แบงก์กรุงศรีกำไรสุทธิครึ่งปี62
19.7พันล้านบ.เพิ่มขึ้น58.1%
กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) รายงานผลประกอบการที่โดดเด่นเป็นพิเศษในงวดครึ่งปีแรกของปี 2562 โดยมีกำไรสุทธิจำนวน 19.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 58.1% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยขับเคลื่อนผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิด้วยแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของเงินให้สินเชื่อที่เติบโต 5.0% ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ รวมทั้งการบันทึกกำไรจากการลงทุนภายหลังการขายหุ้นจำนวน 50% ในบริษัท เงินติดล้อ จำกัด
นายเซอิจิโระ อาคิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ผลการดำเนินงานของกรุงศรีในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562 โดดเด่นเป็นอย่างยิ่งโดยมีกำไรสุทธิจำนวน 19.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 58.1% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ผลประกอบการที่แข็งแกร่งนี้มีปัจจัยขับเคลื่อนมาจากการเติบโตของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิอันเป็นผลของเงินให้สินเชื่อที่ขยายตัวในอัตรา 5.0% ในช่วงครึ่งปีแรกนี้ รวมทั้งการบันทึกกำไรจากการขายหุ้นจำนวน 50% ในบริษัท เงินติดล้อ จำกัด
ทั้งนี้ หากไม่รวมกำไรจากการขายหุ้นดังกล่าว กำไรสุทธิจากการดำเนินธุรกิจตามปกติในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562 ยังคงแข็งแกร่งอยู่ที่ระดับ 13.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.6% จากช่วงเดียวกันของปี 2561 สะท้อนถึงความสามารถในการแข่งขันและการดำเนินธุรกิจของกรุงศรี”
นายอาคิตะยังให้ความเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มธุรกิจโดยรวม ว่า “จากความเสี่ยงด้านปัจจัยภายนอกที่เพิ่มมากขึ้นและความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกซึ่งเป็นผลมาจากข้อพิพาททางการค้าระหว่างประเทศ กรุงศรีได้ปรับประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปี 2562 ลงมาอยู่ที่ 3.2%
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความท้าทายดังกล่าว เราคาดว่าแนวโน้มการขยายตัวของอุปสงค์ภายในประเทศจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ และการเดินหน้าลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงการเติบโตอย่างแข็งแกร่งตามแผนการดำเนินงานของกรุงศรีอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีแรก กรุงศรีจึงยังคงเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อที่ระดับ 6-8% ในปี 2562”
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2562 กรุงศรี ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับห้าของไทยด้านสินทรัพย์ สินเชื่อและเงินฝาก และเป็นหนึ่งในห้าสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบ (D-SIB) มีสินเชื่อรวม 1.76 ล้านล้านบาท เงินรับฝาก 1.50 ล้านล้านบาท และสินทรัพย์รวม 2.28 ล้านล้านบาท ขณะที่เงินกองทุนของธนาคารอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 253.24 พันล้านบาท หรือเทียบเท่า 15.88% ของสินทรัพย์เสี่ยง โดยเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นของเจ้าของคิดเป็น 11.28%
สรุปผลประกอบการตามงบการเงินรวมที่สำคัญสำหรับครึ่งปีแรกของปี 2562 มีดังนี้
- กำไรสุทธิ: จำนวน 7 พันล้านบาท ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562 เพิ่มขึ้น 58.1% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2561
- การเติบโตของเงินให้สินเชื่อ: เพิ่มขึ้น 5.0% คิดเป็นจำนวน 3 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับ
ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2561 ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562 เงินให้สินเชื่อเติบโตครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจ โดยสินเชื่อลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ เพิ่มขึ้น 6.3% ขณะที่สินเชื่อลูกค้าธุรกิจ SME และสินเชื่อลูกค้ารายย่อย เพิ่มขึ้น 5.3% และ 4.0% ตามลำดับ - การเติบโตของเงินรับฝาก: เพิ่มขึ้น 0% หรือจำนวน 71.1 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับ
ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2561 - รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย: เพิ่มขึ้น 9% จากช่วงครึ่งปีแรกของปี 2561 ปัจจัยหลักมาจากการบันทึกกำไรจากการขายหุ้นจำนวน 50% ในบริษัท เงินติดล้อ จำกัด และรายได้จากค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ
- อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้: อยู่ที่ 2% ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562 ปรับตัวดีขึ้นจาก 46.4% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2561
- ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM): อยู่ที่ 3.69% ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562 เทียบกับ 3.75% ในในช่วงครึ่งแรกของปี 2561
- สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs): อยู่ที่ 1.96% ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562 ปรับตัวดีขึ้นจาก 08% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2561
- อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้: ปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ 5% ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562 เมื่อเทียบกับ 160.8% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2561
- อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง: ยังคงแข็งแกร่งที่ระดับ 88%