“ดาว-เอสซีจี” มุ่งแก้ขยะพลาสติก
พัฒนาโซลูชั่นสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน
บริษัท ดาว ร่วมกับ เอสซีจี ลงนามข้อตกลงความร่วมมือในการพัฒนาโซลูชั่นใหม่ ๆ ในการรีไซเคิลพลาสติกและนำขยะพลาสติกกลับมาใช้ประโยชน์ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับขยะพลาสติก และป้องกันการหลุดรอดออกสู่สิ่งแวดล้อม พร้อมขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) สำหรับพลาสติกในประเทศไทย
มร.จิม ฟิทเทอร์ลิง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดาว
มร.จิม ฟิทเทอร์ลิง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดาว กล่าวว่า “ภาคอุตสาหกรรมและทุกคนในสังคมจำเป็นต้องช่วยกันนำพลาสติกกลับมาใช้ใหม่ด้วยการจัดเก็บและการจัดการขยะอย่างถูกวิธี โดยต้องลงทุนในด้านเทคโนโลยีในการจัดเก็บ การบริหารจัดการขยะ การรีไซเคิล ตลอดจนการหาตลาดใหม่ ๆ ให้กับขยะพลาสติกเหล่านั้น ปัจจุบัน ดาว ได้ร่วมมือกับพันธมิตรทั่วโลกในการนำขยะพลาสติกมาใช้ประโยชน์และรีไซเคิลใหม่ในรูปแบบต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น การทำงานร่วมกับเอสซีจีในครั้งนี้ จะช่วยให้เราทำให้โลกไม่มีขยะพลาสติกตกไปสู่สิ่งแวดล้อม”
ข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง ดาว และ เอสซีจี ในครั้งนี้ เกิดขึ้นจากวิสัยทัศน์ร่วมกันของทั้งสององค์กรในการสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนพลาสติก เพื่อลดปริมาณการรั่วไหลของพลาสติกไปสู่สิ่งแวดล้อม ด้วยเทคโนโลยีและกระบวนการด้านการรีไซเคิลเชิงกล (Mechanical Recycling) การรีไซเคิลพลาสติกกลับเป็นวัตถุดิบ (Feedstock Recycling) และการนำวัตถุดิบหมุนเวียนมาผลิตพลาสติก (Renewable Feedstock) ที่เกิดขึ้นในความร่วมมือครั้งนี้ จะทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อาทิ เม็ดพลาสติกรีไซเคิล ผลิตภัณฑ์รีไซเคิลจากขยะพลาสติก วัตถุดิบปิโตรเคมีจากขยะพลาสติก เม็ดพลาสติกที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ เป็นต้น
นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี
นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี กล่าวว่า “ความร่วมมือในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะจัดการปัญหาพลาสติกใช้แล้วอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยการนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจ ทำให้เกิดธุรกิจใหม่ที่ส่งเสริมให้เกิดความยั่งยืน รวมทั้งเป็นโซลูชั่นเพื่อการรีไซเคิล และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับขยะพลาสติกในประเทศไทย”
มร.โจนาธาน เพนไรซ์ ประธานบริษัท ดาว ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
มร.โจนาธาน เพนไรซ์ ประธานบริษัท ดาว ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “เศรษฐกิจหมุนเวียนเป็นโอกาสทางธุรกิจและเป็นอีกหนทางแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน ดาว จะนำองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญด้านวัสดุศาสตร์ และประสบการณ์ทางธุรกิจกว่า 50 ปีในประเทศไทย มาพัฒนาเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับขยะพลาสติกในประเทศต่อไป”
