กลุ่มจังหวัดร้อยแก่นสารสินธุ์จัด
มหกรรมแสดงผ้าไหมถิ่นอิสาน
ใครที่ชื่นชอบผ้าไทย ไม่ควรพลาดงานนี้ เมื่อกลุ่มจังหวัดร้อยแก่นสารสินธุ์ จัดงาน “ร้อยแก่นสารสินธุ์ 4 ลายศิลป์ ถิ่นแดนไหม” มหกรรมจัดแสดงและจำหน่ายผ้าไหม ผลิตภัณฑ์จากไหม นำผ้าไหมจาก 4 จังหวัดภาคอิสานมานำเสนอถึงกทม. พร้อมสินค้าเกษตรและอาหารแปรรูป สินค้าOTOP ร้านอาหารสุดแซ่บเกือบ 100 ร้านค้า ครั้งแรกกับการชมผ้าไหมที่ได้รับรางวัลทองคำพระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และผ้าไหมแพรวาพระราชินี มูลค่ากว่า 600,000 บาท พร้อมกิจกรรมภาคบันเทิงจากเหล่าศิลปินชื่อดังนำโดย ลำไยไหทองคำ วันนี้ถึง 24 กันยายน60 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และ 27 กันยายน – 1 ตุลาคมนี้ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา บางนา
นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ประธานการจัดงาน “ร้อยแก่นสารสินธุ์ 4 ลายศิลป์ ถิ่นแดนไหม” เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการยกระดับผ้าไหมกลุ่ม จังหวัดสู่การเป็นศูนย์กลางออกแบบผลิตภัณฑ์จากไหมในภูมิภาคกลุ่มจังหวัดร้อยแก่นสารสินธุ์ ประกอบไปด้วยจังหวัดร้อยเอ็ด ขอนแก่น มหาสารคาม และกาฬสินธุ์ โดยร่วมกันจัดงาน “ร้อยแก่นสารสิ นธุ์ 4 ลายศิลป์ ถิ่นแดนไหม” มหกรรมจัดแสดงและจำหน่ายผ้าไหม ผลิตภัณฑ์จากไหม สินค้าเกษตรและอาหารแปรรูปและผลิตภัณฑ์ OTOP ขึ้นระหว่างวันที่ 20 – 24 กันยายน 2560 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และระหว่างวันที่ 27 กันยายน-1 ตุลาคม 2560 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา บางนา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผ้าไหม และผลิตภัณฑ์จากไหมกลุ่มจังหวัด ร้อยแก่นสารสินธุ์ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย อีกทั้งเป็นการเพิ่มช่องทางการต ลาด สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้น ที่กลุ่มจังหวัดร้อยแก่นสารสิ นธุ์ เชื่อมโยงและสร้างเครือข่ายทางการค้าผลิตภัณฑ์ผ้าไหมและผลิตภัณฑ์ OTOP และเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นการผลิตผ้าไหมในแต่ละภูมิภาคให้มี การพัฒนาและรักษาไว้ให้สืบต่อไปยังรุ่นลูกรุ่นหลาน
ปัจจุบันผ้าไหม เป็นผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อและเป็นที่ ยอมรับในระดับสากล ถึงความประณีต งดงาม และบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ความเป็นไ ทย ซึ่งผ้าไหมแต่ละถิ่นจะมีความแตกต่างกัน ดัง “ผ้าไหมสาเกต” จากสาเกตนคร ชื่อในอดีตของเมืองร้อยเอ็ด ตั้งอยู่กึ่งกลางของภาคอีสานมานานกว่า 200 ปี ประชากรส่วนใหญ่มีอาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหมเป็นอาชีพเสริม และสืบทอดวัฒนธรรมทอผ้ามาจากบรรพบุรุษ ผ้าไหมสาเกตมีทั้งผ้าซิ่น ผ้าโสร่ง สไบ ผ้าพื้น ฯลฯ และผ้าไหมมัดหมี่ขึ้นชื่อ อาทิ ลายขอ ลายบักจับ ลายนาคน้อย และลายสาเกต เป็นต้น
“ผ้ามัดหมี่” จังหวัดขอนแก่น มีเอกลักษณ์เฉพาะทั้งการคัดเส้นไหม การออกแบบลายหมี่ การให้สี การทอ ทำให้มีความโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นลายกง ลายปลาซิว ลายนกเชิงเทียน ฯลฯ
