3 หน่วยงานMOU ร่วมมือวิจัย
พัฒนาท่องเที่ยวไทยสู่ยุค 4.0
พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร และพลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานร่วมในงาน Thailand Forum on Tourism Research Integration (TFTRI) การประชุมทางวิชาการเพื่อสร้างความร่วมมือด้านการวิจัย เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการของไทย ณ โรงแรมอโนมา แกรนด์ กรุงเทพมหานคร 3 หน่วยงาน สกว. กก.และสทท. MOU เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและเติบโตอย่างยั่งยืนไปในทิศทางเดียวกัน โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วยผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และภาคีเครือข่ายด้านการท่องเที่ยว จำนวนประมาณ 300 คน
พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกรและพลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี มอบนโยบายให้ทุกหน่วยงานเล็งเห็นถึงความสำคัญของการศึกษาวิจัยในการนำมาใช้ประโยชน์ในหลากหลายมิติ โดยเฉพาะการพัฒนาการท่องเที่ยวไทยเพื่อก้าวสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 พร้อมทั้งแสดงความชื่นชมในเจตนารมณ์ที่จะสร้างความร่วมมือระหว่าง 3 หน่วยงานในวันนี้ หลังจากนั้นจึงเป็นพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านวิชาการและการวิจัยระหว่าง 3 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (กก.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการพัฒนากรอบแนวคิดการวิจัยด้านการท่องท่องเที่ยวและการบริการ ตลอดจนการนำองค์ความรู้และผลจากการวิจัยไปใช้ประโยชน์ในมิติต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับความต้องการด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวบนฐานงานวิจัย ว่าเป้าหมายของกระทรวงฯ คือ ต้องการการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ เติบโตอย่างยั่งยืนไปในทิศทางเดียวกัน นั่นคือ ให้นักท่องเที่ยวเข้าใจและมีความสุขในการท่องเที่ยวอย่างแท้จริง เราจึงต้องหาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ให้ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวที่จะกลับมาเที่ยวอีก อยู่นานมากขึ้นและท่องเที่ยวแบบลงลึกมากขึ้น ขณะเดียวกันความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมก็เป็นเรื่องที่เราจะต้องช่วยกันดูแลรักษาธรรมชาติ น้ำ ป่าไม้ และจัดการขยะ รองรับสิ่งเหล่านี้ด้วยมือของเราเอง รวมถึงลดความเหลื่อมล้ำ กระจายรายได้ให้ตรงถึงผู้บริโภคไม่เฉพาะแต่เจ้าของโรงแรมหรือร้านอาหาร แต่คนส่วนใหญ่ของประเทศจะต้องได้รับการเฉลี่ยสุขจากการท่องเที่ยว ไม่ใช่แค่ร่ำรวยแต่ต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปได้
“สิ่งสำคัญคือ การสร้างคนและสร้างจิตสำนึกแก่คนรุ่นใหม่ ท่องเที่ยว 4.0 จะต้องเติบโตไปพร้อมกับนวัตกรรมโดยไม่ลืมอัตลักษณ์และวิถีความเป็นไทย จิตวิญญาณที่สั่งสมมาช้านานต้องอยู่กับการเติบโตของเทคโนโลยี คนรุ่นใหม่ต้องภาคภูมิใจในท้องถิ่นและความเป็นไทย นอกจากนี้จะต้องเติบโตไปพร้อมกับประเทศอื่นในอาเซียน ต้องมองในเชิงพื้นที่ให้มีความเชื่อมโยง เมืองใหม่ต้องดูแลเมืองรอบ ๆ สินค้าต้องมีคุณภาพ ในการแข่งขันทางการท่องเที่ยวนั้นอาเซียนเป็นทั้งเพื่อนและคู่แข่งขันที่เป็นคู่ค้า ดังนั้นมุมมองเดิม ๆ ต่อไปนี้จะไม่เหมือนเดิม เพราะเราจะก้าวสู่เวทีโลกแบบมีความรู้ รู้ลึก เรียนรู้และปฏิบัติไปด้วยกัน สิ่งที่เราเคยทำก็จะมีคนอื่นทำเช่นกัน เราเข้าสู่โหมดของการแข่งขันที่สูงขึ้น ณ วันนี้ต้องมีความรู้นำทาง ผู้ปฏิบัติด้วยใจ และนโยบายของภาครัฐ เพื่อรวมพลังกันทำงานแบบบูรณาการอย่างมีทิศทางและเป้าหมายเดียวกัน”
ภายหลังพิธีลงนาม นักวิจัย สกว.ได้นำเสนอแนวทางการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการประจำปีงบประมาณ 2561 จำนวน 11 กรอบงานวิจัย จาก 3 กลุ่ม ได้แก่
1) กลุ่มการท่องเที่ยวข้ามพรมแดน
2) กลุ่มการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และการท่องเที่ยวโดยชุมชน
3) กลุ่มการสร้างมูลค่าเพิ่มทางการท่องเที่ยว