กรมชลฯ พัฒนาสู่องค์กรอัจฉริยะ
คว้า “บริหารทรัพยากรบุคคลดีเด่น61”
กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คว้าหน่วยงานบริหารทรัพยากรบุคคลดีเด่น ประจำปี 2561 จากมูลนิธิพันเอก จินดา ณ สงขลา ชี้เป็นหน่วยงานที่มีนวัตกรรมเพื่อรองรับและพัฒนางานประจำโดดเด่น นำเทคโนฯ IT มาใช้ประโยชน์ รวบรวมข้อมูล ประมวลผล ที่ทันสมัย เช่นในการอัตรากำลัง มีจัดทำระบบบริหารโครงการฝึกอบรมรูปแบบ Online พัฒนาศักยภาพบุคลากร
ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับการพิจารณาให้เป็นหน่วยงานบริหารทรัพยากรบุคคลดีเด่น ประจำปี 2561 จากมูลนิธิพันเอก จินดา ณ สงขลา ที่ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) จัดให้มีการคัดเลือกหน่วยงานและนักบริหารทรัพยากรบุคคลดีเด่นขึ้นเป็นประจำทุกปี ซึ่งพิจารณาจากผลการสำรวจความคิดเห็นและความพึงพอใจของข้าราชการที่มีต่อการทำงานด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล ประกอบกับการพิจารณาข้อมูลการดำเนินงานด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล และการพัฒนานวัตกรรมที่โดดเด่น ตลอดจนประโยชน์และผลลัพท์ที่เกิดขึ้นกับองค์กรในปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ กรมชลประทานเป็นหน่วยงานที่มีนวัตกรรมเพื่อรองรับและพัฒนางานประจำ รวมทั้งการปฏิบัติงานตามหน้าที่ประจำที่ต้องปฏิบัติตามกฎและระเบียบต่างๆที่โดดเด่น และสามารถเป็นแบบอย่างที่ดีได้ โดยที่ผ่านมาได้มีการเปลี่ยนแปลงงานด้านทรัพยากรบุคคลไปสู่ระบบดิจิทัลอย่างเต็มตัว เริ่มจากการพัฒนาฐานข้อมูลบุคลากรสู่ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (WAM – Web application to support manning analysis) มาใช้เป็นเครื่องมือในการรวบรวมข้อมูลประมวลผลอัตรากำลัง โดยวิเคราะห์จากกิจกรรม ข้อมูลปริมาณงาน และระยะเวลามาตรฐานในการปฏิบัติงาน จำแนกตามหน่วยงานและประเภทบุคคล ทำให้สามารถวิเคราะห์อัตรากำลังของข้าราชการ และพนักงานราชการได้ชัดเจนมากขึ้น รวมทั้งสามารถใช้ระบบหรือโปรแกรมดังกล่าว ในการปรับปรุงข้อมูลและวิเคราะห์อัตรากำลังให้ทันสมัยได้ตลอดเวลา
นอกจากนี้ กรมชลประทานได้มีการจัดทำระบบบริหารโครงการฝึกอบรมรูปแบบ Online (E-Training) ที่ส่งผลให้กรมชลประทานมีระบบและฐานข้อมูลการพัฒนาที่สามารถพัฒนาศักยภาพบุคลากร ตอบสนองความต้องการในกาพัฒนาทรัพยากรบุคคลได้อย่างทั่วถึงทั้งองค์กร
อธิบดีกรมชลประทานกล่าวต่อว่า กรมชลประทานยังได้มีการพัฒนาระบบ EPP+ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารผลการปฏิบัติราชการภายในกรม ซึ่งจะครอบคลุมกระบวนการบริหารผลการปฏิบัติราชการทั้งหมด เริ่มตั้งแต่กระบวนการวางแผน การกำหนดตัวชี้วัดและค่าเป้าหมาย ผลการปฏิบัติงานและสมรรถนะ การติดตามผลการปฏิบัติงาน การวางแผนพัฒนารายบุคคล การประเมินผลการปฏิบัติงานตามตัวชี้วัด และการนำผลการประเมินไปใช้เลื่อนขั้นเงินเดือน นอกจากนี้กรมชลประทานยังได้มีการวิเคราะห์ความต้องการในการพัฒนาบุคลากร(Training Need Analysis) เพืิ่อจัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาบุคลากรทั้งในระยะยาวและประจำปี ซึ่งมีทั้งแนวทางที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ
“ทรัพยากรมนุษย์เป็นปัจจัยที่มีค่ายิ่งขององค์กร องค์กรใดที่มีทรัพยากรมนุษย์ที่มีศักยภาพสูงและสามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในทางสร้างสรรค์ องค์กรนั้นก็เจริญก้าวหน้าและมีความมั่นคง นอกจากนี้ การมีผู้นำหน่วยงานทรัพยากรบุคคลที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล ประกอบกับความสามัคคี ร่วมมือ ร่วมใจของบุคลากรในหน่วยงาน ส่งผลให้สามารถกำหนดทิศทางหรือแนวทางการดำเนินงานด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลสอดคล้องกับบริบท นำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์ต่อประชาชนในประเทศ ซึ่งกรมชลประทานได้ กำหนดวิสัยทัศน์ที่จะเป็น องค์กรอัจฉริยะที่มุ่งสร้างความมั่นคงด้านน้ำ (Water Security)ให้ได้ภายในปี 2579 ” อธิบดีกรมชลประทาน กล่าว