“ไครโอวิวา” มุ่งมั่นพันธกิจ
เพื่อคุณภาพชีวิตทุกคนในครอบครัว
เมื่อเอ่ยถึง “สเต็มเซลล์” เชื่อว่า ในปัจจุบันเป็นที่รู้จักแพร่หลายเพิ่มขึ้น จากความก้าวหน้าของวิทยาการและเทคโนโลยีทางด้านสเต็มเซลล์ทำให้เกิดธุรกิจให้บริการเก็บและเพาะเลี้ยงสเต็มเซลล์ เพื่อไว้ใช้บำบัดรักษาโรคในอนาคต เพื่อแก้ไขปัญหาจากวัยที่เพิ่มขึ้น( Anti-Aging) ตลอดจนการนำสเต็มเซลล์มาใช้ในแวดวงเสริมความงาม สำหรับในประเทศไทย บริษัท ไครโอวิวา (ประเทศไทย) จำกัด เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการธนาคารสเต็มเซลล์แห่งแรกและแห่งเดียวในไทยที่ได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากลจากAABB และเมื่อเร็ว ๆนี้ยังได้รับเลือกจากภาครัฐ คือ ศูนย์ความเป็นเลิศด้าน ชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) หรือ TCELS ในสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้เป็นผู้ร่วมจัดตั้งและดำเนินการห้องปฏิบัติการควบคุมคุณภาพของทีเซลส์ ซึ่งจะช่วยให้ยกระดับ ทำให้ผู้บริโภคได้รับสเต็มเซลล์ที่มีคุณภาพ สอดพ้องพันธกิจของ “ไครไอวิวา” ที่มุ่ง “อยู่เคียงข้างคุณภาพชีวิตทุกคนในครอบครัว”
“สเต็มเซลล์” หรือ เซลล์ต้นกำเนิด เป็นเซลล์อ่อนที่ไม่มีหน้าที่ของเซลล์ที่เฉพาะเจาะจง สามารถแบ่งตัวเองขึ้นมาใหม่ได้ และ พร้อมจะเจริญเติบโต เปลี่ยนแปลงเพื่อไปทำหน้าที่ใดหน้าที่หนึ่งที่เฉพาะเจาะจงได้ หรือกลายเป็นเซลล์ของเนื้อเยื่อชนิดต่างๆในร่างกายได้ จึงมีประโยชน์ช่วยบำบัดรักษาโรคได้มากมาย อีกทั้งใช้ในการทดแทนเซลล์ที่เสื่อมสภาพในร่างกาย หรือ การชะลอวัย (Anti-Aging) ซึ่งปัจจุบันเป็นที่นิยม นำสเต็มเซลล์มาใช้เพื่อความงามฉีดบริเวณใบหน้าเพื่อชะลอวัย ลดริ้วรอย ทำให้ผิวพรรณอ่อนกว่าวัยและช่วยฟื้นฟูซ่อมแซมเซลล์ในร่างกาย ช่วยให้มีสุขภาพที่ดี
สายสะดือ-เยื่อหุ้มรก แหล่งสเต็มเซลล์ สำคัญ
คุณจิรัญญา ประชาเสรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไครโอวิวา
คุณกมลรัตน์ ศรีถวิล ประธานฝ่ายปฏิบัติการ ดร.นพ.ศุภชัย เอกวัฒนกิจร่วมให้ข้อมูลด้านสเต็มเซลล์
สเต็มเซลล์จึงเป็นอนาคตทางด้านสุขภาพ ซึ่งแหล่งที่จะเก็บเกี่ยวสเต็มเซลล์มาได้ได้แก่ เลือดจากสายสะดือและเนื้อเยื่อสายสะดือ โดยเดิมสายสะดือของเด็กแรกคลอด คือของเสียทางการแพทย์ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ ทว่าในปัจจุบันจากงานวิจัยทางการแพทย์ค้นพบว่า เลือดสายสะดือ และสายสะดือ คือ แหล่งของเซลล์ต้นกำเนิดอันมีค่า ที่สามารถช่วยชีวิตผู้ป่วย ใช้รักษาโรคได้มากกว่า 85 ชนิด อีกทั้งช่วยฟื้นฟูร่างกายและชะลอวัย เช่นจากโรคเบาหวาน โรคหัวใจ การบาดเจ็บของไขสันหลัง อาการข้อเสื่อม และลดริ้วรอย
นอกจากนี้ยังมีงานศึกษาวิจัยอีกมากที่กำลังพัฒนาและเป็นความหวังว่า เราจะสามารถนำสเต็มเซลล์จากเลือดจากสายสะดือและสายสะดือไปใช้ประโยชน์ในการรักษาทางการแพทย์ได้
โดยจากผลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า เนื้อเยื่อสายสะดือเป็นแหล่งที่มาที่ดีที่สุดของสเต็มเซลล์หรือเซลล์ต้นกำเนิดชนิดใหม่ที่เรียกว่า “มีเซนไคมอลสเต็มเซลล์ (MSC’s)” ซึ่งมีศักยภาพสูงในการแบ่งตัวและพัฒนาไปเป็นเซลล์ประเภทต่างๆ เช่นเซลล์กระดูก กล้ามเนื้อ ไขมัน และอวัยวะต่างๆในร่างกาย จึงเหมาะสาหรับนำมาใช้ในการรักษาโรคทางเวชศาสตร์ฟื้นฟูสภาวะเสื่อม ปัจจุบันมีการวิจัยทางการแพทย์เกี่ยวกับศักยภาพของมีเซนไคมอลสเต็มเซลล์ว่า ช่วยฟื้นฟูอาการจากโรคต่างๆได้ ไม่ว่าจะเป็น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง โรคข้อเสื่อม โรคออสทิสติก โรคไตอักเสบ โรคตับอักเสบ โรคภูมิแพ้ตัวเอง (SLE) และลดเรือนริ้วรอยเพื่อผิวที่ดูอ่อนกว่าวัย เป็นต้น และปัจจุบันมีเซนไคมอลสเต็มเซลล์เหล่านี้ สามารถจัดเก็บและเพาะเลี้ยงในห้องปฏิบัติการที่เหมาะสมเพื่อจะนามาใช้ฟื้นฟูร่างกายจากโรคต่างๆในอนาคต
