ติดดาว.. ‘ธาตรี’ แห่งที กรุ๊ปฯ
ทุกอาชีพสำเร็จได้.ทำแล้วอย่าเลิก
มีนักธุรกิจจำนวนไม่มากนักที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย หนึ่งในจำนวนนั้น น่าจะรวมถึง “ธาตรี นุชสวาท” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที กรุ๊ป แอซเซ็ท จำกัด ด้วยเช่นกัน ที่สามารถทำสิ่งที่ท้าทายนำธุรกิจผงาดเป็นผู้นำแวดวงบริหารการขาย เช่า ขายฝากและบริหารโครงการอสังหาริมทรัพย์ได้ประสบความสำเร็จในวัย 30ต้นๆ ในอีกแง่มุมหนึ่ง เขายังมีบทบาทเสมือน ครู.. นักเขียนที่มีผลงานโดดเด่น..และนักท่องเที่ยวตัวยง โดยสามารถนำสิ่งเหล่านี้มาเชื่อมโยงต่อยอดธุรกิจได้อย่างน่าทึ่ง สมดั่งการยึดปรัชญาขยันอดทน “ทุกอาชีพสำเร็จได้..ทำแล้วอย่าเลิก” ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค “แพ้เป็นถ่าน ผ่านเป็นเพชร” นำทางก้าวย่างของชีวิต
“ธาตรี นุชสวาท” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที กรุ๊ป แอซเซ็ท จำกัด ผู้บริหารวัย 34 ปีในปัจจุบันแม้ถือกำเนิดในครอบครัวที่ไม่ได้ร่ำรวยเหมือนใครเขา แต่สามารถสานฝันของตัวเองสร้างฐานะระดับเศรษฐีได้ตั้งแต่อายุยังน้อย .. สร้างบ้านให้พ่อแม่ มีธุรกิจเป็นของตัวเองทั้งด้านอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจท่องเที่ยว
คุณธาตรี บอกเล่าเส้นทางชีวิตที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบของตนว่า “เป็นคนจังหวัดสุพรรณบุรี และเรียนหนังสือไม่เก่ง สอบเอนทรานซ์ไม่ได้จึงต้องมาเรียนมหาวิทยาลัยเอกชน เมืองกรุง โดยเรียนสาขาการบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ ที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ขณะเดียวกันฐานะทางบ้านที่ลำบากได้เป็นแรงบันดาลใจว่า ถ้าเรียนจบทำงานแล้วอยากมีบ้านสวย ๆอยู่
ประกอบกับการเรียนในรั้วมหาวิทยาลัยสอนว่า ควรทำงานแบบแฟร์ ๆ ทำมากได้มาก ไม่ทำก็ไม่ต้องจ่ายจึงเป็นที่มาว่า เมื่อเรียนจบจึงได้ทำงานเป็นเซลล์แมน โดยเป็นเซลล์ด้านสินเชื่อของธนาคารหลายแห่ง ทำหน้าที่ขายบัตรเครดิต ด้านสินเชื่อบุคคล ของธนาคาร โดยไม่มีเงินเดือน เริ่มที่ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้(HSBC) ธนาคารไทยพาณิชย์และซิตี้แบงก์ ที่เริ่มเป็นหัวหน้าทีมแล้ว ทำได้1 ปีได้ย้ายไปธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ในตำแหน่งผู้จัดการ
ต่อมาชีวิตในวัยทำงาน เริ่มมีปัญหาผลจากการกู้ยืม เริ่มมีหนี้สิน จึงทำให้เริ่มมองหาอาชีพเสริมใหม่ๆ ราวช่วงอายุ 28 ปี จึงเริ่มเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิต”
จากเซลล์แมนสู่โบรกเกอร์อสังหาฯ
