นายกฯเยี่ยมชมงานวิจัยมอ.
ย้ำทุกส่วนร่วมดันThailand 4.0
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะประกอบด้วย ดร.อรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุธี มากบุญ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทย หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุลรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และอธิบดีกรมต่างๆ อีกหลายท่าน ร่วมเดินทางมาเยี่ยมชมผลงานวิจัยและนวัตกรรมของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และเครือข่ายมหาวิทยาลัยในภาคใต้ ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ โดยมีนายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาและหัวหน้าส่วนราชการ รศ.ดร.ชูศักดิ์ ลิ่มสกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พร้อมคณะผู้บริหารนักวิชาการมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ผู้สนใจ ตลอดจนนักศึกษาและนักเรียนรวมประมาณ 2,000 คน ให้การต้อนรับ
นายกรัฐมนตรีได้ปาฐกถาในหัวข้อ “การขับเคลื่อน Thailand 4.0 ในภาคใต้” ว่า การขับเคลื่อนThailand 4.0 ในภาคใต้ เป็นเป้าหมายของคนไทยและประเทศไทยที่จะไปให้ถึงอนาคต ซึ่งคนไทยทุกคนจำเป็นต้องช่วยกันและร่วมมือกันทำงานให้ไปถึงเป้าหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่อยู่ในวัยกำลังศึกษาในวันนี้ ซึ่งจะเป็นผู้ที่อยู่ในยุคของ Thailand 4.0 อย่างแท้จริงในวันข้างหน้า ทั้งนี้ Thailand 4.0 เป็นวิสัยทัศน์เชิงนโยบายของรัฐบาลที่จะเปลี่ยนระบบเศรษฐกิจของประเทศ ไทยจากรูปแบบเดิม ไปสู่รูปแบบใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประเทศไทยก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลาง เป็นประเทศที่มีรายได้สูงและกระจายไปสู่ทุกภาคส่วน โดยเปลี่ยนโมเดลเศรษฐกิจเป็น “ทำน้อย ได้มาก” ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม มุ่งสร้างสังคมคุณภาพ และมุ่งสู่การเป็นประเทศที่มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน
รัฐบาลจึงได้กำหนดวิสัยทัศน์ประเทศไทยเพื่อเปลี่ยนประเทศไปสู่ยุค Thailand 4.0 ทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศเศรษฐกิจใหม่ เป็นประเทศที่มีรายได้สูงขึ้น โดยเปลี่ยนจากการผลิตสินค้าโภคภัณฑ์ไปสู่สินค้านวัตกรรม เปลี่ยนจากการขับเคลื่อนประเทศด้วยภาคอุตสาหกรรมไปสู่การขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรม เปลี่ยนจากการเกษตรแบบดั้งเดิมไปสู่การเกษตรแบบสมัยใหม่เน้นเรื่อง การบริหารจัดการและการนำเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้มากยิ่งขึ้น ผู้ประกอบการเปลี่ยนจาก SMEs แบบเดิมไปสู่ Smart Enterprises และ Startup ที่มีศักยภาพสูง ในขณะที่แรงงานก็จะเปลี่ยนจากแรงงานทักษะต่ำไปสู่แรงงานที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญและทักษะที่สูงขึ้น
รัฐบาลมีแนวทางในการขับเคลื่อนนโยบาย Thailand 4.0 โดยมุ่งเน้นการใช้แนวทางพลังประชารัฐ คือ การมีส่วนร่วมของภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ชุมชน จังหวัด สถาบันการศึกษา และสถาบันวิจัยต่างๆ รวมทั้งยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและศาสตร์ของพระราชาเป็นพื้นฐานในการพัฒนา และใช้ความได้เปรียบของประเทศไทยในความหลากหลายเชิงชีวภาพ และความหลากหลายเชิงวัฒนธรรม เป็นปัจจัยสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ ตลอดจนยึดหลักการสร้างความเข้มแข็งจากภายใน และเชื่อมไทยสู่ประชาคมโลก ทั้งนี้ในปัจจุบันประเทศไทยกำลังเดินหน้าสู่ 4.0 โดยประเทศไทยได้เริ่มพัฒนาจาก 1.0 คือ การใช้แรงงาน ส่วน2.0 คือการนำเครื่องจักรกลขนาดเบามาใช้ในการผลิต 3.0 เป็นการใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่ และ4.0 เป็นการนำเทคโนโลยี และนวัตกรรมมาใช้เพื่อการพัฒนาประเทศ และการดำรงชีวิต
