นายกฯ เปิดงาน “มหกรรมวิทย์61”
มั่นสร้างแรงบันดาลใจ1.2ล้านคน
นายกรัฐมนตรี เปิดงาน “มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2561” กับนโยบาย “วิทย์สร้างคน สร้างแรงบันดาลใจ 1.2 ล้านเยาวชนไทย” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 – 26 สิงหาคม นี้ ที่อาคาร 2-8 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ชู “9 ไฮไลท์สร้างแรงบันดาลใจ” ผนึกภาครัฐภาคเอกชนทั้งไทยและต่างประเทศอีก 10 ประเทศ 100 หน่วยงาน ร่วมแสดงผลงานความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อกระตุ้นความสนใจ สร้างแรงบันดาลใจให้แก่เยาวชน นักวิจัย นักวิทยาศาสตร์และประชาชนทั่วไป
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาศูนย์ประชุม อิมแพค เมืองทองธานี เพื่อเป็นประธานในการเปิดงาน “มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2561” จัดโดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า “รัฐบาลให้ความสำคัญยิ่งต่อการพัฒนาคนทุกช่วงวัย มุ่งการเตรียมคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21 อย่างสมบูรณ์ หวังให้เด็กเยาวชนไทยมีหลักคิดเป็นเหตุเป็นผล ให้คนไทยมีทักษะความรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีที่มีผลกระทบอย่างรุนแรงในอนาคต ตลอดจนการสร้างวัฒนธรรมวิทยาศาสตร์
ซึ่งองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะการปรับเปลี่ยนโครงสร้างประเทศไปสู่โครงสร้างเศรษฐกิจ และสังคมฐานนวัตกรรม สนับสนุน นโยบายประเทศไทย 4.0 เพื่อให้ประเทศหลุดพ้นจากกับดัก การเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลาง ไปสู่เป็นประเทศที่มีความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า การศึกษาและการเรียนรู้เป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างคนเพื่ออนาคต ซึ่งต้องไม่มีข้อจำกัดใดๆ สามารถเข้าถึงความรู้ที่ไม่จำกัดเพียงการเรียนรู้เฉพาะในโรงเรียน ในมหาวิทยาลัยหรือในสถาบันต่างๆ เท่านั้น โลกในอนาคตเป็นโลกกว้างที่มีองค์ความรู้หลากหลายสามารถเรียนรู้ได้อย่างไร้พรมแดน เรื่องดิจิทัล ต้องเป็นความรู้พื้นฐานของคนไทย ต้องมีการผสมผสานการศึกษาเรียนรู้ในห้องเรียน และนอกห้องเรียนที่ต่อเนื่องสำหรับทุกช่วงวัย
งานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติที่จัดขึ้นนี้ ได้สร้างสรรค์วิธีการ รูปแบบการนำเสนอที่น่าสนใจ ส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านกิจกรรม สร้างแรงบันดาลใจแก่เยาวชนไทย อีกทั้ง เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ และซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ พระวิริยะอุตสาหะและพระอัจริยภาพของพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์
ในโอกาสนี้ รัฐบาลขอขอบคุณหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนทั้งในและต่างประเทศทั้ง 10 ประเทศ 100 หน่วยงาน ที่ร่วมกันจัดงานนี้ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชน และประชาชน อันจะก่อให้เกิดสังคมวิทยาศาสตร์ ใช้ข้อมูล ใช้เหตุและผลประกอบการตัดสินใจ ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศไทยของเราเติบโตอย่างเข้มแข็งอย่างยั่งยืนสืบไป”
ด้านดร. สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่าการจัดงาน “มหกรรมวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2561” ระหว่างวันที่ 16 – 26 สิงหาคม 2561 ณ อิมแพค เมืองทองธานี ได้มีแนวคิดเพื่อสื่อสารถึงความสำคัญของเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (Sustainable Development Goal- SDG) และการเฉลิมฉลองครบรอบ 150 ปี การเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคา ณ หว้ากอ พร้อมตั้งเป้ามีเด็กเยาวชน ครูและผู้ปกครอง เข้าชมงานประมาณ 1.2 ล้านคน
ในปีนี้ กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ได้จัดแสดงนิทรรศการและกิจกรรมต่างๆ ซึ่งแสดงถึงศักยภาพทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมของประเทศ รวมทั้งแสดงถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่นำสมัยจากต่างประเทศ และได้คัดเลือกกิจกรรมใหม่ นิทรรศการใหม่ๆ ที่มีเนื้อหาที่เป็นกระแสอยู่ในความสนใจของประชาชน
ทั้งนี้ ได้นำ “9 ไฮไลท์สร้างแรงบันดาลใจ ปี 2561” กับประเด็นหลัก ซึ่งอยู่ในกระแสความสนใจแห่งปี อาทิ นิทรรศการวิทยาศาสตร์…ติดถ้ำ รู้จักกับสภาพทางภูมิศาสตร์ของถ้ำ เที่ยวถ้ำจำลอง เรียนรู้เทคโนโลยี นวัตกรรมการกู้ภัยในถ้ำ
นิทรรศการวิกฤตขยะ กับความสนุกที่พลาดไม่ได้ ตื่นเต้น เร้าใจ กับ 4-D Theatre เรื่อง การผจญภัยของแพนด้าก้วนก้วน นิทรรศการเทคโนโลยีเปลี่ยนชีวิต มารู้จักกับผู้ใช้เทคโนโลยีสร้างนวัตกรรม และพบกับนวัตกรรมใหม่ๆ ในโลกอนาคต
นิทรรศการยุคข้อมูลครองโลก ยุคนี้ใครๆ ก็พูดถึง“BIG DATA” มาหาไอเดียการจัดการปริมาณข้อมูลมหาศาลและเพิ่มทวีมากขึ้นทุกวันอย่างชาญฉลาด นิทรรศการอาหารแห่งศตวรรษ Super Food เทรนด์ที่กำลังมาแรงในเรื่องการดูแลสุขภาพ ละครวิทยาศาสตร์ “ฟ้าสว่างที่หว้ากอ” สร้างสรรค์เนื้อหาและเทคนิคการนำเสนอขึ้นใหม่ โดยคณะละคร มรดกใหม่
ดร. สุวิทย์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “การจัดงานในครั้งนี้ เป็นการนำหนึ่งในนโยบายหลักของกระทรวงวิทย์ฯ “วิทย์สร้างคน” มาสู่รูปธรรม โดยมุ่งหวังว่าเด็ก เยาวชนไทย ตลอดจนสังคมไทยจะยกระดับความรู้ ได้รับแรงบันดาลใจ สร้างวัฒนธรรมวิทยาศาสตร์ให้เกิดขึ้นในสังคมไทย เพื่อนำพาประเทศไทยไปสู่การพัฒนาที่ก้าวหน้าด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมในอนาคตอันใกล้”