ทุเรียนภูเขาไฟGI จากศรีสะเกษ
มาให้ชิม-ช้อปแล้วถึงเมืองกรุง
ผู้ว่าฯศรีสะเกษ นายธวัช สุระบาลและนายบุญชัย ปลื้มสืบกุล ผจก.ใหญ่บริหารสินค้าซุปเปอร์มารฺเก็ต กลุ่มเดอะ มอลล์ กรุ๊ป ร่วมเปิดตัว ทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ ทุเรียนภูเขาไฟ GI หนึ่งเดียวในโลก กรอบนอกนุ่มใน หวานมัน เนื้อละเอียดละมุนลิ้น มีให้ชิมแล้วที่ กูร์เมต์ มาร์เก็ต สาขาเอ็มควอเทียร์,เอ็มโพเรียม,สยามพารากอน และ เดอะมอลล์ บางกะปิ พร้อมกับนำกาแฟทุเรียน และทุเรียนฯ มาให้สื่อมวลชนและลูกค้า ณ บริเวณ กูร์เมต์ มาร์เก็ตสาขาเอ็มควอเทียร์ ได้ลิ้มลอง ทุเรียนมีให้ชิม-ช้อปได้ตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน- กรกฏาคม 2561 นี้ ผวจ. ศรีสะเกษยังเตรียมจัดกิจกรรมใหญ่ประจำปี งาน “เทศกาลทุเรียนภูเขาไฟ อาเซียนเทรดแฟร์ 2561” ณ สวนปาล์ม วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีศรีสะเกษ ระหว่างวันที่ 29 มิถุนายน-8 กรกฎาคม 2561 ชวนชิม ช้อปทุเรียน และผลไม้อื่น ๆ ของจังหวัด ชมการประกวดพันธุ์สัตว์ การประกวดธิดาชาวสวน และอื่น
นายธวัช สุระบาล ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เปิดตัวทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษถึงตรงสู่ผู้บริโภคให้ได้ลิ้มรสความอร่อยของทุเรียนของจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งได้รับการรับรองคุณภาพที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์และได้รับการจดสิทธิบัตรGI จากกรมทรัพย์สินทางปัญญาแล้ว ณ ห้างสรรพสินค้า Emquartier โดยมีผู้บริหารของ บริษัทซิตี้มอลล์กรุ๊ป จำกัด กล่าวต้อนรับ
ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีษะเกษกล่าวถึงความเป็นมาของทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษว่า ในอดีตเกษตรกรชาวสวนผลไม้เดิมทำไร่ข้าวโพด มันสาปะหลัง และพืชไร่อื่น ๆ ซึ่งมักประสบปัญหาขาดทุน ยิ่งทำก็ยิ่งจน หนี้สินยิ่งเพิ่มพูน อีกทั้งพืชเหล่านั้นต้องลงทุนใหม่ทุกปี และปีไหนผลผลิตมากราคาก็ตกต่ำ บางทีก็ถูกกดราคาจากพ่อค้าคนกลาง จึงคิดหาอาชีพใหม่แทนจังหวัดศรีสะเกษ เริ่มมีการปลูกไม้ผลอย่างจริงจัง เมื่อปี พ.ศ. 2531 เป็นต้นมา โดยเริ่มให้ผลผลิตครั้งแรกในปี พ.ศ. 2537 นับว่าศรีสะเกษเป็นจังหวัดแรกๆ ของภาคอีสานที่มีการปลูกทุเรียนและได้ผลผลิตที่มีคุณภาพเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค ไม่แพ้ทุเรียนเจ้าตำรับจากภาคใต้ และภาคตะวันออก
ทั้งนี้ทุเรียนที่เกษตรกร ส่วนใหญ่นิยมปลูก คือ “พันธุ์หมอนทอง” ปัจจุบันมีพื้นที่การปลูกทุเรียน 6,085 ไร่ โดยพื้นที่ปลูกส่วนใหญ่อยู่ที่อำเภอกันทรลักษ์และขุนหาญ ปริมาณผลผลิตรวม 4,474.64 ตัน สามารถสร้างรายได้ให้จังหวัดปีละไม่น้อยกว่า 447 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีผลไม้และพืชเศรษฐกิจอีกหลายชนิดที่สร้างรายได้ให้เกษตรกรในจังหวัดศรีสะเกษ เช่น เงาะ ลาไย มังคุด ลองกอง ซึ่งนับรวมแล้ว ถือว่าสร้างรายได้ปีละไม่ต่ากว่า 500 ร้อยล้านบาท
ผู้ว่าราชการจังหวัดฯกล่าวต่อว่า ในปี พ.ศ. 2560 ตนได้สร้างอัตลักษณ์ของทุเรียนศรีสะเกษ โดยใช้ชื่อว่า “ทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ” โดยชูคุณสมบัติเด่นของแหล่งผลิตที่ปลูกในบริเวณพื้นที่ภูเขาไฟโบราณ แถบเทือกเขาพนมดงรัก ซึ่งเป็นดินที่ผุพังมาจากหินบะซอลต์ ดินจึงมีลักษณะเหนียวสีแดง ระบายน้ำดีมาก มีธาตุ อาหารชนิดต่างๆ ที่จำเป็นต่อพืชในปริมาณสูง และเกษตรกรใช้น้าใต้ดินที่มีความลึกมากกว่า 50-100 เมตร ในการให้น้ำผลไม้ จึงส่งผลให้ได้รับแร่ธาตุครบถ้วน ผลผลิตที่ได้มีรสชาติดี
