้างทำงานทางชีวภาพ ช่วยให้แรงบีบตัวของหัวใจที่ขาดแคลนพลังงานสามารถทำงานได้ดีขึ้น โดยผลจากการวิจัยพบว่า การใช้สารที่เป็นธรรมชาตินี้สามารถที่จะปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรคหัวใจล้มเหลวให้ดีขึ้นได้อย่างน้อย 1 ระดับหรือมากกว่านั้น โดยการวัดเกณฑ์ NYHA classes “
ศ.นาวาสกล่าวอีกว่า “สิ่งหนึ่งที่สนับสนุนให้นำโคเอ็นไซม์คิว-10 มาใช้เพื่อเป็นความหวังใหม่ทางการรักษา เนื่องจากสารชนิดนี้เป็นสารที่อยู่ในกระบวนการทางชีวเคมีตามธรรมชาติของร่างกายมนุษย์อยู่แล้ว มันไม่ได้มาจากสารสังเคราะห์ขึ้นใหม่ แต่เป็นสารที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อใช้ในการทำงานของเซลล์ทุกเซลล์ในภาวะปกติ และเป็นที่ชัดเจนอยู่แล้วว่า โดยเฉพาะเซลล์กล้ามเนื้อของหัวใจนั้นต้องอาศัยสารตัวนี้ในการสร้างพลังงานเพื่อการทำงานของหัวใจที่สมบูรณ์
จากผลการศึกษาต่าง ๆ ที่ใช้โคเอ็นไซม์คิว-10 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันพบว่า โคเอ็นไซม์คิว-10 อาจสามารถใช้เพิ่มเข้าไปในการรักษาและมีประสิทธิภาพและความปลอดภัย แม้จะใช้ต่อเนื่องเป็นระยะนาน”
โดยภาพรวมจึงน่าสนใจว่า แม้ “โคเอ็นไซม์คิว-10” ยังมีการนำมาใช้เป็นเหมือนผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แต่หากนำมาใช้ร่วมกับการรักษาโรคหัวใจทั่วไปในปัจจุบันน่าจะทำให้เกิดการรักษาที่ดีขึ้นได้ในอนาคต ซึ่งจำเป็นต้องมีการศึกษาวิจัยเพิ่มเติมต่อไป
นอกจากนี้ โคเอ็นไซม์คิว-10 ยังส่งผลดีต่อผู้รับประทานยาลดไขมันกลุ่ม statin ด้วย เนื่องจากยากลุ่มนี้ไปรบกวนการสร้าง คเอ็นไซม์คิว-10ของร่างกาย ทำให้มีสารนี้ลดลงจนส่งผลกระทบต่อร่างกาย การเสริมโคเอ็นไซม์คิว-10 จึงช่วยลดผลข้างเคียงจากยาที่มีผลต่อระบบกล้ามเนื้อได้อีกอย่างหนึ่ง
พญ.คุณหญิง มัลลิกา กล่าวเสริมว่า “โคเอ็นไซม์คิว-10 เป็นสารที่ร่างกายของคนเราผลิตเองได้ แต่ผลิตได้น้อยลงเมื่ออายุมากขึ้นจึงต้องมีการเสริม ซึ่งในไทยที่นำมาใช้เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เป็นโคเอ็นไซม์คิว-10 ที่ได้มาจากธรรมชาติโดยการหมักยีสต์ และมีการนำมาใช้เสริมการรักษาตามโรงพยาบาลต่าง ๆ อยู่แล้ว
ก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่า จะมีผลการศึกษาใดมาช่วยสนับสนุนให้ “โคเอ็นไซม์คิว-10” ถูกยกระดับมาเป็นยารักษาโรคหัวใจอย่างเป็นทางการในอนาคต ซึ่งจะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตลงได้ โดยปัจจุบันโรคนี้ถือเป็นมัจจุราชร้าย 1 ใน 5 มีผู้ป่วยต้องจบชีวิตลงราว 7 คนต่อชั่วโมง