เปิดตัว “เก่ง-ธชย” แอมบาสเดอร์
‘มิว-นิค มอยเจอไรซิ่งมาสก์’ คนแรก
บริษัท วรินดา อิมพอร์ต แอนด์ เอ็กซ์พอร์ต จำกัด ได้ฤกษ์เปิดตัว “เก่ง-ธชย ประทุมวรรณ” แบรนด์แอมบาสเดอร์ “มิว-นิค รามยณะ มอยซ์เจอไรซิ่ง มาสก์” คนแรกของไทยอย่างเป็นทางการ ในวันพฤหัสบดี(22ก.พ.) เป็นมาสก์หน้ายักษ์เจ้าแรกของโลก มีลายทศกัณฑ์ ไมยราพ หนุมานและสุครีพ เป็นลิขสิทธิ์คนไทย ที่ออกแบบโดยคนไทย ผลิตด้วยเทคโนโลยีเกาหลีใต้ ชู เป็น “ของฝาก” สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติซื้อติดมือกลับไปฝากคนทางบ้าน เล็งปีนี้ออกมาสก์เพิ่ม 34-37 แบบ ตั้งเป้ารายได้รวมเติบโตอีกเท่าตัวหลังปี60 แตะ 150 ล้าน
คุณรัตนาวดี ลี ประธานกรรมการ บริษัท วรินดา อิมพอร์ต แอนด์ เอ็กซ์พอร์ต จำกัด กล่าวว่า บริษัทก่อตั้งมาเป็นปีที่ 6 หรือตั้งแต่ปี 2011 เดิมประกอบธุรกิจเกี่ยวกับส่งออกรองเท้าแฮนเมดไปขายที่ญี่ปุ่น แต่ 3 ปีที่ผ่านมาได้มาจับธุรกิจเครื่องสำอาง นำเข้า ครีม ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและมาสก์ จากทั้ง เกาหลีและญี่ปุ่น มาขาย โดยมีช่องทางจำหน่ายเป็นร้านค้าชั้นนำ เช่น วัตสัน บู๊ทส์ และเดอะมอลล์ เป็นต้น ซึ่งมีผลิตภัณฑ์บางอย่าง อาทิ เจลบำรุงผิวแบรนด์ อาร่า ท็อปเซฟ (arra TOPFACE) เป็นสินค้าขายดีติดอันดับ 1 ของวัตสัน และในปีที่ผ่านมาบริษัทได้พัฒนาผลิตภัณฑ์มาสก์ใหม่ 2 แบบ ได้แก่ มิว-นิค ดิสนีย์ ปริ๊นเซส และรามายณะ
สาเหตุที่คิดทำมาสก์รามายณะ เนื่องจากเล็งเห็นว่า เวลาคนไทยไปเที่ยวเกาหลีใต้ ไต้หวันหรือญี่ปุ่นมักจะซื้อมาสก์หน้ามาเป็นของฝากกัน จึงคิดออกแบบมาสก์หน้าที่มีเอกลักษณ์ความเป็นไทย เพื่อหวังให้เป็นของฝากจากประเทศไทย ให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศซื้อกลับไปฝากคนทางบ้านบ้าง หรือเป็นคนไทยซื้อไปฝากเพื่อนชาวต่างชาติ เพราะเรามีพาร์ทเนอร์และมีเทคโนโลยีที่ดี และนึกถึงเรื่องรามเกียรติ์ที่เราเคยเรียนกันมา จึงออกมาเป็น โดย “มิว-นิค รามายณะ มอยซ์เจอไรซิ่ง มาสก์” จึงเป็นมาสก์หน้ายักษ์เจ้าแรกของโลก
จุดเด่นของแผ่นมาสก์รามายณะนอกจากจะมีลวดลายที่สวยงามแล้ว ยังมีเอกลักษณ์ของความเป็นไทย การใช้แผ่นชีทเซลลูโลสคุณภาพดี มีเทคนิคการพิมพ์เฉพาะซึ่งพิมพ์สีจากธรรมชาติที่ปลอดภัย อ่อนโยนต่อใบหน้า พร้อมเอสเซ้นส์ สูตรเฉพาะที่เหมาะสมกับทุกสภาพผิวซึ่งทำจากสมุนไพรและมีกลิ่นที่คงเอกลักษณ์ความเป็นไทยด้วย ใช้ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
ทั้งนี้มาสก์มิว-นิค รามายณะ ที่เป็นของฝากจากไทย มีทั้งหมด 4 แบบ ดังนี้คือ
1. รามายณะ เลมอนกราส มอยซ์เจอไรซิ่ง มาสก์: สูตรเพื่อผิวชุ่มชื้นและแข็งแรง พร้อมสารสกัดจากทีทรี ชาเขียว และใบบัวบก หอมกลิ่นตะไคร้หอม ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายขณะใช้ เป็นหน้ากากยักษ์ทศกัณฑ์
