“แฮ็ปปี้ เอ็มพีเอ็ม” โตสู่ปี20
ส่งไม้ต่อ “นักบริหารคู่แฝด”
“แฮ็ปปี้ เอ็มพีเอ็ม” ธุรกิจเครือข่ายสุขภาพและความงามสัญชาติไทย เจ้าของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชั้นนำ “สารสกัดจากละอองเกสรดอกไม้” และกาแฟเพื่อสุขภาพแบรนด์ “แฮ็ปปี้ คอฟฟี่” ผู้คว้ารางวัล “THE QUALITY AWARDS 2019” ทุ่มงบเฉียด 8 หลัก เตรียมจัดงานฉลองครั้งยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสครบรอบ 20 ปี เชิดชูเกียรติสมาชิกที่ร่วมธุรกิจมาด้วยกันร่วม 2 ทศวรรษ พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ไฮไลท์รายการใหม่ “POLLENNA FUJI LAVA MINERAL SOAP” ดึง “จอย-ชลธิชา” ดาราสาวจากละครดัง “แรงเงา” ร่วมเสวนาเปิดเคล็ดลับดูแลสุขภาพผิว วันที่ 16 มิ.ย. 2562 ณ แจ้งวัฒนะฮอลล์ เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ คาดสมาชิกทั้งในและต่างประเทศเข้าร่วมงานมากกว่า 6,000 คน ดันยอดขายสิ้นปีสู่ 1,000 ล้าน
“สุกิจ สัตย์เพริศพราย” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แฮ็ปปี้ เอ็มพีเอ็ม จำกัด หนึ่งในผู้ก่อตั้งและสมาชิกสมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทย (TDIA) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯ กำลังดำเนินธุรกิจเครือข่ายสุขภาพและความงามเข้าสู่ระยะเวลา 20 ปีเต็ม ตนมีความรู้สึกปลาบปลื้มและภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ได้รับการตอบรับอย่างยอดเยี่ยมเสมอมาจากผู้บริโภค และได้รับความไว้วางใจจากสมาชิกร่วมธุรกิจ
ปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้บริษัทเติบโตและยั่งยืนมาได้จนถึงทุกวันนี้ มั่นใจว่าเนื่องจากบริษัทฯมุ่งเน้นการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน มีผลวิจัยรองรับในระดับสากล รวมถึงมีแผนการตลาดที่โดดเด่น การปันผลที่ซื่อตรงและมีคุณธรรมกับสมาชิกนักธุรกิจ ทำให้บริษัทสร้างฐานสมาชิกในปัจจุบันได้มากกว่า 1,000,000 คน สร้างอาชีพสร้างชีวิตใหม่ให้กับผู้คนหลากหลายครอบครัว สามารถขยายสาขาให้บริการลูกค้าได้ทั้งภายในประเทศ-ต่างประเทศ ร่วม 20 สาขา และยังคงมีแผนที่จะขยายสาขาเพิ่มอีกอย่างต่อเนื่องในประเทศเพื่อนบ้าน
“ทั้งนี้สำหรับอัตราการเติบโตในปี 2561 ที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายเติบโตขึ้นจากปี 2560 ประมาณ 20 % และในปี 2562 นี้ จึงถือเป็นอีกปีแห่งความเปลี่ยนแปลงที่ทรงพลังมากขึ้นอย่างแน่นอน เพราะจากกลยุทธ์และนโยบายใหม่ๆ จากทายาทฝาแฝดทั้งสองของผม คือ ณพวิทย์ สัตย์เพริศพราย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด และณพวัฒน์ สัตย์เพริศพราย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ซึ่งเป็นนักบริหารหนุ่มไฟแรง มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเข้ามาเสริมทัพแบบเต็มตัวมากขึ้น ผมเชื่อว่าในยุคดิจิทัลนี้ บริษัทฯจะสามารถสร้างการเติบโตได้แบบทวีคูณ โดยเฉพาะการรุกกลยุทธ์ที่ผสมผสานกันระหว่างตลาดออนไลน์และออฟไลน์ และคนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่ที่ลงตัว คาดว่าปีนี้เราจะสามารถสร้างยอดขายได้เฉียด 1,000 ล้านอย่างแน่นอน”