ส่วนเยื่อหุ้มรกเป็นอีกแหล่งที่อุดมไปด้วยมีเซนไคมอลสเต็มเซลล์(MSC’s) ที่เหมือนกับมีเซนไคมอลสเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อสายสะดือสามารถพัฒนาไปเป็นเซลล์กระดูก กล้ามเนื้อ และอวัยวะต่างๆได้ แต่สเต็มเซลล์จากเยื่อหุ้มรกนี้มีคุณลักษณะเฉพาะขึ้นอีก ที่สามารถพัฒนาไปเป็นเซลล์ของระบบสมอง ระบบประสาทได้ดี จากงานวิจัยในปัจจุบันพบว่า ได้ผลดีในการนำไปฟื้นฟูอาการทางสมอง และอาการทางระบบประสาท เช่น อัมพาต การบาดเจ็บที่สมอง ไขสันหลัง พาร์กินสัน อัลไซเมอร์ เป็นต้น
จึงถือได้ว่าสเต็มเซลล์จากเยื่อหุ้มรกเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการรักษาฟื้นฟูด้านระบบประสาทที่ดีที่สุดในอนาคตอีกด้วย ที่น่ายินดีคือ ในปัจจุบันเทคโนโลยีและงานวิจัยสามารถจัดเก็บ คัดแยกและเพาะเลี้ยง เพื่อนำไปใช้ในการรักษาในอนาคตได้ เช่นเดียวกับการเก็บสเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือและเนื้อเยื่อสายสะดือ
“ไครไอวิวา” ตอบโจทย์ชีวิตคุณภาพ
ด้วยคุณอนันต์ของสเต็มเซลล์ ทำให้มีความต้องการเก็บสเต็มเซลล์เอาไว้ใช้ยามเจ็บป่วยและจำเป็นในอนาคต เพื่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดีของคนในครอบครัว เป็นที่มาของกำเนิดธุรกิจ ธนาคารสเต็มเซลล์และเพาะเลี้ยงสเต็มเซลล์ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการ
“ไครไอวิวา” ได้ก้าวมาเป็นผู้นำที่สามารถตอบโจทย์ตรงนี้ได้ โดยเป็นธนาคารให้บริการจัดเก็บและเพาะเลี้ยงสเต็มเซลล์จากสายสะดือเด็กแรกคลอดที่เปิดดำเนินงานมาเป็นปีที่ 11 แล้ว จากความร่วมมือของบริษัทชั้นนำของโลกได้แก่ บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) ประเทศไทย และบริษัท อาร์เจ คอร์พ อินเดีย
โดย “ไครไอวิวา” มีความเชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีนวัตกรรมสเต็มเซลล์จากสหรัฐอเมริกา มีเครือข่ายการให้บริการในกว่า 24 ประเทศ ทั้งในทวีปอเมริกา ยุโรป เอเชีย อาเซียน และแอฟริกา และเป็นธนาคารจัดเก็บและเพาะเลี้ยงสเต็มเซลล์หลักที่แรกและที่เดียวในประเทศไทยที่ได้รับมาตรฐานรับรองตลอดกระบวนการที่เกี่ยวกับสเต็มเซลล์โดยเฉพาะจาก สมาคมธนาคารเลือดสหรัฐอเมริกา ( American Association of Blood Bank : AABB ) ทำให้มั่นใจเรื่องความมีคุณภาพและความปลอดภัยของสเต็มเซลล์ที่จะนำไปใช้
ไครโอวิวา บ.แรกร่วมTCELS ตั้งห้องแล็บคุมคุณภาพสเต็มเซลล์
นอกจากนี้ไครโอวิวายังประกาศถึงความสำเร็จล่าสุด เมื่อได้รับคัดเลือกจากภาครัฐ โดยศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) หรือ TCELS ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้เป็นผู้ร่วมจัดตั้งและดำเนินการห้องปฏิบัติการควบคุมคุณภาพของหน่วยปฏิบัติการผลิตเซลล์และยีนบาบัดภายใน TCELS ภายใต้ห้องปฏิบัติการมาตรฐาน GMP เพื่อให้บริการตรวจสอบ รับรองคุณภาพผลิตภัณฑ์เซลล์และยีนบาบัดจากเอกชนและภาครัฐ เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ใช้จะได้รับสเต็มเซลล์ที่มีคุณภาพ ปลอดภัยตามมาตรฐานระดับสากลจริง ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมสเต็มเซลล์เพื่อสุขภาพของประชาชนในประเทศ และมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติต่อไป
