สสว.ผนึกกำลังภาคี30องค์กรจัดงาน
“วันของSME : Together We Share”
สสว. จับมือกับพันธมิตรมากกว่า 16 หน่วยงาน และ E- Marketplace 13 แห่งชื่อดัง จัดงาน “วันของ SME : Together We Share และ SME One Fest in Summer” มอบสิทธิประโยชน์พิเศษแก่ผู้ประกอบการ SME รวมทั้งเพื่อเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขันและทดสอบตลาดสำหรับ SME เนื่องในโอกาส “วันของSME” ที่สสว.กำหนดให้ตรง วันที่ 4 เดือน 4 ของทุกปี
นายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวถึงการจัดงาน “วันของ SME : TOGETHER WE SHARE และ SME ONE Fest in Summer” ว่า สสว.กำหนดให้จัดขึ้นวันที่ 4 เดือน 4 หรือวันเป็นวันของ SME ซึ่งมีการจัดงานตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยใช้โจทย์ปี 2561 ว่า SME TOGETHER WE ARE ONE สาเหตุที่ใช้วันที่ 4 เดือน 4 ก็คือ เพื่อสร้างการจดจำว่า ทุกปีของวันนี้ เป็นวันของ SME ที่ สสว. จัดงานขึ้นเพื่อพี่น้องชาว SME
นายสุวรรณชัย กล่าวอีกว่า สำหรับปีนี้ คอนเซ็ปต์ของการจัดงานคือ SME TOGETHER WE SHARE ความหมายคือ เป็นเสมือนวันแห่งความร่วมมือรวมพลังเป็นอันหนึ่งเดียวกัน เพื่อผลักดันให้ SME ไทยก้าวต่อไปอย่างมั่นคง โดยสสว. ได้จับมือกับหน่วยงานเอกชนกว่า 30 องค์กร ไม่ว่าจะเป็น ห้างสรรพสินค้า E Marketplace เครือข่ายเทคโนโลยี กลุ่มเทเลคอมต่างๆ และสถาบันการเงิน ที่ต้องการเห็น SME ไทยเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และสามารถแข่งขันได้ในยุคดิจิทัล โดยบริษัทเหล่านี้ พร้อมใจมอบส่วนลด หรือสิทธิพิเศษสำหรับ SME
“TOGETHER WE SHARE คือ เพื่อสะท้อนแนวคิดเรื่องการแบ่งปันจาก สสว. และจากองค์กรพันธมิตร เพื่อเป็นประโยชน์กับ SME ให้ได้มากที่สุด โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ SME ไทยได้ก้าวหน้าและเติบโต เป็นรากฐานทางเศรษฐกิจของประเทศต่อไป” นายสุวรรณชัย ระบุ
สำหรับพันธมิตรที่มาร่วมมอบสิทธิประโยชน์ในวันของ SME : TOGETHER WE SHARE ในปีนี้ ประกอบด้วย กลุ่มที่ 1 ได้แก่ สถาบันทางเงิน ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) ที่จะมอบองค์ความรู้ การจัดอบรมหลักสูตรเพิ่มประสิทธิภาพการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกิจ หรือจัดกลุ่มพิเศษที่เหนือชั้นกว่าสิทธิประโยชน์ทั่วไป หรือมากขึ้นกว่าเดิม สำหรับ SME ที่เป็นสมาชิกของ สสว.
กลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มเทคโนโลยี ได้แก่ กลุ่มหน่วยงานภาครัฐ เช่น สถาบันรหัสสากล สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จะมอบ แพ็คเกจจิ้งพิเศษ และสิทธิประโยชน์ฟรีด้านการพัฒนาเทคโนโลยีของธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการ โดยผู้เชี่ยวชาญ สำหรับสมาชิก สสว.
กลุ่มที่ 3 คือ กลุ่มบริษัทเอกชน ได้แก่ บริษัท ช็อป โกลบอล (ประเทศไทย) (Shop Channel) บริษัทซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) บริษัทจัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ Jobs DB Recruitment บริษัทเทเลอินโฟ มีเดีย จำกัด (มหาชน) บริษัทแอดวานซ์ ไวน์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด
กลุ่มที่ 4 คือ กลุ่มบริษัทเอกชน ผู้จัดงานแสดงสินค้านานาชาติ บริษัท บิสิเนส อีเว้นท์ เซอร์วิสเซส (ไทยแลนด์) จัดงาน Care Expo-Thailand 2019 ระหว่างวันที่ 29 สิงหาคม – 1 กันยายน 2562 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค EH 103
บริษัท ทรู คอปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กลุ่มบริษัทแพคริม บริษัท คอลเลคทีฟ วิสดอม จำกัด (Credit OK) บริษัท Cisco Systems (Thailand) จำกัด บริษัท ฟาสต์เวิร์ค เทคโนโลยี จำกัด และบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ซึ่งบริษัทเหล่านี้ มอบสิทธิพิเศษต่าง ๆ อาทิ Privilege customer ส่วนลดบริการที่มากกว่าทั่วไปเมื่อสมัคร application SME CONNEXT ของ สสว. การสร้างคอนเทนต์บนเพจของบริษัท การอบรมหลักสูตรด้านธุรกิจดิจิทัล ผ่านระบบออนไลน์ การฝึกอบรมทางด้านระบบไอที และที่พิเศษคือ ฟรีสำหรับสมาชิก สสว.
