2 รมต.วิทย์ฯไทย-จีนหนุนวทน.
สร้างมูลค่าเศรษฐกิจ-สังคม
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดย ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นำทีมผู้บริหารกระทรวงฯ เข้าพบและร่วมหารือความร่วมมือไทย – จีน ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกับ นาย หวัง จื้อ กัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และผู้บริหารกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดี การสนับสนุน และความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ซึ่งกันและกัน รวมถึงพัฒนา วทน. เพิ่มมูลค่าและขับเคลื่อนประเทศด้านเศรษฐกิจและสังคม ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนเพื่อความยั่งยืนตอบโจทย์ไทยแลนด์ 4.0 และ One Belt One Road
นาย หวัง จื้อ กัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับคณะผู้บริหารกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศไทย ซึ่งไทย – จีน มีความสัมพันธ์ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมานานและครบรอบ 40 ปี การพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาประเทศให้มีความก้าวหน้าทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ของจีนมีนโยบายในการใช้ วทน. ที่เป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาประเทศ พัฒนาเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงส่งเสริมและขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศด้วย วทน.
นอกจากนี้รัฐบาลจีนยังวางแผนที่จะใช้ วทน. ให้เป็นรากฐานในการขับเคลื่อนประเทศอีกด้วย สำหรับความร่วมมือของ วทน. ที่ได้ร่วมมือกันนี้เพื่อขยายฐานไปยังภูมิภาคอาเซียนอีกด้วย รวมถึงยกระดับแนวความคิดใหม่ๆ โดยในปี 2556 ที่ผ่านมา ได้สนับสนุนและความร่วมมือกับประเทศไทยหลายโครงการ อาทิ Remote Sensing, เทคโนโลยีไทย – จีน, การพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่
โครงการเหล่านี้ประสบความสำเร็จและมีประสิทธิภาพเป็นอย่างดีจากการที่ประเทศไทยมีนโยบายไทยแลนด์ 4.0 เป็นนโยบายที่สอดคล้องกับ One Belt One Road ของจีนที่นำ วทน. มาใช้ในการขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงตอบโจทย์การพัฒนาประเทศของจีนด้วย และมีความยินดีที่จะให้การสนับสนุนและความร่วมมืออันจะทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ พัฒนาบุคลากรและการวิจัยร่วมกัน
โครงการเหล่านี้เป็นแนวความคิดและจุดเริ่มต้นแนวที่สอดคล้องกับประเทศจีน โดยเฉพาะนโยบายของรัฐบาลจีน เรื่อง China 2025 นั้นก็สอดคล้องกับ EECi ของประเทศไทย และเห็นด้วยกับประเทศไทยที่จะสร้างประโยชน์ให้กับประชาชน การพัฒนาบุคลากรด้านการวิจัย รวมถึงการยกระดับความสามารถในการใช้ วทน. ส่งเสริมด้านเศรษฐกิจและสังคม นอกเหนือจากนี้ยังจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยยกระดับอาเซียนให้มีความแข็งแกร่งและพัฒนาไปร่วมกันอีกด้วย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาด้าน วทน. เป็นอย่างมาก โดยเน้นนโยบายวิทย์แก้จน วิทย์สร้างคน และวิทย์เสริมแกร่ง และขอขอบคุณประเทศจีนที่ให้การสนับสนุนมาโดยตลอด จากการหารือความร่วมมือทวิภาคีที่หนานหนิง สาธารณรัฐประชาชนจีน เดือนกันยายน 2560 ที่ผ่านมา มีการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้าน วทน. (Scientific, Technological and Innovation Action Plan) ร่วมกัน