ทางด้านของ ณพวัฒน์ สัตย์เพริศพราย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ กล่าวว่า สำหรับการเข้ามารับผิดชอบงานอย่างเต็มตัวของตนเองนั้น ความรับผิดชอบหลักคือการดูแลระบบหลังบ้านให้แข็งแกร่งและทันสมัยมากขึ้น เพื่อให้ตอบสนองกับยุคดิจิทัลที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งด้านการพัฒนาระบบการดูแลสมาชิก ระบบการดูแลพนักงาน ระบบการพัฒนาการสื่อสารการตลาด การพัฒนาเครื่องมือสนับสนุนการขายออนไลน์ การพัฒนาระบบไอทีจ่ายผลตอบแทน ที่สำเร็จไปด้วยดีในเฟสแรก ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา ภายใต้ชื่อ ระบบซอฟแวร์ “HAPPY ME”
“สิ่งที่ท่านประธานหรือคุณพ่อ สอนลูกทุกคนเสมอมาคือ “ความมั่นคงของสมาชิก คือความยั่งยืนของบริษัท” ดำเนินธุรกิจ ภายใต้วิสัยทัศน์ Design Your Own Life With HAPPY NETWORK ให้ทุกคนได้ออกแบบไลฟ์สไตล์ตัวคุณเองได้ ด้วยเครือข่ายแห่งความสุข เพราะถ้าสมาชิกมีชีวิตที่ดีและมีความสุขเสมอเมื่อได้ร่วมงานกับเรา บริษัทฯย่อมเติบโตได้ตามธรรมชาติ ซึ่งระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา ความยั่งยืนที่เกิดขึ้น คือบทพิสูจน์ว่าเรามาถูกทางและทำได้จริง ดังนั้นการสนับสนุนทุกอย่างที่จะทำให้สมาชิกขายของง่ายขึ้น ทำการตลาดได้เพิ่มขึ้น ทางบริษัทฯจึงไม่เคยลังเลที่จะทำทันที”
ล่าสุดบริษัทฯยังทุ่มงบประมาณร่วม 10 ล้านบาท เพื่อเปลี่ยนระบบเกี่ยวกับซอฟแวร์ใหม่ทั้งหมด ทั้งยังได้ทำการพัฒนาระบบการขายออนไลน์ ให้สมาชิกมีเครื่องมือในการทำตลาดได้สะดวกและง่ายมากยิ่งขึ้น ภายใต้ชื่อเว็บเซลล์เพจ “HAPPYeMARKET” ที่บริษัทจะให้ฟรีกับทุกคน เมื่อผ่านการอบรมการทำธุรกิจออนไลน์ที่ถูกต้องกับบริษัท
ทั้งนี้อีกหนึ่งส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้ คือการเฟ้นหา ผลิตภัณฑ์คุณภาพใหม่ๆ มาเสริมทัพเพื่อให้สมาชิกนักธุรกิจทำตลาดได้ง่ายขึ้น ขายของได้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ จากเดิมที่บริษัทฯมีฐานที่แข็งแกร่งจากผลิตภัณฑ์ที่ทำยอดจำหน่ายได้มากที่สุดของบริษัทอยู่แล้ว คือ “ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สารสกัดจากละอองเกสรดอกไม้” ที่วิจัยและพัฒนาจาก “GRAMINEX” โรงงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชั้นนำในประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีผลวิจัยรองรับจากหลายประเทศทั่วโลก