ทั้งนี้ คุณจิรัญญา ประชาเสรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไครโอวิวา ได้ร่วมลงนามสัญญาความร่วมมือ “การจัดตั้งห้องปฏิบัติการทดสอบ และควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์เซลล์และยีนบาบัด” โดยมี ดร.ศิรศักดิ์ เทพาคา รองผู้อำนวยการทีเซลส์และ คุณกมลรัตน์ ศรีถวิล ประธานฝ่ายปฏิบัติการ ไครโอวิวา ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามไปเมื่อวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2562 ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุม ชั้น 20 ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน)
คุณจิรัญญา เปิดเผยว่า “ไครโอวิวามีวิสัยทัศน์มุ่งมั่นลงทุนทำทุกอย่างเพื่อประโยชน์ของลูกค้าและเพื่อความมั่นคงในระยะยาว และการร่วมมือกับ TCELS ถือเป็นก้าวสำคัญที่ภาครัฐให้ความไว้ใจ เป็นองค์กรต้นแบบและในด้านคุณธรรม โดยจุดแข็งของบริษัทที่ดำเนินการเสมอมาคือ มุ่งให้ความรู้แก่ทั้งพนักงานและผู้สนใจซึ่งเป็นข้อมูลที่แท้จริง สามารถพิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์ มีทีมงานให้บริการตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ทั่วประเทศ มีการติดตามลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เปรียบเสมือนส่วนหนึ่งของครอบครัวลูกค้า เมื่อมีการเจ็บป่วยหรือให้คำปรึกษา และมีบริษัทผู้สนับสนุน คือ อินโดรามาฯ เป็นบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งน่าเชื่อถือ
จากเหตุดังกล่าวทำให้ ไครโอวิวาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีผู้มาใช้บริการฝากสเต็มเซลล์ประมาณ 20,000 ราย ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ในสัดส่วน 70% ต่อ 30% โดยเฉพาะในโซนประเทศเพื่อนบ้าน CLMV ก็มาใช้บริการกันมาก นอกจากนี้ยังมาจากออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง ขณะนี้ไครโอวิวา ยังอยู่ระหว่างไปเปิดศูนย์ที่เวียดนามและเมียนมาด้วย”
ผลงานของไครโอวิวา ยังการันตีได้ด้วยการได้รับรางวัล “บริษัทสเต็มเซลล์ยอดเยี่ยมแห่งประเทศไทย” 3 ปี ติดต่อกัน ในสาขาธุรกิจ Healthcare จาก Frost & Sullivan และได้รับการรับรองในมาตรฐานการจัดการ ISO 9001 และได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนแห่งประเทศไทย (BOI or Thailand Board of Investment)
กล่าวได้ว่า ไครโอวิวา ไม่ได้มองที่การรักษาอย่างเดียว แต่มองที่การปกป้องด้วย ซึ่งการเก็บสเต็มเซลล์ไว้จะช่วยสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของคนในครอบครัวได้ โดยเฉพาะในยามที่ประเทศไทยเรากำลังเข้าสู่สังคมสูงวัย เหมือนญี่ปุ่นและในอีกหลายประเทศของโลก
คุณจิรัญญา มองว่า ในอีก 20 ปีข้างหน้า ไทยจะมีผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไปมากขึ้น จนไม่สามารถดูแลรักษาตามปกติอย่างทั่วถึงได้
ดังนั้น การเก็บเกี่ยวรักษาสเต็มเซลล์ไว้ จึงน่าจะเป็นทางเลือกหนึ่ง ที่ช่วยสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพให้แก่เราได้…