มท.-๖หน่วยงานจัดผู้เชี่ยวชาญ
คัดสรรสุดยอดผลิตภัณฑ์OTOP
กระทรวงมหาดไทย บูรณาการ ๖ หน่วยงาน ระดมผู้เชี่ยวชาญกว่า ๔๐๐ คน ร่วมกันคัดสรรสุดยอดหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ไทย เพื่อรับรองคุณภาพและมาตรฐานสินค้า OTOP กว่า ๒๐,๐๐๐ ผลิตภัณฑ์ ตั้งเป้าผลิตภัณฑ์ระดับ ๔-๕ ดาวเพิ่ม ๕%
คณะกรรมการคัดสรรสุดยอดหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ไทย จัดการประชุม ปี พ.ศ.๒๕๖๒ ครั้งที่ ๑/๒๕๖๒ เมื่อวันอังคารที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๖๒ เวลา ๑๓.๓๐ น. ณ ห้องประชุมราชสีห์ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย โดย นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้เปิดเผยว่า ในปี ๒๕๖๒ กระทรวงมหาดไทย มีภารกิจสำคัญเกี่ยวกับการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานสินค้า OTOP ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล ให้ดำเนินการภายใต้โครงการคัดสรรสุดยอดหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ไทย (OTOP Product Champion) หรือที่เรียกกันโดยติดปากว่า การให้ดาวแก่ผลิตภัณฑ์ OTOP ซึ่งเป็นโครงการที่ คณะกรรมการอำนวยการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ แห่งชาติ (กอ.นตผ) มอบหมายให้ กระทรวงมหาดไทย ดำเนินการมาตั้งแต่ปี ๒๕๔๙ โดยดำเนินการ ๒ ปี/ครั้ง
สำหรับในปี ๒๕๖๒ เป็นการดำเนินงานครั้งที่ ๖ ซึ่งโครงการนี้ความสำคัญต่อการสร้างความตระหนักให้ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ได้มีแรงกระตุ้นในการพัฒนาสินค้า OTOP ของตนเองให้มีคุณภาพและมาตรฐานตามเกณฑ์ที่ทางราชการกำหนด ก่อให้เกิดความเชื่อมั่นและความพึงพอใจของผู้บริโภค โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดระดับผลิตภัณฑ์ (Product Level) จัดระบบฐานข้อมูลผลิตภัณฑ์ (Profile) ที่จะใช้ในการทำงานเชิงบูรณการของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนเป็นการประชาสัมพันธ์ และ เสริมสร้างคุณค่าของผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่ยอมรับแก่บุคคลทั่วไป โดยมีเป้าหมายเป็นผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ที่ลงทะเบียน ในระหว่างปี ๒๕๕๗ ถึงวันที่ ๓๑ มีนาคม๒๕๖๒ ส่งผลิตภัณฑ์เข้าร่วมโครงการจำนวนไม่น้อยกว่า ๒๐,๐๐๐ ผลิตภัณฑ์ และมีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการคัดสรรในระดับ ๔ – ๕ ดาว ไม่น้อยกว่า ๘,๑๓๔ ผลิตภัณฑ์ (เพิ่มขึ้นจากการคัดสรรในครั้งที่ ๕ หรือในปี ๒๕๕๙ ร้อยละ ๕)
ทั้งนี้ในส่วนของกรมการพัฒนาชุมชน ซึ่งได้รับมอบหมายจากกระทรวงมหาดไทยให้เป็นหน่วยงานในการดำเนินงานคัดสรรฯ นายสมหวัง พ่วงบางโพ รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ได้ให้ข้อมูลว่า การคัดสรรจะใช้วิธีการที่มีคุณภาพมาตรฐาน โปร่งใสและน่าเชื่อถือ กำหนดเกณฑ์การพิจารณาใน ๓ ด้านคือ ด้านผลิตภัณฑ์และความเข้มแข็งชุมชน ด้านการตลาดและความเป็นมาผลิตภัณฑ์ และด้านคุณภาพผลิตภัณฑ์ โดยการใช้มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญภายนอก (Outside-in) ซึ่งเป็นนักการตลาด มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในพัฒนาผลิตภัณฑ์ มาร่วมเป็นคณะกรรมการพิจารณาตัดสินว่าผลิตภัณฑ์ OTOP ชิ้นใดจะมีมาตรฐานอยู่ในระดับ ๑ ดาว ๒ ดาว ๓ ดาว ๔ ดาว หรือ ๕ ดาว