ส่วนที่ริเริ่มโครงการ 4 ด้าน ภายใต้ยุทธศาสตร์ One Belt One Road ของจีนมีนโยบายที่สอดคล้องกับไทยแลนด์ 4.0 ได้แก่ 1. การแลกเปลี่ยนบุคลากรด้าน ว. และ ท. (Talented Young Scientist Program) 2. การสร้างห้องปฏิบัติการหรือศูนย์วิจัยร่วม (Joint Laboratory) 3. การสร้างความร่วมมือด้านอุทยานวิทยาศาสตร์ (Science Park) และ 4. การถ่ายทอดเทคโนโลยี (Technology Transfer) ซึ่งกระทรวงวิทย์ฯ ได้ขับเคลื่อนและผลักดันร่วมกับกระทรวงวิทย์ฯ ของจีนมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะศูนย์วิจัยร่วมด้านระบบรางแห่งแรกระหว่างไทย – จีน ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างอาคารสำนักงานหลัก ที่สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) เพื่อใช้ทดสอบและพัฒนาระบบขนส่งทางราง และคาดว่าจะแล้วเสร็จและติดตั้งเครื่องมือในปลายปีนี้
นอกจากนี้ ขอขอบคุณที่กระทรวงวิทย์ฯ ของจีน ที่ร่วมผลักดันโครงการความร่วมมือในการจัดตั้ง Joint Research Center และเชื่อว่าศูนย์วิจัยนี้ จะเป็นศูนย์กลางในเรื่องระบบรางของอาเซียน
สำหรับโครงการ EECi หนึ่งในกลไกขับเคลื่อนสำคัญที่เป็นรูปธรรมตอบโจทย์นโยบาย One Belt One Road นั้น อันประกอบด้วย Biopolis, Aripolis, Krenovapolis กระทรวงวิทย์ฯ จีน จะสนับสนุนการพัฒนา EECi ด้วยการสนับสนุนส่งผู้เชี่ยวชาญมาให้คำปรึกษา และนักวิจัยมาทำงานวิจัยร่วมกัน อีกทั้งเชิญภาคเอกชนของจีนที่มีความสนใจมาร่วมลงทุน และเสนอให้จัดทำ “ข้อเสนอความร่วมมือด้าน วทน. ระหว่างไทย – จีน” ซึ่งสอดรับกับแผนการขับเคลื่อนความร่วมมือด้าน วทน. ตามนโยบาย One Belt One Road มีเป้าหมายในเทคโนโลยีหลายสาขา เช่น ชีวภาพจุลินทรีย์ พันธุกรรม ระบบขนส่งทางราง Plasma & Fusion อวกาศและภูมิสารสนเทศ รวมถึงการแลกเปลี่ยนกลุ่มนักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยในสาขาเป้าหมาย
ปัจจุบันกระทรวงวิทย์ฯ ดำเนินโครงการ วทน. เพื่อสร้างผลกระทบในวงกว้าง และจะร่วมมือกันในการยกระดับโครงการต่างๆ เช่น Bio Bank ที่จะรวบรวมข้อมูลชีวภาพของพืช สัตว์ จุลินทรีย์ และมนุษย์ในไทยมาเก็บไว้เป็นฐานข้อมูลเพื่อการวิจัย รวมถึงการพัฒนา Dual Use Defense ซึ่งเป็นการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีร่วมกันทั้งด้านการทหารและการวิจัยพลเรือน โดยมุ่งเน้นไปที่เทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ เช่น การใช้ดาวเทียมสำรวจพื้นที่และทรัพยากรต่าง ๆ สำหรับการพัฒนาและบุคลากรการวิจัยนั้น ได้รับการสนับสนุนและส่งเสริมให้นักวิจัยของจีนเข้ามาร่วมทำงานวิจัยที่มีความเชี่ยวชาญในสภาพแวดล้อมของไทยมากขึ้น เช่น การพัฒนาสมุนไพรไปสู่ยา การเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ การวิจัยเชื้อโรคเขตร้อน
นอกจากนี้ กระทรวงวิทย์ฯ ยังได้แต่งตั้งอัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อประสานงานและผลักดันความร่วมมือระหว่างไทย-จีนให้มีความเป็นรูปธรรม และสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อกันอีกด้วย รวมถึงช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า ไทยจะเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมคณะกรรมการร่วมไทย-จีน ครั้งที่ 4 ภายใต้กรอบ Science and Technology Partnership Program (STEP) ซึ่งได้เชิญรัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของสาธารณรัฐประชาชนจีน เข้าร่วมประชุม และได้รับการสนับสนุนตอบรับเป็นอย่างดี