ด้วยชีวิตเซลล์แมนแบงก์ที่ยังไม่สามารถเติมเต็มให้กับชีวิตได้ จึงต้องหารายได้เสริมควบคู่กับงานประจำ คุณธาตรีเลือกเริ่มที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยดึงเอาความรู้และประสบการณ์ด้านสินเชื่อ การขาย จากธนาคารมาใช้ให้เกิดประโยชน์ด้วยการเป็นตัวแทนขายอิสระขายคอนโดมิเนียม โดยลองผิดลองถูกก่อน ทำได้ประมาณ 1-2 ปี ก่อนลาออกจากธนาคารมาเปิดบริษัททำธุรกิจเองเต็มตัว เมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา..ราวปี 2558
แม้ยังใหม่ในวงการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ อายุยังน้อยและความรู้น้อย แต่การเป็นเซลล์มาก่อนทำให้คุณธาตรีเน้นพยายามขายเป็นหลัก ซึ่งก็ขายได้ โดยพยายามขายผ่านหลายช่องทางด้วยฝีมือทีมเซลล์ที่มาจากธนาคารและผ่านการขายตรง โดยไปตั้งบูธขายตามอาคาร สำนักงานต่าง ๆ
“เราจะเน้นขายโครงการของผู้ประกอบการทั่วไป โดยเน้นโครงการคุณภาพ ซึ่งได้ผลตอบแทนเป็นคอมมิชชั่นกลับมา แล้วแต่ข้อตกลง ช่วงแรกๆที่เริ่มขายมียอดได้ 4-5 ยูนิตต่อเดือน แต่พอมีเครือข่ายก็ขายได้มากขึ้น”
คุณธาตรีกล่าวต่อว่า เมื่อก่อนการขายอสังหาฯคอนโดมิเนียมง่ายกว่านี้ สาเหตุเพราะช่องทางออนไลน์มาแรง มีการขายออนไลน์เพิ่มขึ้นทำให้มีการแข่งขันสูง แต่ของทีมที กรุ๊ป แอซเซ็ท มีวิธีการขายเฉพาะทาง ที่ถือเป็นจุดแข็งคือ มีเครือข่าย มีความรู้เรื่องธนาคาร มีการวิเคราะห์ลูกค้าว่า ใครซื้อได้หรือไม่ได้ โดยจะเลือกลูกค้าที่เหมาะสมกับลูกค้า มีคุณภาพ โครงการสวยๆ ทำให้สามารถปิดการขายได้ทุกคน
“ปัจจุบันเราดูแลการขายให้กับบริษัทติดท็อปไฟฟ์ ในตลาดหลักทรัพย์จำนวน 4-5 บริษัท เป็นคอนโดมิเนียมประมาณ 1,000 ยูนิต ราคาเฉลี่ย 2.5 ล้านบาท จะเน้นผู้ซื้อบ้านหลังแรกเป็นหลัก”
สำหรับความยากของตลาดในขณะนี้ ส่วนหนึ่งยังเกิดจากการกำกับดูแลของธนาคาร ตัวลูกค้าเองและเศรษฐกิจ การอนุมัติสินเชื่อลูกค้าทำได้ยากขึ้น
อย่างไรก็ดีทางที กรุ๊ป แอซเซ็ทยังไปได้อยู่ ยอดขายยังดีอยู่ แม้ต่ำกว่าเป้าเล็กน้อย ผลจากการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของธนาคาร
“แต่เราก็ช่วยลูกค้า โดยการคัดกรองลูกค้าก่อนว่า ถ้ากู้ได้เท่านี้รับได้ไหม๊ ถ้าซื้อบ้านหลังที่สอง จะกู้ได้เท่าไหร่ แต่จะเน้นกลุ่มบ้านหลังแรกเสียส่วนมาก เพราะบ้านหลังแรกจะไม่กระทบมาก
ในอนาคตทางที กรุ๊ป แอซเซ็ทอาจขยับมาจับอสังหาริมทรัพย์แนวราบ รอบกรุงเทพเพิ่ม โดยพบว่า ยอดขายค่อนข้างดีและเวลานี้ผู้ประกอบการหันมาทำแนวราบ ทาวน์โฮมกันเป็นจำนวนมาก จึงมองว่า อีกประมาณปีหน้า 2563 อาจจะถึงจุดที่ล้นตลาด”
ออกหนังสือ-สอนสร้างเงินล้านจากอสังหาฯ
หลังจากประสบความสำเร็จในธุรกิจตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์ คุณธาตรียังสนใจงานเขียนหนังสือเพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ของตนด้วยโดยเล่าว่า ได้แต่งหนังสือจากประสบการณ์จริงของตัวเอง ชื่อว่า “วิธีสร้างเงินล้านจากธุรกิจอสังหาฯ” บอกวิธีขายด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี และกำลังจะมีเล่มที่2 ออกมา โดยอยู่ระหว่างตีพิมพ์”