การจะพัฒนาประเทศไปสู่ 4.0 จึงเป็นการขับเคลื่อนร่วมกันตั้งแต่3.0 ,2.0 และ1.0 เป็นการปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิต เพื่อให้มีรายได้มากขึ้น ทั้งนี้ต้องปรับกระบวนการทั้งประเทศ การจะปรับเปลี่ยนประเทศไทย สู่ Thailand 4.0 นั้นจำเป็นต้องนำความรู้ ที่ได้จากผลงาการวิจัยและพัฒนาจากสถาบันอุดมศึกษามาใช้ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ประเทศ 84 ปีที่ผ่านมาเราไม่มียุทธศาสตร์ประเทศ เราติดกับดักตัวเอง เป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลาง ทั้งที่ธนาคารโลกได้แนะนำแล้ว แต่เราไม่ได้นำมาปรับแก้ เราต้องทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงให้ได้ ทั้งนี้ไม่ใช่ทำในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง แต่ต้องทำโดยภาพรวม การปรับเปลี่ยนระบบเศรษฐกิจสู่ยุคใหม่เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
พลเอกประยุทธ์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ขอชื่นชมมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งได้ก่อตั้งมา 50 ปี ในปี 2561 ตลอดระยะเวลา5 ทศวรรษมหาวิทยาลัย ได้ขับเคลื่อนการศึกษาทั้งด้วยงานวิจัยอันเป็นพื้นฐานในการทำให้เกิดนวัตกรรมต่างๆ โดยเฉพาะงานวิจัยที่เกี่ยวกับด้านการเกษตร เช่น นวัตกรรมยางพาราที่มีความโดดเด่น การศึกษาวิจัยเกี่ยวกับปาล์มน้ำมัน อาหารทะเล พลังงาน และวัสดุชีวภาพ เป็นต้น ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลจะนำไปสู่การปฏิบัติให้มากขึ้น และขับเคลื่อนงานวิจัยและพัฒนาสู่การผลิตให้ได้ ซึ่งภาคใต้ถือเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพมีอัตลักษณ์ของตนเอง มีความโดดเด่นและความหลากหลายทางด้านศิลปวัฒนธรรม ความงดงามของสถานที่ท่องเที่ยว และความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นความเข้มแข็งของภาคใต้ และสอดคล้องกับแนวทางการขับเคลื่อนนโยบาย Thailand 4.0 ของรัฐบาล สิ่งสำคัญต้องสร้างความปลอดภัยเกิดขึ้นในพื้นที่ให้ได้ สร้างความร่วมมือระหว่างกันเพื่อลดความขัดแย้งทางการเมือง สร้างการพัฒนาและสร้างการรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้อง เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนประเทศเดินหน้าต่อไปได้
“ขอความร่วมมือกับพลังทุกภาคส่วนในการร่วมกันพัฒนาภาคใต้ไปในทิศทางเดียวกัน โดยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์และบุคลากรของมหาวิทยาลัย จะเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของการพัฒนาภาคใต้ไปสู่ Thailand 4.0 และหวังว่านักศึกษา ซึ่งเป็นอนาคตของประเทศ จะเร่งศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับเป้าหมายของประเทศ สนับสนุนการดำเนินงานของฝ่ายต่างๆ รวมทั้งพยายามมองหาโอกาสจากสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นเพื่อพัฒนาตนเองและศึกษาเรียนรู้ในการทำกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นประโยชน์นอกห้องเรียน รู้จักคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ ปรับตัวเรียนรู้ให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงและใช้สื่อโชเชียลมีเดียอย่างรู้เท่าทัน รวมถึงการรู้จักใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ในทางสร้างสรรค์เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนประเทศไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 อันจะทำให้ประเทศมีความมั่นคง มั่นคั่งและยั่งยืนต่อไป”