“บริษัทชั้นนำเหล่านี้ พร้อมที่จะมอบสิทธิประโยชน์พิเศษสำหรับสมาชิก สสว. โดยเฉพาะ อาทิ บริษัท ทรูฯ จะมอบสิทธิพิเศษเมื่อซื้อเครื่องพร้อมแพ็คเกจ และโหลด application SME CONNEXT ก็จะได้ส่วนลดค่าเครื่องโทรศัพท์ฟรี 50 เปอร์เซ็นต์ โทรฟรีเครือข่ายทรูมูฟ ใช้เน็ตฟรีสำหรับ Social app 12 เดือน เป็นต้น” ผอ.สสว. กล่าว
นอกจากนี้ ภายในงานมีการเชิญ e marketplace ที่จะมาจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นยอดขายให้กับ SME โดยไม่คิดมูลค่า ได้แก่ shop season, Far-E Shopee, Beausty Nista, Wongna, Lnw shop, Hungry Hub , Tarad.com, Pinsouq , คลัง.com, Priceza, Lazada, ThailandMall และมีการเสวนาหัวข้อ “สร้างยอดขายอย่างไรให้เปรี้ยงบน Market Place โดยคุณนัฐพล บุญภินนท์ ผู้ก่อตั้ง บริษัท New Step Asia จำกัด ” และ “การตลาดแบบว๊าวๆ สไตล์ SME 4.0” โดยเจ้าของแบรนด์ดัง คือ คุณศิรุวัฒน์ ชัชวาล ประธาน บริษัท เครซี่ สไปร์ซี่ กรุ๊ป จำกัด เจ้าของแบรนด์ตำมั่ว และคุณอริยะ จิรวรา ร้าน เซนส์ ออฟ สไตล์ (SOS-SENSE OF STYLE) ร้านมัลติแบรนด์ชื่อดัง ที่รวบรวบแบรนด์ดังคุณภาพจากโลกออนไลน์มาไว้ที่ร้านเดียวกัน
นายสุววรณชัย กล่าวอีกว่า นอกจากงาน SME TOGETHER WE SHARE แล้ว สสว. ยังจัดงาน SME ONE Fest in Summer โดยจัดขึ้นวันที่ 4 – 7 เมษายน 2562 บริเวณลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ สสว. โดยนำผู้ประกอบการจาก 5 กลุ่มซึ่งเป็นผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการต่างๆ ของสสว. ได้แก่ กลุ่มอาหาร แฟชั่น เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ออแกนิค เครื่องอุปโภค บริโภค ซึ่งทั้งหมดเป็นผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่น และได้รับการพัฒนาจากโครงการต่างๆ ของ สสว. มาร่วมออกร้าน
“สสว. มีความตั้งใจในการยกระดับ ส่งเสริม SME และสิ่งที่เป็นประโยชน์สูงสุด นอกเหนือจากองค์ความรู้ภาคปฏิบัติการและวิชาการต่างๆ ที่ สสว. มอบให้กับ SME เพื่อเป็นเครื่องมือที่จะทำให้ SME ประสบความสำเร็จแล้ว ที่สำคัญคือ สสว. เชื่อว่า กลไกทางการตลาด และเครื่องมือในการสร้างรายได้ คือปัจจัยที่จะทำให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจได้ เราจึงใช้โอกาสนี้ในการจัดเวทีเพื่อให้ผู้ประกอบการพบกับผู้ซื้อ หรือที่สสว. เรียกว่า เป็นการทดสอบตลาดเพื่อผู้ประกอบการ ดังนั้นใครต้องการมาใช้บริการ มาอุดหนุน มาให้กำลังใจ เชิญมาที่งานได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ สสว. ตั้งใจจะมอบให้กับผู้ประกอบการ”
นายสุวรรณชัย ยังกล่าวด้วยว่า ปัจจุบันมีผู้ประกอบการ SME อยู่มากกว่า 3,000,000 ราย ซึ่งไม่ว่าสถานการณ์การเมืองจะเป็นอย่างไร มีรัฐบาลใหม่เข้ามา สสว.จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด มีการดูแลตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง มีการดำเนินการในทุกจังหวัด ทั้งนี้ในจำนวนกว่า 3 ล้านรายนั้น มี 2,300,000 รายเป็นSME รายย่อย มีรายได้ประมาณ 1.8 ล้านบาทต่อปี ซึ่งสสว.เดินหน้าเชิงรุก ถ้ากลุ่มนี้มีรายได้เพิ่มขึ้นรายละ 1 ล้านบาทภายใน 5 ปี ก็จะมีเงินเพิ่มขึ้น 2.3 ล้านล้านบาทและจะมีผลผลักดัน GDP ของประเทศเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
ทั้งนี้รายได้ที่เพิ่มขึ้น 1 ล้านบาท มาจากกลยุทธ การสร้างSME รุ่นบุกเบิกประจำจังหวัด มีพี่เลี้ยง 2,200 รายประกอบ 1 รายดูแล 5 ธุรกิจ ติดตาม 3 ปี 5 ปี ถ้าโมเดลธุรกิจพร้อม ก็จะต่อด้วยการให้เครดิตเสริมเพื่อเดินหน้าธุรกิจให้เติบโต
ในส่วนของการฟื้นฟูSME ผู้ประสบปัญหา ผ่านกองทุนฟื้นฟูSME จำนวน 3,000 ราย วงเงิน 1,800 ล้านบาท นั้นพบว่า SME ที่เข้าร่วมโครงการแผนฟื้นฟู ฟื้นตัวได้แล้วกว่า 80% โดยอยู่ในเกณฑ์ที่ดี มากถึง 40% และอีก 42% อยู่ในระดับคงตัว
สำหรับในปี 2562 ทาง สสว. ได้มีแผนการนำเสนอ คณะรัฐมนตรี เพื่อขออนุมัติ กองทุนฟื้นฟู เพิ่มเติมอีก 1,800 ล้านบาท เพื่อ ช่วยเหลือผู้ประกอบการSME อีกไม่ต่ำกว่า 3 พันราย