ล่าสุดบริษัท กำลังจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่วิจัยและพัฒนาสารสกัดสำคัญจากประเทศญี่ปุ่น “Pollenna Fuji Lava Mineral Soap” พอลเลนน่า ฟูจิ ลาวา มิเนอรัล โซฟ สบู่เพื่อผิวหน้าสะอาดใส เนียนนุ่มชุ่มชื้น ด้วยคุณค่าแร่ธาตุจากภูเขาไฟฟูจิ ผสานคุณค่ากับสารสกัดธรรมชาติ เช่น สารสกัดน้ำมันรำข้าว สารสกัดจากโปรตีนถั่วเหลือง และสารสกัดจากมะละกอ เสริมด้วยคุณสมบัติของชาโคลที่ช่วยดูดซับสิ่งสกปรก และความมันบนใบหน้า สาเหตุหนึ่งของปัญหาสิว ผิวที่หมองคล้ำ ให้แลดูกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติเมื่อใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งจะเปิดตัวภายในการจัดงานครบรอบ 20 ปี “พลังความสุขที่ยั่งยืนข้ามทศวรรษ” วันที่ 16 มิถุนายน 2562 ณ แจ้งวัฒนะฮอลล์ เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ โดยไฮไลท์สำคัญที่จะเกิดขึ้นในวันนั้น นอกจากจะมีการจัดกิจกรรมเชิดชูเกียรติ สมาชิกที่อยู่กับบริษัทมาตลอด 20 ปีแล้ว ยังมีการ “เสวนา เผยเคล็ดลับการดูแลสุขภาพผิวจากสารสกัดธรรมชาติ” จาก “ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพ” และ ดาราสาวสวยมากฝีมือ “จอย-ชลธิชา นวมสุคนธ์” หรือ “นก” จาก ละครดัง “แรงเงา” อีกด้วย พร้อมทั้งมีกิจกรรมให้ผู้เข้าร่วมงานร่วมสนุกอีกมากมาย คาดว่าจะมีสมาชิกเดินทางมาร่วมงานไม่ต่ำกว่า 6,000 คน
ณพวิทย์ สัตย์เพริศพราย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด กล่าวเสริมว่า สำหรับบทบาทหน้าที่ของตน เป็นอีกด้านที่สำคัญมาก นั่นคือการพัฒนาทักษะรอบด้านให้กับนักขายทั้งคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ โดยในส่วนของคนรุ่นใหม่นั้น ตนเองได้ก่อตั้งนักธุรกิจกลุ่ม “LA CLÉ” (ลาเคลย์) กลุ่มนักธุรกิจที่เรียกว่าเป็น “YOUNG BLOOD” มาร่วมขับเคลื่อนธุรกิจในยุคดิจิทัลนี้ พร้อมทั้งเปิดหลักสูตร “LA CLÉ ACADEMY” หลักสูตรปั้นคนรุ่นใหม่สู่นักธุรกิจมืออาชีพ โดยมีตนเองเป็นคนดูแล
ซึ่งเป็นหลักสูตร 3 วัน ที่จะสอนให้คนรุ่นใหม่ที่อยากมีรายได้เพิ่ม ขายของเป็น สร้างสื่อภาพนิ่งและวิดีโอด้วยตัวเอง สอนการเขียนสคริปต์ และยิงโฆษณาออนไลน์แบบมืออาชีพ รู้จักการแยกประเภทลูกค้าตามสัญชาตญาณการซื้อจากหลักวิทยาศาสตร์ ทำให้เจาะกลุ่มลูกค้าแต่ละประเภทได้แตกต่างและได้ผลจริง สอนทั้งทฤษฏีและเวิร์คช้อปแบบเข้มข้น ซึ่งที่ผ่านมามีคนนำเทคนิคทุกอย่างไปใช้ แล้วประสบความสำเร็จขายของได้เป็นหลักหมื่นหลักแสน