ความร่วมมือในครั้งนี้นอกจากจะตอบโจทย์ปัญหาสังคม ยังตอบสนองนโยบายรัฐบาลที่จะเพิ่มอัตราการนำขยะพลาสติกกลับมาใช้ประโยชน์ภายในปี พ.ศ. 2570 การที่ขยะพลาสติกหลุดรอดสู่สิ่งแวดล้อมถือเป็นปัญหาที่สำคัญในปัจจุบัน ที่ผ่านมา ดาว และ เอสซีจี จึงได้คิดค้นวิธีการและนวัตกรรมในการช่วยแก้ปัญหาดังกล่าว รวมทั้งพัฒนาเทคโนโลยีที่นำขยะพลาสติกมาเป็นส่วนผสมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของถนนยางมะตอยและลานจอดรถจากพลาสติกรีไซเคิล ซึ่งช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับขยะพลาสติกที่มีมูลค่าต่ำ โดยเฉพาะบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดหลายชั้นและขยะพลาสติกที่ปนเปื้อน
ระบบเศรษฐกิจในขณะนี้เป็นแบบเส้นตรง (Linear Economy) คือ นำทรัพยากรธรรมชาติมาผลิตใช้แล้วก็ทิ้งไป แต่เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เป็นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าให้เกิดประสิทธิผลสูงสุดด้วยกระบวนการใช้ซ้ำ หมุนเวียนกลับมาใช้ และการรีไซเคิลแปรรูปเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่า ซึ่งมีความยั่งยืนกว่าและลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในสังคมปัจจุบัน
ที่ผ่านมา ดาว และ เอสซีจี ได้เป็นสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้งเครือข่ายพันธมิตรเพื่อกำจัดขยะพลาสติก หรือ Alliance to End Plastic Waste (AEPW) ซึ่งร่วมกับสถาบันการเงิน ภาครัฐ ภาคเอกชน และหน่วยงานพัฒนาเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ในการร่วมกันสร้างสรรค์โลกที่ปราศจากขยะพลาสติกให้เป็นจริงได้ในที่สุด
ภายในงานมีการจัดแสดงผลงานนวัตกรรมถนนพลาสติกรีไซเคิลที่เป็นการพัฒนาร่วมกันของดาว และ เอสซีจี และเป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่จะนำมาใช้ภายหลังการลงนามข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ด้วย โดยนายประทรรศน์ สูตะบุตร รองผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทยและนายธวัชชัย ตุงคะเวทย์ Technical Service and Development Packaging and Specialty Plastics บริษัทสยามเลเทกซ์สังเคราะห์ จำกัด ร่วมให้ข้อมูลว่า การนำขยะพลาสติกมาใช้ทำถนนไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งยางมะตอยและพลาสติกผลิตจากทรัพยากรน้ำมันดิบเหมือนกัน ในขณะเดียวกันยังเป็นอีกวิธีช่วยกำจัดขยะพลาสติกอย่างคุ้มค่า ได้ถนนที่มีคุณสมบัติที่ดีขึ้น โดยมีค่าใช้จ่ายถูกลง
“ถนนปกติต้องมีการควบคุมอยู่ 4 เรื่อง ได้แก่ ด้านความแข็งแรง ความหนาแน่นของถนน ความเป็นรูพรุนและความยืดหยุ่น โดย 3 เรื่อง ความเป็นรูพรุน ความหนาแน่น และความยืดหยุ่น การใส่พลาสติกเข้าไปเป็นส่วนผสมไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง แต่สิ่งที่ดีขึ้นคือ ได้ความแข็งแรงเพิ่มขึ้น 15-30% และช่วยลดการกัดกร่อน โดยสามารถนำขยะพลาสติกมาใช้ได้ทุกชนิดทั้ง พลาสติกpe ที่เป็นประเภทถุงก๊อบแก๊บ pp ถุงร้อน pet ขวด แก้วใส พลาสติกใส่อาหารแช่แข็ง หรือพลาสติกหลายชั้น ถุงอาหารแช่แข็ง อีกทั้งยังถูกกว่า โดยต้นทุนการใช้ยางมะตอยอยู่ที่ 20 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่พลาสติกมีค่าจัดการ 10-15 บาท
