พม.สานต่อพลังยุวอาสาโชว์ผลงาน
“พัฒนาเพื่อการแบ่งปันที่ยิ่งใหญ่” ปี62
นายยุพ นานา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) เป็นประธาน เปิดนิทรรศการแสดงผลงาน โครงการ “พัฒนาเพื่อการแบ่งปันที่ยิ่งใหญ่ Shift and Share” ภายใต้โครงการปาฏิหาริย์แห่งชีวิต (Miracle of Life) ประจำปี 2562 ตามกรอบแนวคิด “พลังจิตอาสา พัฒนาสังคมและสวัสดิการ” วันนี้ (22 ส.ค. 62) เวลา 13.30 น. ที่เวสต์เกต ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต จังหวัดนนทบุรี เพื่อให้ทุกคนร่วมเป็นจิตอาสาในการช่วยเหลือสังคมโดยไม่หวังผลตอบแทน
นายยุพ นานา กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดย กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) ได้น้อมนำพระดำริทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี มาดำเนินโครงการปาฏิหาริย์แห่งชีวิต (Miracle of Life) ตั้งแต่ปี 2552 จนถึงปัจจุบัน โดยบูรณาการกับภาคีเครือข่าย อาทิ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานระดับท้องถิ่นต่างๆ ร่วมกันพัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชน สู่การเป็นยุวอาสา เพื่อชี้เป้าเฝ้าระวัง มีส่วนร่วมป้องกัน แก้ไข และพัฒนา ผ่านโครงการสร้างสรรค์เชิงนวัตกรรมทางสังคม โดยในปี 2562 ได้ดำเนินการในพื้นที่ 11 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ลำพูน ลำปาง เพชรบูรณ์ ลพบุรี หนองบัวลำภู นครพนม อำนาจเจริญ ตรัง และกระบี่
นายยุพ กล่าวต่อไปว่า การจัดนิทรรศการแสดงผลงานโครงการ “พัฒนาเพื่อการแบ่งปันที่ยิ่งใหญ่ Shift and Share” ภายใต้โครงการปาฏิหาริย์แห่งชีวิต (Miracle of Life) ประจำปี 2562 เป็นโครงการที่เปิดพื้นที่ให้เด็กและเยาวชนได้แสดงความสามารถ รวมถึงการสร้างการมีจิตอาสาในการช่วยเหลือสังคมโดยไม่หวังผลตอบแทน รู้และเข้าใจบทบาทหน้าที่ของตนเอง ซึ่งถือได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนสู่สังคมแห่งการให้ (Shift & Share) ซึ่งมีความสอดคล้องกับโครงการจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำริ “เราทำความดีด้วยหัวใจ” ของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้วยทรงมุ่งหวังให้พสกนิกรทุกหมู่เหล่า มีความสมัครสมานสามัคคี ร่วมมือร่วมใจประกอบกิจกรรมสาธารณะ เพื่อประโยชน์สุขของชุมชนส่วนรวมโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
ทั้งนี้ มีโครงการชนะเลิศผ่านเข้ารอบระดับประเทศ ประจำปี 2562 จำนวน 12 โครงการ ได้แก่ 1) โครงการ “เตาลำไย ด้อยโอกาส” โรงเรียนเทศบาล 1 บ้านกลาง จังหวัดลำพูน
2) โครงการ “สวดไห้ ไส้หวด” โรงเรียนประชาราชวิทยา จังหวัดลำปาง 3) โครงการ “ถังกรองขยะเปียก” ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ 4) โครงการ “โถ” โรงเรียนพระโขนงพิทยาลัย กรุงเทพมหานคร 5) โครงการ “ปั๊มถ้วย…ช่วยรักษ์โลก” โรงเรียนคำแสนวิทยาสรรค์
จังหวัดหนองบัวลำภู 6) โครงการ “App SMS (Sex Must Say)” โรงเรียนศรีบัวบานวิทยาคม จังหวัดนครพนม
