“วัตคินสัน” เจาะตลาดก่อสร้าง-เหมืองแร่
คาดยอดขาย61โต460ล.ล้อเศรษฐกิจ
“วัตคินสัน” สบช่องตลาดอุตสาหกรรมก่อสร้าง-เหมืองแร่โตต่อเนื่อง ลุยตลาดเครื่องจักรกลหนัก ด้วยเทคโนโลยีจากต่างประเทศ ชู 3แบรนด์ เครื่องจักรหนักเพื่อการก่อสร้างและเหมืองแร่ (Case) เครื่องบดวัสดุอัจฉริยะ ( RM)รถโฟล์คลิฟท์ (Clark) พร้อมเปิดตัวเครื่องบดวัสดุขนาดกะทัดรัดแบบเคลื่อนที่ได้และเครื่องร่อนคัดแยกวัสดุอัจฉริยะรุ่นRM-70GO!2.0และ CS3600/2 รายแรกของไทยใช้เทคโนโลยีจากออสเตรีย ตั้งเป้าปี 61ยอดขายรวมของบริษัท640 ล้านบาท จากยอดขายCase 460 ล้าน RM 130 ล้านและ Clark50ล้าน ช่องทางขายส่วนใหญ่ผ่านเซลส์พบลูกค้าโดยตรงที่ทั่วประเทศมีอยู่ประมาณ 200 ราย
นายกมลวัฒน์ วีรศุภกาญจน์ ประธานฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท วัตคินสัน คอนสตรัคชั่น อิควิปเมนท์ จำกัด ในฐานะเป็นตัวแทนจำหน่ายและให้บริการเครื่องจักรหนักสำหรับงานก่อสร้างและเหมืองแร่ครบวงจร เปิดเผยว่า ภาพรวมของอุตสาหกรรมก่อสร้างในไทยมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 5-8% ต่อปี โดยเฉพาะในปี 2561 จะมีขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมทั้งอุตสาหกรรมก่อสร้างและเหมืองแร่ ที่มาจากภาครัฐและเอกชนในแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศ โดยจะมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการวางระบบคมนาคม ที่จะเชื่อมโยงการลงทุนให้เกิดขึ้น
ดังนั้นบริษัทฯจึงได้เตรียมพร้อมด้านแผนการตลาดที่จะรองรับต่อความต้องการในด้านของอุปกรณ์เครื่องจักรและเทคโนโลยี ต่อกลุ่มผู้ประกอบการ และนักลงทุนในประเทศ โดยบริษัทเตรียมขยายสาขาตัวแทนจำหน่ายวัตคินสันเพิ่ม 6-8 สาขาเป็น 12 สาขาใน3 ปี(2563) ในปี 2561 เพิ่ม 3 สาขา จากเดิมมีอยู่ 4 สาขา ได้แก่ เดือนพฤษภาคม เปิดที่จ.สระบุรี , ในไตรมาสที่3 เปิดที่จ.สุราษฎร์ธานีและไตรมาส4 ที่จ.นครปฐม
ทั้งนี้บริษัทมีความพร้อมเป็นผู้แทนจำหน่ายและให้บริการเครื่องจักรหนักสำหรับงานก่อสร้างและเหมืองแร่ ภายใต้ 3แบรนด์ ได้แก่ เครื่องจักรหนักเพื่อการก่อสร้างและเหมืองแร่ (Case) เครื่องบดวัสดุอัจฉริยะ ( RM)รถโฟล์คลิฟท์ (Clark) โดยตั้งเป้าในปีนี้บริษัทจะมียอดขายเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 640 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตและลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการด้วย เครื่องบดวัสดุขนาดกะทัดรัดแบบเคลื่อนที่ได้หรือ RM Mobile Compact Crusher และเครื่องร่อนคัดแยกวัสดุอัจฉริยะรุ่นRM-70GO!2.0 และ CS3600/2 ที่มีการเปิดตัวเมื่อเร็วๆนี้ ซึ่งเป็นระบบอัจฉริยะซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ ภายใต้แบรนด์RM จากประเทศออสเตรีย และถือเป็นครั้งแรกที่บริษัทได้นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยโดยราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 15-16 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับขนาดของเครื่องจักรที่จะนำเข้าไปใช้งานในแต่ละพื้นที่