ถนน 95% คือ หิน อีก 5% คือ ตัวเชื่อม หรือคือ ยางมะตอย ซึ่งพลาสติกมีคุณสมบัติเป็นตัวเชื่อมเหมือนกัน จึงสามารถนำยางมะตอยออก นำพลาสติกมาใส่แทน จึงมีความคุ้มค่าในการนำมาใช้งาน
ปัจจุบันนวัตกรรมถนนพลาสติกรีไซเคิลได้นำไปใช้งานจริงบ้างแล้ว ที่ นิคมอุตสาหกรรม RIL ระยอง, นิคมอุตสาหกรรมอมตะ , หมู่บ้านจัดสรร แกรนด์บางกอก บูเลอวาร์ดของบริษัท SC ASSET, ซีพีออลล์ (7-11) เอาไปทำลานจอดรถ ถ้าโครงการนี้ประสบความสำเร็จจะช่วยกำจัดขยะพลาสติกไปได้มาก ดังซีพีออลล์ มีสาขาอยู่มากกว่า 10,000 แห่ง ซึ่งถนน 1 กิโลเมตร ใช้ขยะพลาสติก 80,000 กิโลกรัม หากภาครัฐสนับสนุนอย่างจริงจัง จะเป็นประโยชน์อย่างมาก
โครงการนี้ มีข้อดีคือจะช่วยแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยการลดปัญหาขยะพลาสติก จะดีหรือไม่ที่จะทำของที่ไม่มีค่าให้มีค่า เรามีปัญหาขยะล้น จึงเป็นเรื่องที่ดีที่นำขยะมาใช้
แต่สิ่งสำคัญจำเป็นต้องปรับทัศนคติประชาชนให้ตระหนักถึงความสำคัญ นโยบายและกฎหมายจากภาครัฐที่เอื้อและสนับสนุน ให้การศึกษาประชาชนรู้จักแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง ทำด้วยใจและต้องมีสาธารณูปโภคให้พร้อม มีจำนวนเพียงพอ ใช้สะดวก เข้าถึงง่าย มีข้อความให้เข้าใจง่าย ไปที่ไหนจะต้องมีที่ทิ้งขยะ แยกเรียบร้อย”
อนึ่งสำหรับบริษัท ดาว (NYSE: DOW) ผสานพลังของเทคโนโลยีที่มีความหลากหลายที่สุดในภาคอุตสาหกรรมเข้ากับการบูรณาการด้านการผลิต นวัตกรรมเฉพาะด้าน และการดำเนินธุรกิจระดับโลก เพื่อสร้างการเติบโตทางธุรกิจและก้าวสู่การเป็นบริษัทด้านวัสดุศาสตร์ที่มีความโดดเด่นด้านนวัตกรรม การเอาใจใส่ต่อลูกค้า ให้ความสำคัญกับความแตกต่าง และดำเนินงานเพื่อความยั่งยืน ด้วยพอร์ตโฟลิโอทั้งในด้านวัสดุประสิทธิภาพสูง สารตัวกลางในอุตสาหกรรม และธุรกิจพลาสติกที่ครบวงจรและเน้นการตอบสนองตลาดเป็นหลัก ดาวจึงพร้อมที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นที่เน้นเทคโนโลยีซึ่งมีให้เลือกหลากหลายสำหรับลูกค้าในตลาดที่มีอัตราเติบโตสูง เช่น บรรจุภัณฑ์ โครงสร้างพื้นฐาน และผลิตภัณฑ์ดูแลผู้บริโภค
ปัจจุบัน ดาวมีฐานการผลิต 113 แห่งใน 31 ประเทศ และมีพนักงานประมาณ 37,000 คน โดยยอดขายในปี 2561 อยู่ที่ราว 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ คลิกอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.dow.comหรือติดตาม @DowNewsroom บน Twitter
ด้านธุรกิจ เคมิคอลส์ เอสซีจี เป็นผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ครบวงจรรายใหญ่ของประเทศไทยและเป็นผู้ผลิตชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย ครอบคลุมตั้งแต่การผลิตขั้นต้น (โอเลฟินส์) ไปจนถึง ขั้นปลาย ได้แก่ เม็ดพลาสติกหลักทั้ง 3 ประเภท คือ พอลิเอทิลีน พอลิโพรพิลีน และพอลิไวนิลคลอไรด์ เอสซีจี ยังมุ่งเน้นพัฒนาเทคโนโลยี และนวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อผลิตสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่มสูง (High Value Added Products and Services หรือ HVA) เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย