TCC LAND ทุ่มงบกว่า6พันล้าน
ผุดโครงการตลาดกลางค้าอาเซียน
บริษัท ทีซีซี แลนด์ แอสเซ็ทเวิร์ล จำกัด (TCC Land Asset World) เล็งเห็นศักยภาพของกลุ่มผู้ผลิต และผู้ประกอบการทั้งในประเทศไทยและแถบภูมิภาคอาเซียน ผุดบริษัทในเครือ บริษัท ตลาดต่อยอด เออีซี จำกัด พร้อมเปิดตัว “โครงการตลาดต่อยอด เออีซี เทรดเซนเตอร์” ศูนย์กลางการค้าแห่งภูมิภาคอาเซียนบนพื้นที่กว่า 3 แสนตรม. จ.อยุธยา รวมสินค้าบริการหลากหลายจากผู้ผลิต และผู้ประกอบการทั่วประเทศ ตลอดจนสินค้านำเข้าจากเพื่อนบ้านเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ผลิต ผู้นำเข้า ส่งออก เจ้าของธุรกิจ การค้าส่ง การค้าปลีก ผู้ขายสินค้าออนไลน์ ลูกค้าองค์กร ตลอดจนเปิดโอกาสและส่งเสริมให้ธุรกิจทุกระดับได้ค้าขายในระดับประเทศและนานาชาติ สอดรับนโยบายเปิดตลาดสู่เออีซี คาดเสร็จปี 2017
โสมพัฒน์ ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท TCC Land Asset World กล่าวว่า “กลุ่มบริษัท ทีซีซี แลนด์ แอสเซ็ทเวิร์ล เล็งเห็นถึงศักยภาพของกลุ่มผู้ผลิต และผู้ประกอบการทั้งในประเทศไทย และประเทศในแถบภูมิภาคอาเซียน ซึ่งมีจุดเด่นที่แตกต่าง มีความหลากหลายน่าสนใจมาก จึงได้ก่อตั้ง “ตลาดกลางการค้าแห่งภูมิภาคอาเซียน AEC Trade Center” เพื่อเติบโตสร้างความเติบโตต่อยอดสู่การเป็นศูนย์กลางการค้าระดับอาเซียนบนพื้นที่ 150 ไร่ ที่อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ด้วยงบประมาณ การลงทุนกว่า 6 พันล้านบาท และได้รวบรวมสินค้าบริการหลากหลาย จากผู้ผลิตและผู้ประกอบการทั่วประเทศ ตลอดจนสินค้านำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ครอบคลุมทุกกลุ่มสินค้า ซึ่งถือเป็นหนึ่งในตลาดการค้าที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคบนพื้นที่การค้ากว่า 300,000 ตารางเมตร เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ผลิต ผู้นำเข้า ส่งออก เจ้าของธุรกิจ พ่อค้าส่ง ค้าปลีก ผู้ขายสินค้าออนไลน์ ลูกค้าองค์กร เรียกได้ว่าเป็น sourcing hub ของประเทศ เป็นตลาดกลางการค้าสินค้าอุตสาหกรรมแห่งแรกของประเทศ ที่จะครอบคลุมกลุ่มสินค้าและบริการที่มากที่สุด คาดว่าโครงการนี้จะแล้วเสร็จในปี 2017
“ตลาดกลางการค้าแห่งภูมิภาคอาเซียน AEC Trade Center” มีเป้าหมายหลัก คือ การเป็นศูนย์กลางการค้าระดับอาเซียน เพื่อเตรียมพร้อมรุกตลาดโลกด้วยคุณภาพสินค้า การจัดการ และการบริหารที่ทัดเทียมนานาชาติ โดยเป็น Market platform ที่ตอบโจทย์วิสัยทัศน์เชิงนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจ Thailand 4.0 ได้อย่างเป็นรูปธรรมชัดเจน เนื่องจากมีการเชื่อมโยงผู้ค้า ผู้ประกอบการให้เข้ากับช่องทางตลาด Online ซึ่งจะช่วยเพิ่มช่องทางการจำหน่าย หรือที่เรียกว่า multi-marketing channels ควบคู่ไปกับช่องทางตลาด Offline ตลอดจนมีบริการสนับสนุนที่จะเป็นเครื่องมือช่วยผู้ประกอบการต่อยอดธุรกิจได้อย่างสะดวกสบาย และสมบูรณ์แบบครบวงจรมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นบริการขนส่ง โกดังเก็บของ บริการออกแบบทั้งผลิตภัณฑ์ และบรรจุภัณฑ์ บริการข้อมูลทางการค้า การจัดอบรมและสัมนาให้ความรู้ สร้างอาชีพแก่ผู้ประกอบการ ทั้งหมดนี้เพื่อเดินหน้าผลักดันวงการธุรกิจ โดยเฉพาะ SMEs ของประเทศไทย ให้มีช่องทางจัดจำหน่ายและค้าขายสินค้าที่เปิดกว้างมากขึ้น ตลอดจนเปิดโอกาสให้กับนักธุรกิจทั้งหน้าใหม่และเก่าในทุกระดับ ได้มีโอกาสจัดแสดงสินค้า เกิดช่องทางใหม่ในการสร้างรายได้ และยกระดับแบรนด์เพื่อก้าวเข้าสู่การแข่งขันในตลาดสากล โดยเฉพาะธุรกิจกลุ่ม SME รุ่นใหม่จะได้มีโอกาสเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายทั้งในระดับประเทศและระดับโลก
ทั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากภาครัฐบาล และเอกชน อาทิ กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม, กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าต่างประเทศ, กระทรวงวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี โดย สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) สมาคมการค้าส่ง-ปลีก ททท. สายการบินชั้นนำ SME Development Bank และ ธนาคารเอกชนอีกมากมายเพื่อยกระดับ สร้างศักยภาพให้กับ SMEs ของประเทศไทย และเม็ดเงินหมุนเวียนกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศให้ดีพัฒนาสู่ความมั่นคงยิ่งขึ้น
โครงการดังกล่าว เป็นการวางรากฐานในตลาดต่อยอด ตลอดจนแผนธุรกิจในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยจะขยายตลาดสู่ 3 ทำเลทองของประเทศไทย ได้แก่ ภาคกลาง – กรุงเทพฯ ตอนบน, ภาคเหนือ – เชียงใหม่ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งทำเลที่กล่าวมาข้างต้นนี้ เรียกได้ว่าเป็นประตูสู่อาเซียนอย่างแท้จริง เป็นศูนย์กลางสำหรับธุรกิจการค้าระหว่างภูมิภาคและระหว่างอาเซียน โดยคาดว่าในปี 2025 จะมีโครงการครอบคลุมครบทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ภายใต้แนวคิด “เติบโตไปด้วยกัน ต่อยอดไปได้ไกล” กับแผนธุรกิจแห่งอนาคต