นอกจากนี้ เมื่อเรียนจบแล้ว บริษัทฯยังมี HAPPYeMARKET เว็บเซลล์เพจ ที่บริษัทจะให้ฟรีกับทุกคน ที่ผ่านการอบรมแล้วเท่านั้น อีกทั้งยังมีทีมงานคอยดูแลจนกว่าจะประสบความสำเร็จในการขาย ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมาก โดยเฉพาะสมาชิกที่เป็นคนรุ่นใหม่หรือลูกหลานของสมาชิกดั้งเดิม เพราะต้องยอมรับว่าปัจจุบันไลฟ์สไตล์ผู้คนส่วนมากอยู่กับโลกออนไลน์มากกว่าโลกความเป็นจริง แค่ “เปลี่ยนกิจวัตร ให้กลายเป็นกิจการ” โดยไม่ต้องผูกมัดเหมือนกับงานประจำ ให้เขาได้มีอิสระทางเวลาและความคิดในการหาเงิน ธุรกิจก็จะขายและขยายได้ด้วยตัวของมันเอง
“จุดประสงค์ของผม คือ อยากให้คนรุ่นใหม่ทุกคน ได้เป็นเสาหลักของครอบครัว ไม่ต้องร่ำรวยเป็นเศรษฐีเงินล้าน แต่สามารถมีรายได้ไปจุนเจือครอบครัว ได้ดูแลคนที่เขารักได้ ได้ใช้ชีวิตในแบบที่อยากเป็น ให้เขาได้ใช้ชีวิต ไม่ใช่แค่มีชีวิต ผมจะบอกคนอื่นเสมอว่า ที่นี่แตกต่างนะ เราไม่ได้บอกให้คุณต้องรวยๆๆอย่างเดียว เราอยากให้คุณได้มีความสุขกับชีวิตอย่างเต็มที่ได้ต่างหาก วันนี้วัยรุ่นหลายคนที่เป็นนักธุรกิจกลุ่ม “LA CLÉ” เป็นเสาหลักของครอบครัวได้ เลี้ยงครอบครัวได้ แล้วก็มีเวลาให้ครอบครัวได้ด้วย งานอดิเรกรักที่จะทำอะไรก็ได้ทำ เป็นความสุขแบบ 100 % เขามีความสุข ครอบครัวเขามีความสุข ผมยิ่งมีความสุข”
อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมให้บริษัทฯ สามารถเติบโตแบบยั่งยืนได้ในทุกวันนี้ คือการมี “คณะกรรมการบริหาร” มืออาชีพ อันได้แก่ “พีรพงษ์ หลังปูเต๊ะ” ผู้บริหารด้านการตลาดมืออาชีพ ที่เป็นผู้ออกโปรโมชั่นเด็ดๆและโดนใจนักขาย เป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนยอดขายอยู่เสมอ รวมถึงเป็นผู้ขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่าง สปป.ลาว อดีตแชมป์เซลล์มือทองของแบรนด์ดังระดับประเทศ , “ลัดดาวัลย์ บุญนันท์” ผู้อำนวยการหลักสูตร HAPPY ACADEMY หลักสูตรฝึกอบรมสำหรับนักธุรกิจรุ่นใหญ่ ที่ช่วยให้หลายคนได้ค้นพบคุณค่าที่ซ่อนอยู่ของตนเอง และสร้างยอดขายได้เพิ่มขึ้น นักบริหารหญิง ที่ได้รับคุณวุฒิการฝึกอบรมหลากหลายในระดับสากล , “เฉลิมชัย สุวรรณรักษ์” อีกหนึ่งนักบริหารการตลาด ที่มีเทคนิคในการรุกตลาดแบบแพรวพราว รวมถึงการมองเห็นโอกาสทางการขยายตลาด ที่ซ่อนอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศกัมพูชา เป็นต้น , “รดาดาว รัตน์ถาวรกุล” นักบริหารที่เก่งฉกาจเรื่องการบริหารคน โดยเฉพาะในธุรกิจเครือข่ายที่ต้องใช้เทคนิคระดับสูง บริหารทั้งควบคุมและดูแลให้นักธุรกิจทุกคนทำงานภายใต้กฎระเบียบและจรรยาบรรณของนักขายที่ถูกต้องเสมอมา
ปัจจุบันบริษัท แฮ็ปปี้ เอ็มพีเอ็ม จำกัด ถือเป็นหนึ่งในธุรกิจเครือข่ายสุขภาพและความงาม ที่ได้รับการยอมรับจากแวดวงว่า เป็นแบรนด์ที่มั่นคง ยั่งยืน และได้รับความไว้วางใจจากสมาชิกเข้าร่วมธุรกิจในระยะเวลาที่ยาวนานมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งในประเทศไทย โดยคาดว่าภายในสิ้นปี 2562 นี้ บริษัทจะสามารถสร้างยอดขายต่อปีได้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท