นอนไหนดี.. ‘บุศยารีสอร์ท’
ร่มรื่น..อบอุ่น เหมือนบ้าน
ท่ามกลางชีวิตวุ่น ๆ ยุ่ง ๆ อยู่กับการทำงาน ย่อมมีวันที่จะอ่อนล้า หลายคนมักมองหามุมพักผ่อนที่สงบ เพื่อหวังปลีกวิเวก ผ่อนคลาย ปล่อยชีวิตสโลว์ไลฟ์ สบาย ๆ เพื่อชาร์จแบตเตอรี เติมพลังชีวิตให้กับตัวเอง คอลัมน์ “นอนไหนดี” มีรีสอร์ท เมืองพระปฐมเจดีย์ ใกล้กรุงเทพฯมาแนะนำให้ลองไปเยี่ยมเยือน มีชื่อว่า “บุศยารีสอร์ท” มาแล้วไม่ผิดหวังแน่ เพราะให้คุณได้ใกล้ชิดธรรมชาติ ความร่มรื่น สงบ อบอุ่นเหมือนอยู่ที่บ้าน เหมาะสำหรับเป็นที่พักผ่อนของคนทุกวัย
ดร.ณัฐพัชญ์ เอกสิริชัยกุล ผู้จัดการ “บุศยารีสอร์ท” ผู้บริหารรุ่นใหม่เปิดเผยว่า รีสอร์ทและร้านอาหารบุศยา ตั้งอยู่บนพื้นที่ 20 ไร่ เลขที่ 91 หมู่ 4 ตำบล วังตะกู อำเภอเมืองนครปฐม เพิ่งเปิดดำเนินการมาได้ประมาณ 9 เดือน ราวกลางปี 2559 หลังจากใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี
รีสอร์ทแห่งนี้ ถือกำเนิดจากความรักของคนในครอบครัวที่มีฐานะปานกลาง คุณพ่อคุณแม่ คือ คุณสมชัย และ คุณบุศยา อนุเอกจิตร อยากให้ลูกๆ ได้อยู่ร่วมกัน ทำงานร่วมกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ส่วนพี่น้องก็ร่วมกันบริหารด้วยความรักในงานบริการในสายงานที่แต่ละคนถนัด เป็นการบริหารแบบเกื้อกูลกันและได้ใช้ชื่อของคุณแม่ “บุศยา” เป็นชื่อรีสอร์ทและร้านอาหาร
นอกจากนี้คุณพ่อคุณแม่ยังตั้งใจทำสถานที่แห่งนี้ขึ้นมาเพื่อให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนแห่งหนึ่งของจังหวัดนครปฐม ให้คนนครปฐมได้ร่วมภูมิใจว่า มีสถานที่พักผ่อนสวยงามที่จะเป็นหน้าตาสามารถพาแขก เพื่อนฝูง ครอบครัวมาได้ เป็นอนุสรณ์ผลงานแห่งความภาคภูมิใจชิ้นนึงของคุณพ่อคุณแม่ที่ทิ้งไว้ให้กับลูกหลานและเมืองนครปฐม
“บุศยารีสอร์ทและร้านอาหารบ้านบุศยามีต้นกำเนิดจากความรักความอบอุ่น ไม่ใช่เพราะต้องการเงินทองหรือความร่ำรวยเป็นหลัก แต่เพราะความรักในสิ่งที่ทำ ความรักในคนที่เราทำงานด้วย และความรักในงานบริการที่อยากจะมอบสิ่งที่ดีที่สุดที่เราสามารถทำได้ให้กับลูกค้า ให้ได้อยู่ในสถานที่ที่อยู่แล้วรู้สึกสบาย
นอกจากนี้ยังได้ทานอาหารที่มีคุณภาพทั้งรสชาติความอร่อยและความสวยงามของอาหารที่ปรุงอย่างพิถีพิถันปราศจากผงชูรสและใช้ผักสวนครัวปลอดสารที่ปลูกเองเป็นหลัก เราถึงดูแลทุกคนเหมือนคนในครอบครัว อยากให้ทุกคนที่ได้มาแล้ว ได้รับความอบอุ่นแต่ยังคงความเป็นส่วนตัว ได้รับความสะดวกสบายผ่อนคลายจากโลกภายนอกที่วุ่นวาย เพื่อให้ได้รับความสุขทั้งทางกายและทางใจ”
นอกจากความเป็นมาที่อบอุ่นด้วยไอแห่งความรักแล้ว รีสอร์ทแห่งนี้ยังโดดเด่นด้านการออกแบบตกแต่ง ที่มีการผสมผสานระหว่างจีน ไทย และโมร็อคแคนและพุทธอินเดีย