2. รามายณะ ออร์คิด มอยซ์เจอไรซิ่ง มาสก์: สูตรเพื่อผิวชุ่มชื้นและผ่อนคลาย พร้อมสารสกัดจากดอกมะลิ เพอสเลน และลาเวนเดอร์ หอมกลิ่นดอกกล้วยไม้ ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายขณะใช้ เป็นหน้ากากยักษ์ไมยราพ
3. รามายณะ มิกซ์ เบอร์รี่ มอยซ์เจอไรซิ่ง มาสก์ : สูตรเพื่อผิวชุ่มชื้นและกระจ่างใส พร้อมสารสกัดจากบลูเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ และสตรอว์เบอร์รี่ หอมกลิ่นผลไม้รวม ช่วยให้รู้สึกสดชื่นมีชีวิตชีวา เป็นหน้ากากหนุมาน
4. รามายณะ รูบี้ มอยซ์เจอไรซิ่ง มาสก์: สูตรเพื่อผิวชุ่มชื้นและมีชีวิตชีวา พร้อมสารสกัดจากว่านหางจระเข้ เพอสเลน และผงผลึกทับทิม หอมกลิ่นอ่อนๆ ของรากไม้ ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายขณะใช้ เป็นหน้ากากยักษ์สุครีพ
คุณรัตนวดี ยังกล่าวถึงการเลือก เก่ง- ธชย ประทุมวรรณ มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ “มิว-นิค รามายณะ มอยซ์เจอไรซิ่ง มาสก์” เนื่องจากเป็นผู้ที่สื่อถึงความเป็นไทยได้เป็นอย่างดี มีชื่อเสียงและความสามารถไปสร้างชื่อของไทยในต่างประเทศ คว้ารางวัลมากมายและสามารถสื่อให้เห็นถึงความเป็นตัวตนของยักษ์ได้เป็นอย่างดี
ปัจจุบันบริษัทมีส่วนแบ่งของตลาดผลิตภัณฑ์มาสก์อยู่ที่ 50% และอาจสูงกว่านั้นจากแรงหนุนของ “มิว-นิค รามายณะ มอยซ์เจอไรซิ่ง มาสก์” แบรนด์ของคนไทย ซึ่งมีขายเฉพาะในไทย เพื่อเป็นของฝากให้นักท่องเที่ยวซื้อกลับไป โดยตั้งเป้ากลุ่มลูกค้า 50 % เป็นชาวจีน 25 % ชาวต่างชาติทั่วไปและอีก 25% เป็นชาวไทย ซึ่งหลังเปิดตัวพบว่า ตลาดขานรับเป็นอย่างดี โดยใน 4 เดือน ของการเปิดพรีเซล 1 เดือนและเปิดขายอย่างเป็นทางการ 3 เดือนสามารถขายได้แล้ว 200,000 แผ่น ในสนนราคาแผ่นละ 89 บาท กล่องละ 890 บาท มี 10 แผ่น ทั้งนี้ได้ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 500,000 แผ่นต่อเดือน
สำหรับในปี 2561 นี้จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพิ่มอีก 34-37 แบบ ขณะที่ช่องทางจำหน่ายสินค้าของบริษัทนอกจากวัตสัน บู๊ทส์ เดอะมอลล์ แล้ว ยังมีตาม 7-11 สาขาใหญ่ ๆ ที่มีผลิตภัณฑ์ขายสำหรับลูกค้าชาวจีน หรืออยู่ใน แหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวชาวจีนและต่างชาติอื่น ๆ อยู่จำนวนมาก เมืองท่องเที่ยว ต่างๆ กูร์เมต์ มาร์เก็ต พารากอน บิวเทรียม และบิวตี้ มาร์เก็ต และคาดว่าจะเพิ่มจุดขายให้ทั่วถึงเพิ่มมากขึ้น รวมถึงคิง พาเวอร์ ส่วนยอดขายรวมของบริษัทนั้น ในปี 2559 มียอดขายเติบโตอยู่ที่ 42 ล้านบาท ในปี 2560 อยู่ที่ 150 ล้านบาท สำหรับปี 2561 คาดว่าจะโตอีกเท่าตัว