นอกจากมีผลงานหนังสือแล้ว คุณธาตรียังขยันลุยงานต่อเนื่อง ด้วยการเปิดคอร์สสอนวิธีขายอสังหาริมทรัพย์ เริ่มในปี 2561 ที่ผ่านมา เปิดไปแล้ว 8 รุ่น ๆละ 150 คน ราคาคอร์สละ 790 บาท เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ที่สนใจทั่วไป และยังมุ่งปั้นให้เป็นตัวแทนขายของบริษัทหรืออบรมแล้วสามารถประกอบอาชีพเป็นตัวแทนขายอิสระกับที กรุ๊ป แอซเซ็ทได้เลย
“เราจะให้ความรู้อย่างเต็มที่ มีผู้มาเรียนรู้จากหลากหลายอาชีพ ที่ต้องการได้แนวคิดใหม่ๆคนรุ่นใหม่ๆ และผู้อยากมีอาชีพเสริม อบรมเสร็จแล้วมีผู้มาเป็นตัวแทนขายให้ประมาณ 10% ซึ่งผมถือว่า ประสบความสำเร็จแล้ว ได้บุคลากรมาช่วยงาน โดยขณะนี้บริษัทมีพนักงานอยู่ประมาณ 70 คน ไม่นับรวมเครือข่ายที่เป็นตัวแทนขายอิสระอีกนับร้อยคน”
ท่องเที่ยวเปิดโลก ต่อยอดเป็นอีกธุรกิจ
หลังจากทำงานหนักและทำอะไรหลายอย่าง คุณธาตรีใช้วิธีไปเที่ยวต่างประเทศเพื่อหยุดทุกสิ่งไว้ข้างหลัง เพื่อให้ได้พักจริงๆ ปิดโทรศัพท์ หยุดการติดต่อทั้งหมด จนกว่าจะกลัยเข้าที่พักในตอนเย็น จึงจะเปิดการติดต่อทางไลน์เท่านั้น
“การไปเที่ยวต่างประเทศ เราเหมือนได้เปิดโลก เกิดแรงบันดาลใจ ได้แนวคิดใหม่ ๆ จากการที่เป็นคนชอบเที่ยวด้วย เราต้องมีเวลานอก เพื่อไปทำอะไรใหม่ ๆ เพราะบางทีจะตัน”
เพราะความชอบเที่ยว ในเวลาต่อมาจึงเป็นที่มาของอีกธุรกิจของคุณธาตรี โดยเปิดบริษัทท่องเที่ยวเพิ่มอีกแห่ง ซึ่งเปิดมา 2 ปี แล้ว มีชื่อว่า “Any Where”
ด้วยความที่ธุรกิจด้านนี้มีการแข่งขันสูงมาก นักธุรกิจรุ่นใหม่อย่างคุณธาตรีจึงเน้นการขายไอเดียโดยเป็นการทำทัวร์เพื่อแลกเปลี่ยนธุรกิจกันมากกว่า เป็นการนำลูกค้านักธุรกิจมาเจอกัน ทำให้ไม่ต้องแข่งขันเรื่องราคากับบริษัททัวร์เจ้าอื่นๆ ซึ่งความแตกต่างนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยทริปแรกที่ไปเมืองฟูกูโอกะของญี่ปุ่น มีผู้ให้ความสนใจจำนวนมากและได้เชื่อมต่อธุรกิจกันเอง
ตอนนี้เตรียมจัดทริปที่2 ไปเบลเยี่ยม เนเธอร์แลนด์ และเยอรมัน รวม 8 วัน ราคาประมาณ 90,000 บาท กำหนดเดินทางวันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 ได้รับความสนใจดีมากเช่นกันมีผู้จองใกล้เต็มในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งผู้สนใจไปเที่ยวส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเจ้าของธนาคาร นายธนาคารและนายทุนที่มีกำลังซื้อไป รวมทริปละไม่เกินจำนวน 25 คน
“เราเลี่ยงการแข่งขันกับคนอื่นด้วยการมาขายไอเดียที่เห็นว่า คนรุ่นใหม่สนใจทำธุรกิจ แต่ส่วนใหญ่ขาดคอนเนคชั่น และคนรุ่นใหม่ชอบเที่ยวด้วย จึงให้ทีมเซลล์ไปนำเสนอ และมีเงื่อนไขไม่ให้มีธุรกิจซ้ำกัน ให้ได้มาพบปะกัน