“ตั้งเป้าปี 61ยอดขายรวมของบริษัท 640 ล้านบาท จากยอดขายCase 460 ล้าน RM 130 ล้านและ Clark50ล้าน ช่องทางขายส่วนใหญ่ผ่านเซลส์พบลูกค้าโดยตรงที่ทั่วประเทศมีอยู่ประมาณ 200 ราย”
สำหรับประสิทธิภาพเครื่องบดและคัดแยกวัสดุเพื่อการก่อสร้างและเหมืองแร่ รุ่นRM 70GO!2.0 นี้ เปรียบเสมือนโรงโม่เคลื่อนที่ ที่มีระบบปั่นกระแสไฟในตัวส่งผ่านไปยัง “เครื่องร่อนวัสดุ” ที่เป็นอุปกรณ์เสริมช่วยในการร่อนคัดกรองและแยกขนาดของวัสดุที่ต้องการได้ถึง3 ขนาดพร้อมกัน สามารถดีดแยกเหล็กเส้นออกเป็นสัดส่วน และยังสามารถรีไซเคิลซากเศษวัสดุมาใช้เป็นชั้นปูสำหรับงานเตรียมรองพื้นชั้นล่างๆทำให้ช่วยประหยัดต้นทุนด้านน้ำมัน การขนส่ง ลดการใช้ทรัพยากร
“เครื่องบดและคัดแยกวัสดุฯ ถือเป็นเครื่องจักรที่มีสมรรถนะในการบดและคัดแยกวัสดุได้หลายขนาดในครั้งเดียว ไม่ว่าจะเป็นหินธรรมชาติ คอนกรีต ยางมะตอย ซึ่งในปัจจุบันผู้รับเหมาก่อสร้างต้องการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และร่นระยะเวลาการทำงานให้สามารถดำเนินโครงการเป็นไปตามสัญญาการว่าจ้าง ” นายกมลวัฒน์ กล่าว
ทั้งนี้คาดว่าเครื่องบดและคัดแยกวัสดุฯรุ่นดังกล่าว จะได้รับการตอบรับจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและผู้ประกอบการเหมืองแร่เป็นอย่างดี โดยล่าสุด ได้รับความสนใจจากหลายบริษัทฯได้มีการสั่งซื้อ และส่งมอบไปแล้วจำนวน 2 ชุด โดยรถบดและคัดแยกฯ มีมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท
ในปี 2561 บริษัทมั่นใจว่าปีนี้จะจำหน่ายเครื่องบดและคัดแยก RM ได้ ถึง 8-10 ชุด ซึ่งเชื่อมั่นว่าตลาดเครื่องจักรเพื่อการก่อสร้างยังมีทิศทางการเติบโตต่อเนื่อง จากการที่ประเทศไทยมีการขยายตัวด้านการลงทุนในการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ โครงการก่อสร้างถนน ทางด่วน และรถไฟฟ้าสายต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมีหลายโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและเปิดประมูล
“คาดขายเครื่องบดได้8-10 ชุด โดยผ่านช่องทางเซลส์เป็นส่วนใหญ่ ที่ทำหน้าที่พบปะลูกค้าโดยตรง ซึ่งบริษัทมีลูกค้าทั่วประเทศที่เป็นผู้รับเหมาชั้นนำประมาณ200 ราย โดยมีเซลส์ที่เชี่ยวชาญ 12 คน
บริษัทฯตั้งเป้าภายในปี2563 จะเป็นผู้นำในระดับแนวหน้าของการเป็นตัวแทนจำหน่ายและให้บริการเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรมก่อสร้างและเหมืองแร่แบบครบวงจร ทั้งด้านคุณภาพของเครื่องจักรและการให้บริการหลังการขาย รวมทั้งบริษัทฯจะแสวงหาเครื่องจักรที่ทันสมัยมีประสิทธิภาพเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้ประกอบการที่ต้องการใช้เทคโนโลยี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและลดต้นทุนในการดำเนินโครงการ