7) โครงการ “เท้าสาวไหม” โรงเรียนคึมใหญ่วิทยา จังหวัดอำนาจเจริญ 8) โครงการ “Genius Bed” โรงเรียนอำนาจเจริญพิทยาคม จังหวัดอำนาจเจริญ 9) โครงการ “Poopy Paper” โรงเรียนอ่าวลึกประชาสรรค์ จังหวัดกระบี่ 10) โครงการ “พี่ยิ้มแฉ่ง ชวนน้องฟันสวยด้วยมะม่วงหิมพานต์” โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัยกระบี่ 11) โครงการ “กล่องสร้างสรรค์ สานฝันให้เพียงหลวง” โรงเรียนเพียงหลวง 9 ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาฯ จังหวัดอำนาจเจริญ และ 12) โครงการ “Phaingluang 10’S SEED” โรงเรียนเพียงหลวง 10 ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาฯ จังหวัดนครพนม
นายยุพ กล่าวเพิ่มเติมว่า ยังมีโครงการที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2556-2561 ที่ผ่านเข้ารอบระดับประเทศ จำนวน 5 โครงการ ได้แก่ 1) โครงการ “หุ่นละครมือสื่อสร้างสรรค์” โรงเรียนโนนสูงศรีธานี จังหวัดนครราชสีมา 2) โครงการ“Hello Massage” โรงเรียนถนนหักพิทยาคม จังหวัดบุรีรัมย์ 3) โครงการ “หุ่นกระบอก 1300 แจ้งภัย ใส่ใจชุมชน” โรงเรียนหนองโสนพิทยาคม จังหวัดพิจิตร 4) โครงการ “Smart Gens” โรงเรียนบ้านกลางพิทยาคม จังหวัดพิษณุโลก และ 5) โครงการ “จิ๋วแจ๋วพิทักษ์โรค” โรงเรียนบ้านหินช้าง จังหวัดระนอง
นอกจากนี้ภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย ประกอบด้วย กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ผ่านผลงานโครงการที่ชนะเลิศระดับจังหวัด “Innovation Land ตะลุยแดนนวัตกรรม” อีกทั้งโครงการที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ ปี 2556 ทั้งสิ้น 52 โครงการ รวมทั้งกิจกรรมจากบูทสู่ความเป็นเลิศในชีวิต ทั้งบูท Design Thinking กับการพัฒนาศักยภาพเยาวชน โดยกลุ่มนวัตกรรมเยาวชนเพื่อสังคม บูทนักจัดกิจกรรมเยาวชนต้นแบบ โดยกลุ่มผู้นำนักจัดกิจกรรมด้านเด็กและเยาวชนต้นแบบ (Youth Leader Transformation)บูทเกลานิสัยเปลี่ยนชีวิต โดย Peace Gen
“ทั้งนี้ กระทรวง พม. พร้อมขับเคลื่อนโครงการปาฏิหาริย์แห่งชีวิต (Miracle of Life) เพื่อเสริมสร้างพลังจิตอาสา ในการบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์เล็กๆ ให้เติบโตขึ้นเป็นต้นไม้แห่งการให้ แผ่กิ่งก้านสาขาการมีจิตอาสา ครอบคลุมทุกพื้นที่และหวังให้พลังของเด็กและเยาวชนเป็นกลไกสำคัญในการช่วยเหลือและพัฒนาสังคม เพื่อการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข การช่วยเหลือเกื้อกูล แบ่งปันกัน มีความร่วมมือซึ่งกันและกันในสังคม การปลูกจิตสำนึกให้เด็กและเยาวชนคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมและปลูกฝังการเป็น“ผู้ให้”
พร้อมทั้งให้ทุกภาคส่วนได้เห็นถึงศักยภาพ ร่วมสนับสนุนและให้โอกาสในการทำกิจกรรมของเด็กเพิ่มยิ่งขึ้น เพื่อร่วมกันสร้าง “คนดี เก่ง และมีคุณภาพ” และขอขอบคุณทุกภาคส่วน ที่มีส่วนร่วมในการช่วยกันพัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชนสู่การเป็น “ผู้ให้” ตามพระดำริทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ร่วมเป็นเครือข่ายการทำงานด้านสังคมในระดับพื้นที่ สร้างสรรค์โครงการเพื่อให้ชุมชน สังคมเกิดความเข้มแข็งและยั่งยืน ต่อไป” นายยุพ นานา กล่าวในตอนท้าย