โดยในปีนี้ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดียิ่งจาก 6 หน่วยงาน ประกอบด้วย 1. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี 2. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ 3. กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 4. กระทรวงอุตสาหกรรม 5. กระทรวงพาณิชย์ และ 6. กระทรวงสาธารณสุข ส่งผู้เชี่ยวชาญมาร่วมเป็นคณะกรรมการตัดสินมากกว่า ๔๐๐ คน
ซึ่งมีกำหนดการดำเนินงานที่สำคัญประกอบด้วย
- วันที่ ๑๐ – ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๒ จังหวัดโดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดทุกจังหวัด และกรุงเทพมหานคร รับสมัครผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ส่งผลิตภัณฑ์เข้ารับการคัดสรรระดับจังหวัด/กรุงเทพมหานคร โดยผู้สมัคร ๑ ราย ส่งผลิตภัณฑ์ เข้าคัดสรรได้ไม่เกิน ๓ ผลิตภัณฑ์
- วันที่ ๒๔ พฤษภาคม – ๒ มิถุนายน ๒๕๖๒ กรมการพัฒนาชุมชน ร่วมกับ ๖ หน่วยงานดังกล่าว ดำเนินการคัดสรรระดับประเทศ ณ ตลาดต่อยอด เออีซี เทรด เซ็นเตอร์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
- วันที่ 10 มิถุนายน 2562 ประกาศผลการคัดสรรรอบแรก สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ไม่ต้องรอผลการตรวจวิเคราะห์
- วันที่ 25 มิถุนายน 2562 ประกาศผลการคัดสรรรอบสองซึ่งเป็นรอบสุดท้าย
นายบุญธรรม ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ในโอกาสนี้กระทรวงมหาดไทย จึงขอเชิญชวนผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ทุกรายที่ผลิตภัณฑ์มีมาตรฐานตามเกณฑ์ที่กำหนด ร่วมส่งผลิตภัณฑ์สมัครเข้ารับการคัดสรร นอกจากผลิตภัณฑ์ของท่านจะได้รับประกาศนียบัตรรับรองมาตรฐานทำให้ทราบว่าผลิตภัณฑ์มีมาตรฐานอยู่ในระดับใดแล้ว ยังจะได้รับคำแนะนำในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพและมาตรฐานเพื่อก้าวเข้าสู่ความเป็นสากลอีกด้วย
ทั้งนี้ในระดับภูมิภาคสมัครได้ที่สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอทุกแห่ง และในกรุงเทพมหานคร สมัครได้ที่สำนักงานเขตทุกแห่ง ในระหว่างวันที่ ๑๐ – ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ในวันและเวลาราชการ นอกจากนั้นในส่วนของประชาชนทั่วไปที่สนใจกระบวนการคัดสรรในระดับประเทศ และนิทรรศการสินค้า OTOP สามารถแวะเข้าไปเยี่ยมชมได้ที่ ตลาดต่อยอด เออีซี เทรด เซ็นเตอร์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในระหว่างวันที่ ๒๔ พฤษภาคม – ๒ มิถุนายน ๒๕๖๒ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสอบถามได้ที่กรมการพัฒนาชุมชน หมายโทรศัพท์ ๐๒ ๑๔๑ ๖๐๙๐ หรือสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอ/สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด ทุกแห่ง