นอกจากนี้ยังพลาดไม่ได้กับ “ผ้าไหมมัดหมี่ลา ยสร้อยดอกหมาก” อันขึ้นชื่อของจังหวัดมหาสารคาม ลายเก่าแก่ของบรรพบุรุษและถื อเป็นลายเอกลักษณ์ประจำจังหวั ดมหาสารคาม สุดท้ายเป็น “ผ้าไหมแพรวา” จังหวัดกาฬสินธุ์ ผ้าทอมือของชา วภูไท ที่ว่ากันว่าเป็นสุดยอดของผ้าไห ม ด้วยลวดลายอันวิจิตรงดงาม ทำให้มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้ จักในระดับโลก
โดยภายในงานมหกรรมจัดแสดงและจำห น่ายผ้าไหม ผลิตภัณฑ์จากไหมฯ “ร้อยแก่นสารสิ นธุ์ 4 ลายศิลป์ ถิ่นแดนไหม” ครั้งนี้ แบ่งออกเป็น 3 โซน ประกอบด้วย 1. โซนนิทรรศการ ครั้งแรกกับการโชว์ผ้าไหมได้รั บรางวัลทองคำพระราชทานจากสมเด็ จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และผ้าไหมแพรวาพระราชินี มูลค่ากว่า 600,000 บาท โชว์กา รเลี้ยงหม่อนไหม 2. ซุ้มสาธิต พบกับ การสาธิตการมัดหมี่ลายผ้าไหมของ 3 จังหวัด การทอผ้าแพราวาจากกาฬสินธุ์ 3.โ ซนจำหน่ายและการแสดงผ้าไหม ผลิตภัณฑ์จากไหม สินค้าเกษตรและอาหารแปรรูปขึ้ นชื่อ สินค้า OTOP ของดีจากจังหวัดร้อ ยเอ็ด ขอนแก่น มหาสารคาม และกาฬสินธุ์ ที่มีมาให้ได้เลือ กช้อปมากกว่า 50 ร้านค้า พร้อมขบวนร้านอาหารสุดแซ่บมาให้ เลือกทานมากกว่า 40 ร้านค้า และเพลิดเพลินกับการแสดง ศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านอีสานและมิ นิคอนเสิร์ตจากศิลปินลูกทุ่งชื่ อดัง นำโดย ลำไยไหทองคำ, จิ้งหรีดขาว วงษ์เทวัญ, รุ่ง สุริยา, หญิง ธิติกานต์, โอ๋ พจนา อาร์สยาม , การแสดงจากวงโปงลาง อินเตอร์ ฯลฯ
ทั้งนี้พิธีเปิดงาน “ร้อยแก่นสารสินธุ์ 4 ลายศิลป์ ถิ่นแดนไหม” มีขึ้นในวันที่ 21 กันยายน 2560 ที่ผ่านมา ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ไฮไลท์เป็นการเดินแฟชั่นโชว์นำโ ดยนางเอกระดับแนวหน้าของเมืองไท ยที่ชื่นชอบผ้าไหม “แพนเค้ก เขมนิจ” ในชื่อชุด “ FAME ” ซึ่งงดงามด้วยเส้นไหมที่มีกรร มวิธีการทอแบบขัด โดยใช้ไหม 2 เส้น คือ เส้นยืน 1 เส้น และพุ่ง 2 เส้น เป็นผ้าไหมจากจังหวัดขอนแก่น การทอประณีตสีเปลือกมังคุดและสี เทาเงิน บ่งบอกถึงความสง่างาม โดยได้รับแรงบันดาลใจจากคำว่า “รากเหง้าวัฒนธรรม” และ “สมบัติทางปัญญา” อันล้ำค่า นั่นคือ ทรัพพย์สินทางปัญญาและภูมิปัญญา ของไทยที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนา น โดยผสมผสานผ้าไหมไทยกับผ้าชนิ ดอื่นให้มีความสวยงาม ทันสมัยและกลมกลืนอย่างลงตัว โดยตอนท้ายของงาน นักแสดงสาวก็ได้มีโอกาสทดลองสาว ไหมและทอผ้าไหมด้วยตนเองเป็นครั้งแรก
การจัดงาน “ร้อยแก่นสารสินธุ์ 4 ลายศิลป์ ถิ่นแดนไหม” ครั้งนี้คาดว่าจะมี ผู้สนใจเช้าร่วมชมงานมากกว่า 20 ,000 คน/วัน และมีเงินสะพัดมากกว่า 12 ล้านบาท โดยขอเชิญชวนคนไทยทุกคน ร่วมชมและเลือกซื้อผ้าไหม ผลิตภัณฑ์จากไหม สินค้าเกษตรและอาหารแปรรูป สินค้า OTOP ในงาน “ ร้อยแก่นสารสินธุ์ 4 ลายศิลป์ ถิ่นแดนไหม ” ได้ในระหว่างวันที่ 20 – 24 กันยายน 2560 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และระหว่างวันที่ 27 กันยายน – 1 ตุลาคม 2560 ณ เซ็นทรัลพลาซา บางนา
ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่ม เติมได้ที่ เว็บไซต์ roiet.cdd.go.th และ Facebook พัฒนาชุมชนร้อยเอ็ด สพจ โทรศัพท์.043-511260