นอกจากนั้นด้วยลักษณะสภาพภูมิอากาศ ของจังหวัดศรีสะเกษที่ไม่ชื้นจนเกินไป ประกอบกับแสงแดดที่มีความเข้มแสงสูง ทำให้พืชได้รับแสงอย่างเต็มที่ ทุเรียนจึงดูดธาตุ อาหารจากดินมาช่วยสังเคราะห์แสงได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เนื้อทุเรียนที่ได้ จึงอุดมไปด้ว ยธาตุอาหารและวิตามินที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ เกิดเป็นทุเรียนที่มีคุณสมบัติเฉพาะ กล่าวคือ เนื้อทุเรียนแห้งและนุ่มเหนียว เส้นใยละเอียด มีกลิ่นหอมเฉพาะไม่ฉุนมาก รสชาติมันค่อนข้างหวาน ซึ่งตรงกับความต้องการของผู้บริโภคทุเรียนทั้งภายในและต่างประเทศ จึงอาจกล่าวได้ว่า “ทุเรียนศรีสะเกษ เป็นทุเรียนที่อร่อยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย”
ผลการศึกษาของศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษ พบว่า ทุเรียนพันธุ์หมอนทองของศรีสะเกษ มีลักษณะดังนี้ สีเนื้อของทุเรียนเป็นสีเหลือง น้ำหนักผลเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 1.65-4.99 กิโลกรัม/ผล จำนวนพู 5 พู/ผลเปอร์เซ็นต์เนื้อต่อเปอร์เซ็นต์เมล็ด เท่ากับ 88.9 : 11.1
สำหรับสถานการณ์การผลิตทุเรียนของจังหวัดศรีสะเกษนั้น จากการสำรวจการผลิตทุเรียนในปี 2561 พบว่า จังหวัดศรีสะเกษ มีพื้นที่ทุเรียนทั้งหมด 6,085 ไร่ เพิ่มขึ้น 988 ไร่ จากปี 2560 เนื่องจากจังหวัดมีการส่งเสริมการผลิตทุเรียนในพื้นที่ที่มีความเหมาะสม ได้แก่ 3 อำเภอ คือ อำเภอขุนหาญ ซึ่งมีพื้นที่ปลูก 435 ไร่ เกษตรกร 87 ราย,อาเภอกันทรลักษ์ พื้นที่ 500 ไร่ เกษตรกร 100 ราย และอำเภอ ศรีรัตนะ พื้นที่ 65 ไร่ เกษตรกร 13 ราย โดยทุเรียนพันธุ์ที่นิยมปลูกมากที่สุดคือ พันธุ์หมอนทอง ในปีนี้ตั้งเป้ามีพื้นที่ปลูกทุเรียนถึง 10,000 ไร่
ส่วนผลผลิตทุเรียนศรีสะเกษในปีนี้มีปริมาณเท่ากับ 3,612.12 ตัน ลดลง 862.52 ตัน จากปี 2560 ที่มีผลผลิตรวม 4,474.64 ตัน คิดเป็นร้อยละ 19.28 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศหนาวเย็น และอิทธิพลจากพายุฤดูร้อนส่งผลให้ผลผลิตบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอกันทรลักษ์
“ขณะนี้ผลิตขายเฉพาะภายในประเทศยังไม่เพียงพอ และเวลานี้ได้นำมาขายในห้างสรรพสินค้า เครือเดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้แก่ Emquartier,Paragon,Emporium และ The Mall บางกะปิ โดยสนนราคาขายทุเรียนอยู่ที่ 470บาทต่อกิโลกรัม แต่หากแกะเนื้อออกมาแล้วมีราคาขายที่ 1,850 บาทต่อกิโลกรัม”
พร้อมกันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีษะเกษยังเปิดเผยว่า ทางจังหวัดศรีษะเกษเตรียมจัดงาน “เทศกาลทุเรียนภูเขาไฟ อาเซียนเทรดแฟร์ 2561” อันเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นทุกปี ณ สวนปาล์ม วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีศรีสะเกษ ระหว่างวันที่ 29 มิถุนายน-8 กรกฎาคม 2561 ซึ่งเป็นช่วงที่ผลผลิตทุเรียนออกสู่ตลาด
กิจกรรมในงานประกอบด้วยการจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตร การประกวดพันธุ์สัตว์ การประกวดธิดาชาวสวน การประกวดร้องเพลงและวงดนตรีสากล ฯลฯ โดยเฉพาะการประกวดทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษที่มีรสชาติอร่อย กรอบนอก นุ่มใน หวานน้อย ละมุนลิ้น กลิ่นไม่ฉุน นอกจากนี้ยังสามารถชิมช้อปกาแฟทุเรียนหอมอร่อยได้ภายในงาน
นับว่า เป็นกิจกรรมที่สนับสนุนส่งเสริมเกษตรกรชาวสวนสามารถนำผลผลิตมาจำหน่ายให้กับผู้บริโภคโดยตรงเพื่อเป็นการสร้างโอกาสทางการตลาดและยังไปการส่งเสริมการท่องเทียวของจังหวัด โดยมีการให้บริการท่องเที่ยวเชิงเกษตรเพื่อนำนักท่องเที่ยวเข้าชมสวนทุเรียน เลือกชิมและเลือกซื้อทุเรียนจากสวนในราคาย่อมเยา ซึ่งทำให้เกิดรายได้ต่อชาวสวนและสร้างรายได้เข้าจังหวัดปีละหลายร้อยล้านบาท