อนาคตถ้าผลตอบรับดี จะจัดไปเดือนละทริป โดยที่มองไว้เป็นทริปไปชมแสงเหนือ นอร์เวย์ โซนยุโรป
สำหรับโซนเอเชียจะเน้นที่ญี่ปุ่น เนื่องจากมีเที่ยวบินตรงมากและเป็นที่โปรดปรานของคนไทย โดยส่วนตัวก็ชอบ เพราะมีเสน่ห์คล้ายไทย ประชากรเป็นมิตร อาหารญี่ปุ่นคนไทยก็ชอบ อีกทั้งมีพาร์ทเนอร์ที่เชี่ยวชาญด้านญี่ปุ่นช่วย จึงเป็นจุดแข็งของบริษัท”
เมื่อทำท่องเที่ยวแล้วคุณธาตรียังไม่พลาดนำทริปแห่งความประทับใจ ความสำเร็จมาเผยแพร่ต่อในรูปของยูทูป เป็นการต่อยอดธุรกิจได้อีกทางหนึ่ง มีชื่อช่องว่า ” บิซิเนส ไทม์เอาท์ ” หรือ ” เวลานอกธุรกิจ”
“เพิ่งเริ่มทำช่องยูทูปมาได้ 1 เดือน โดยนำทริปเที่ยวมาลง และมีนักธุรกิจที่ไปกับเราช่วยสนับสนุนต่อเนื่อง”
แนะคนรุ่นใหม่ทำตามฝัน ทำแล้ว อย่าหยุดอย่าเลิก
เมื่อมองในภาพรวม ย้อนกลับไปในเวลา 5 ปี กล่าวได้ว่า คุณธาตรีสามารถประสบความสำเร็จสร้างธุรกิจสร้างฐานะเข้าข่ายเศรษฐีได้ตั้งแต่อายุยังน้อย ในขณะที่ยังใช้ชีวิตเรียบง่าย เหมือนคนทั่วไป
คุณธาตรีกล่าวว่า ในวัย34 ปีมาอยู่ตรงจุดนี้ได้ถือว่า ได้มาอยู่ในจุดที่ตัวเองฝันแล้ว ความสำเร็จนี้เกิดจากมีความอยากแล้วลงมือทำ เรามีความฝัน แล้วกำหนดเวลาให้ตัวเอง
ซึ่งต้องขอบคุณอาชีพเซลล์ ที่ไม่มีเงินเดือน ทำให้ต้องมีการวางแผน ตื่นตัวตลอด เพราะหากไม่วางแผนให้ดีเราจะไม่มีเงิน เคยมีบางเดือนได้ค่าคอมมิชชั่นเพียง 2,000 บาทเท่านั้น อาชีพเซลล์จึงทำให้เป็นจุดเปลี่ยนว่า ต้องทำอะไร
ต่อไปคงจะพัฒนาธุรกิจที่ทำอยู่ทั้งด้านอสังหาฯ และท่องเที่ยวให้เติบโตต่อไป
“จะพยายามทำให้บริษัทเติบโตแบบก้าวกระโดดทุกปี และเป็นบริษัทแรก ๆ ที่ผู้ประกอบการอสังหาฯรายใหญ่ ๆเรียกใช้บริการ และใน 5ปีจะนำพาบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ให้ได้
ส่วนบริษัททัวร์วางไว้เป็นบริษัทคุณภาพระดับกลางถึงบน รวมถึงช่องยูทูป ท่องเที่ยว ที่จะได้รับการสนับสนุนจากผู้ไปเที่ยวกับเรา”
นับเป็นงานหนักและท้าทายทีเดียว แต่คุณธาตรีเป็นนักธุรกิจที่ฉลาด มีความคิดสร้างสรรค์ ขยัน อดทนและฉลาดในการใช้ชีวิต คงจะสามารถวิ่งสู่เป้าหมายได้ไม่ยาก
“ในแต่ละวันผมจะแบ่งเวลา ตื่นเช้ามาดูว่า จะทำอะไรต่อ แบ่งเวลาให้ตัวเองว่า ช่วงไหนจะหยุดพัก โดยแต่ละปีจะไปเที่ยวหลายครั้งทั้งเที่ยวส่วนตัวและเที่ยวพร้อมทำงานกับบริษัททัวร์ของตัวเอง”
นับว่าเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่ต้องการจะประสบความสำเร็จบ้าง
ซึ่งคุณธาตรีแนะว่า ถ้าหากใครมีงานประจำที่มั่นคงแล้วไม่จำเป็นต้องลาออก แต่เราสามารถทำอาชีพเสริมควบคู่กันไปได้ จนมีรายได้จากอาชีพเสริมมากกว่างานประจำแล้วจึงค่อยออกมา
ที่สำคัญทุกอาชีพจะสำเร็จได้.. ต้องอดทน.. ต้องใช้เวลา ระหว่างทางเจออุปสรรค ต้องไม่เลิก…