งานดีไซน์บ้านพักและอาคารโดยรอบเป็นสถาปัตยกรรมแบบไทยจีนร่วมสมัยผสมกลิ่นอายของโมร็อคแคน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้สี โครงสร้างอาคารที่เน้นความโปร่งสบาย การใช้วงกบหน้าต่างประตูทรงโค้งยอดแหลม มีการนำของสะสมมาใช้ในการตกแต่ง เช่น ตู้โชว์ไม้เก่าและชุดโต๊ะไม้แกะสลักแบบไทย ชุดโต๊ะมุกและแจกันแบบจีน รูปภาพที่สื่อถึงพุทธศาสนา เป็นต้น
นอกจากนั้นยังตกแต่งด้วยภาพเขียน (เทคนิคเกียงปาดสี) สถานที่สำคัญของจังหวัดนครปฐมไว้ในห้องพักและอาคารต้อนรับ เช่น ภาพองค์พระปฐมเจดีย์ ภาพองค์พระพิฆเนศที่อยู่ในพระราชวังสนามจันทร์ ภาพสถานีรถไฟนครปฐม ภาพดอกบัว
รีสอร์ท แบ่งเป็น 4 ส่วน ดังนี้คือ
- ส่วนต้อนรับและบ้านพัก
บ้านพักริมน้ำ (Waterside Villa) มี 15 หลัง แบ่งเป็น 3 ประเภท 1) Villa Twin เตียงคู่ ขนาด 50 ตร.ม. 2) Villa King เตียงเดี่ยว King Size ขนาด 50 ตร.ม. 3) Villa Deluxe เตียงเดี่ยว King Size ขนาด 54 ตร.ม.
บ้านพักแต่ละหลังมีเฟอร์นิเจอร์ คล้ายๆกัน แต่จัดวางและตกแต่งวัสดุอื่นต่างกัน ห้องพักกว้างขวาง การจัดช่องแสง การจัดวางบ้านพักให้ใกล้น้ำทำให้ได้รับความเย็นสดชื่น สระน้ำขุดจัดรูปทรงให้เข้าถึงได้ทุกหลัง
- ส่วนห้องอเนกประสงค์
ห้องอเนกประสงค์ ให้บริการจัดเป็นห้องฟังก์ชั่นสำหรับทำกิจกรรมต่างๆ เหมาะทั้งกิจกรรมกลางวัน เช่น รองรับกลุ่มแขกที่ชื่นชอบการเล่นโยคะ/ปฏิบัติธรรม ที่อาจรวมตัวกับมาพักผ่อนและฝึกโยคะ/ปฏิบ้ติธรรมไปด้วยกันในบรรยากาศที่สงบ หรือทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้ อาทิ ฝึกทำอาหาร งานเลี้ยงสังสรรค์ระหว่างเพื่อนฝูง
ห้องอเนกประสงค์ มี 3 ขนาด
- ห้องขนาด 12 *15 ม. หรือ 180 ตารางเมตร จัดแบบ Classroom ได้ถึง 200 ท่าน จัดโต๊ะจีนมีเวทีได้ 20-25 โต๊ะ สามารถตั้งโต๊ะจีนเพิ่มที่ระเบียงรอบห้องได้อีก 10 โต๊ะ
- ห้องขนาด 6*14 ม. หรือ 84 ตารางเมตร จัดแบบ Classroom ได้ถึง 80 ท่าน
- ห้องขนาด 6*12 ม. หรือ 72 ตารางเมตร สำหรับจัดเลี้ยงสังสรรค์ ประชุมกลุ่ม ได้ถึง 60 ท่าน ในลักษณะโต๊ะทานอาหาร ซึ่งห้องนี้อยู่ในตัวร้านอาหาร
- ส่วนร้านอาหาร “บ้านบุศยา”
- ส่วนพื้นที่อื่นๆ
- บริเวณบ่อน้ำที่ให้บริการเรือถีบ เรือพาย เลี้ยงอาหารปลา ซึ่งมีปลาหลากหลาย รวมทั้งปลาคร้าฟที่มีสีสันสวยงาม
- บริเวณโดยรอบรีสอร์ท สามารถขี่จักรยานที่เรามีไว้บริการ เพื่อออกกำลังกายและสูดอากาศดีๆให้เต็มปอด
- พื้นที่หลายจุด ใช้สำหรับปลูกผักสวนครัว ผลไม้ เช่น พริกหนุ่ม กระเพรา โหรพา ต้นหอม ตะไคร้ มะกรูด ถั่วพู อัญชัญ มะม่วง มะละกอ กล้วย มะพร้าว ขนุน เป็นต้น ที่เรานำมาทำอาหาร ทำขนม และทำน้ำดื่ม
- พื้นที่กิจกรรมสำหรับครอบครัว ประกอบด้วยโซนปลูกผัก โซนศิลปะ โซนสนามเด็กเล่น
ทำเลพื้นที่ตั้งโครงการนับว่า เงียบสงบ ล้อมรอบด้วยกลุ่มเกษตรกรรม เงียบสงบ ผ่านสวนไร่นา สำหรับผู้ที่นิยมท่องเที่ยวด้วยจักรยาน ยังสามารถใช้ google ช่วยนำทางขี่ท่องเที่ยวได้อย่างสบายๆ เพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์ หายใจได้เต็มปอด ห่างไกลจากมลพิษและควันรถ เป็นสภาพธรรมชาติที่เหมาะสำหรับการมาออกกำลังกายบริหารปอด
ในส่วนของร้านอาหารบุศยา ถือว่า มีความโดดเด่นไม่แพ้ส่วนรีสอร์ทเลยทีเดียว เสิร์ฟอาหารนานาชาติทั้งไทย ยุโรปและเบเกอรี การันตีความอร่อยโดยฝีมือของ คุณ พลพัฒน์ อนุเอกจิตร ผู้จัดการฝ่ายอาหารและเครื่องดื่ม ที่เป็นน้องคนที่4 ของดร.ณัฐพัชญ์ ที่ดั้นด้นไปศึกษาด้านเบเกอรี่และการบริหารครัว จาก Le Cordon Bleu Australia และยังฝึกฝนประสบการณ์จริงในการทำร้านอาหารจากประเทศออสเตรเลีย
เมื่อกลับมาเมืองไทย ยังไปเรียนเพิ่มเติมด้านอาหารไทยแท้ที่มหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยสวนดุสิต ที่เป็นโรงเรียนการเรือนแห่งแรกของประเทศไทย มีชื่อเสียงทางด้านสอนงานบ้าน งานเรือนสำหรับกุลสตรี ฯ และ การประกอบอาหาร ที่ดำเนินการมาตั้งแต่ พ.ศ.2477อีก
อาหารใช้วัสดุจากธรรมชาติ ปลอดสารพิษ ที่ปลูกเองเป็นส่วนใหญ่ภายในรีสอร์ท ตัวอย่าง เมนูเด็ดหาทานยาก ที่หากได้ชิมแล้ว ต้องติดใจ ทั้งคาวและหวาน เช่น หมี่กรอบปลาสลิดฟู, แกงรัญจวน, สะเต๊ะลือ, ส้มโอลอยแก้ว บัวลอยเผือกและอื่น ๆ อีกมากมาย
คุณธัญภา นิโครธานนท์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)สำนักงานสุพรรณบุรี (สุพรรณบุรี นครปฐม) กล่าวว่า “บุศยารีสอร์ท” มีความเป็นธรรมชาติ นักท่องเที่ยวที่มาเยือน สามารถมาเรียนรู้วิถีชีวิตชุมชน ปลูกผัก มาใช้ชีวิตครอบครัว ซึ่งตรงกับคอนเซ็ปต์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย “ท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋สไตล์ลึกซึ้ง” ที่ให้นักท่องเที่ยวมาเรียนรู้ สัมผัสความเป็นไทย ความเป็นธรรมชาติ
นักท่องเที่ยวเหมือนมาหาบ้านที่ 2 ที่มีความอบอุ่น หลีกหนีความแออัด ชีวิตที่เร่งรีบมาหาความเป็นธรรมชาติ สัมผัสต้นไม้ ปลูกผัก เลี้ยงปลา พายเรือ ปั่นจักรยาน ในวันหยุดสุดสัปดาห์เสาร์-อาทิตย์ หรือนักบริหารรุ่นใหม่ นักการตลาดรุ่นใหม่ ได้มาเรียนรู้ การบริหารงาน “การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์” ซึ่งคนกลุ่มนี้จะมองออกว่า การใช้ชีวิตอยู่ในเมือง หรือความเป็นเมือง เริ่มอิ่มตัวแล้ว
นอกจากนี้เมื่อมาพักที่บุศยารีสอร์ทแล้ว ยังสามารถไปเที่ยวชมสถานท่องเที่ยวสำคัญ ๆ ของเมืองนครปฐม อย่าง วัดพระปฐมเจดีย์ พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง หรือจะไปเดินเล่น “ตลาดนัดเครื่องบิน” หรือเชื่อมโยงไปท่องเที่ยวสถานที่อื่นๆ ใกล้เคียงได้อีก ในทริป 2 วัน 1 คืน เช่น ไปสุพรรณบุรี ราชบุรี เป็นต้น
ใครต้องการพักผ่อนสบาย ๆ สโลว์ไลฟ์ ใกล้ชิดธรรมชาติ อบอุ่นเหมือนบ้านหลังที่ 2 เชิญชวนมาเยือน “บุศยารีสอร์ท” กันได้ ช่วงโปรโมชั่น สำหรับ คนเขียนงาน วาดรูป ถ่ายพรีเวิดดิ้ง เพียงคืนละ 1,990 บาท (พักได้ 2 ท่าน พร้อมอาหารเช้า และ Complimentary drink)
ติดต่อสอบถามได้ที่